นับหนึ่งถึงพันประตู กับยอดกุนซือ ลิเวอร์พูล นาม เยอร์เก้น คล็อปป์ - FEATURE

นอกจากความสำคัญของชัยชนะเหนือ สปาร์ต้า ปราก 5-1 ว่าจะทำให้ ลิเวอร์พูล เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ได้แล้ว 99.99 เปอร์เซ็นต์ ก็ยังเป็นเรื่องของจำนวนประตูที่ทำได้ ว่าเด็กๆ ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้จัดให้แบบไม่กั๊ก จน "ทะลุพัน" ไปเรียบร้อย

4 อรหันต์ 1,000 ประตู

• 1. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 404 นัด
  
  2. เยอร์เก้น คล็อปป์ : ลิเวอร์พูล : 476 นัด
  
  3. อาร์แซน เวนเกอร์ : อาร์เซน่อล : 554 นัด
  
  4. เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 601 นัด
  

ไม่ใช่ 1,000 ในลีก แต่เป็น 1,000 ในทุกรายการ แต่ตลอดหน้าประวัติศาสตร์สามสิบกว่าปีของ พรีเมียร์ลีก ก็มีเพียง "4 อรหันต์" เท่านั้นที่สามารถทำให้ทีมของตัวเอง พังตาข่ายคู่แข่งได้ถึงหลักพันลูก

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดคนสมองเพชรแห่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้เวลาสั้นที่สุดเพียง 404 นัด เพื่อทำสำเร็จ ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว เป๊ป เสร็จเร็วกว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือปีศาจแดง ถึงเกือบ 200 เกม

สำหรับ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็ห่างจาก เป๊ป ไปไม่ไกล ที่ระยะ 72 เกม

ที่น่าสนใจคือ ยอดโค้ชทั้ง 4 ที่ทำสำเร็จ ก็ล้วนแต่พาทีมของตัวไปถึง "แชมป์พรีเมียร์ลีก" เช่นเดียวกันทั้งหมด

ปีต่อปี ได้กี่ลูก

• 2015/16 : 87 ประตู
  
  2016/17 : 92 ประตู
  
  2017/18 : 135 ประตู
  
  2018/19 : 115 ประตู
  
  2019/20 : 116 ประตู
  
  2020/21 : 97 ประตู
  
  2021/22 : 148 ประตู
  
  2022/23 : 103 ประตู
  
  2023/24 : 110 ประตู (ยังมีต่อ)
  

เปิดตัวได้ไม่แรงมาก กับการซัด 87 ประตูในซีซั่นแรกของการเข้านั่งเก้าอี้แทนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (8 ต.ค. 2015) เมื่อเกมรุกของปีนั้นยังไม่ถือว่าจัดจ้านลงตัว กลายเป็นนักเตะอย่าง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่เป็นดาวซัลโวของทีม 13 ปี

แต่ให้หลังมา ยอดประตูก็ก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในซีซั่น 2017/18 ที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้ามาสร้างความตูมตามโครมคราม 44 ล้านปอนด์ได้ผลเป็น 44 ประตูในปีนั้น และยังมี โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (27) กับ ซาดิโอ มาเน่ (20) ที่ร่วมกันซัดจนได้ยอดรวม 135 ประตู

สำหรับซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล จัดแจ่มๆ ให้แล้ว 110 ลูก ซึ่งก็จะมีเพิ่มอีกอย่างแน่นอนกับอีกนับสิบเกมที่เหลืออยู่ของ พรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับบอลถ้วยอีก 2 รายการที่ยังอยู่ในเส้นทางเช่นกัน

ดาวยิงในยุค คล็อปป์

• 205 ประตู : โมฮาเหม็ด ซาลาห์
  
  120 ประตู : ซาดิโอ มาเน่
  
  111 ประตู : โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
  
  55 ประตู : ดีโอโก้ โชต้า
  
  41 ประตู : ดิว็อค โอริกี้
  
  37 ประตู : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
  
  31 ประตู : ดาร์วิน นูนเยซ
  
  25 ประตู : เจมส์ มิลเนอร์
  
  23 ประตู : แดเนียล สเตอร์ริดจ์
  
  23 ประตู : เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
  

ไม่ต้องสงสัย โหดจัดๆ เลยสำหรับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่แค่ปีแรกก็กดแล้ว 44 ประตู และจนถึงตอนนี้ที่อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับ ลิเวอร์พูล มาเป็นปีที่ 7 ยอดแข้งอียิปต์ก็ซัดแล้ว 205 ลูกให้กับ คล็อปป์

เรียกว่า 44 ล้านปอนด์ที่ลงทุนไป ถูกหยั่งขรี้!

ทางหนึ่ง ยังต้องถือว่า คล็อปป์ ประสบความสำเร็จมากกับการสร้าง "สามประสาน" แดนหน้า อย่าง "SMF" สโตน-เมทัล-ไฟร์ เอ๊ย! ซาลาห์-มาเน่-ฟีร์มิโน่ ที่ต่างก็คลำตาข่ายได้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน นำมาซึ่งการเข้าเส้นชัยที่ทุกชีวิตในแอนฟิลด์ต่างก็รอคอย

ส่วนกับอรุณรุ่งที่ยังเป็นคำถามว่าใครจะมาสานต่อ อย่างน้อย คล็อปป์ ก็จะส่งไม้ต่อพร้อมมรดกชั้นยอดอย่าง ดีโอโก้ โชต้า และ ดาร์วิน นูนเยซ ที่ถึงตรงนี้ก็ยิงไปไม่น้อยเหมือนกัน

แต่กับ ซาลาห์... ลื้อไปคุยเองเด้อ!

ดาวแอสซิสต์ก็มา

• 
  94 แอสซิสต์ : โมฮาเหม็ด ซาลาห์
  
  82 แอสซิสต์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
  
  79 แอสซิสต์ : โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
  
  64 แอสซิสต์ : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
  
  48 แอสซิสต์ : ซาดิโอ มาเน่
  
  44 แอสซิสต์ : เจมส์ มิลเนอร์
  
  29 แอสซิสต์ : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
  
  22 แอสซิสต์ : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
  
  21 แอสซิสต์ : ดีโอโก้ โชต้า
  
  17 แอสซิสต์ : ดิว็อค โอริกี้
  

นอกจากยิงกระจายแล้ว ซาลาห์ ยังจัดแอสซิสต์แจ่มๆ ให้อีกถึง 94 แอสซิสต์

แม้ในบางการตัดไฮไลท์ขำขัน จะมุ่งเป้าโจมตีเรื่องการหวงบอลตะบี้ตะบัน "เล่นเอง" ของ ซาลาห์ แต่ก็ควรกระชากคอให้มาเห็นสถิตินี้ ว่าข้อสังเกตนั่นมันไม่ใช่เรื่องจริง!

ถัดจาก ซาลาห์ ก็ยิ่งมาพร้อมเสียงปรบมือ... ฟูลแบ็กภาษาอะไรแอสซิสต์ได้ตั้ง 82 ลูก กับเจ้า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ถึงตรงนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นกองหลังหรือกองกลางกันแน่

จากไหนอย่างไรบ้าง

• พรีเมียร์ลีก : 692 ประตู
  
  ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รวมรอบคัดเลือก) : 150 ประตู
  
  ลีก คัพ : 63 ประตู
  
  เอฟเอ คัพ : 49 ประตู
  
  ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก : 39 ประตู
  
  คอมมิวนิตี้ ชิลด์ : 5 ประตู
  
  สโมสรโลก : 3 ประตู
  
  ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ : 2 ประตู
  

จนถึงประตูล่าสุดที่ โดมินิก โซบอสซ์ไล เช็คบิลใส่ สปาร์ต้า ปราก เป็นประตูปิดเกมกำชัย 5-1 ช่วงทดเจ็บ

ลิเวอร์พูล มี พรีเมียร์ลีก เป็นเวทีสำคัญของการผลิตสกอร์ เมื่อกระหน่ำไปแล้ว 692 ลูกในยุคของ "เดอะ นอร์มอล วัน"

692 ประตูนั่น เฉลี่ยด้วยการหาร 9 เท่ากับมีถึงซีซั่นละเกือบ 77 ประตู

และอย่างที่ว่า ซีซั่นนี้จะมีเพิ่มอีกแน่ๆ และอาจอีกเยอะด้วย

นับหนึ่งถึงพัน

• 1 : เอ็มเร่ ชาน
  
  100 : อดัม ลัลลาน่า
  
  200 : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
  
  300 : โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
  
  400 : โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ (ยิงตัวเอง)
  
  500 : โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
  
  600 : โมฮาเหม็ด ซาลาห์
  
  700 : ดีโอโก้ โชต้า
  
  800 : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
  
  900 : โดมินิก โซบอสซ์ไล
  
  1,000 : ดาร์วิน นูนเยซ
  

แปลกดีว่าลูกแรกสุด กับลูกล่าสุด เกิดขึ้นในถ้วยเดียวกัน - ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก

เอ็มเร่ ชาน กองกลางเยอรมัน/เติร์ก ที่ตอนนี้คนอาจลืมไปแล้วว่าก็ยังอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นั่นแหละ (ในวัย 30) เป็นเจ้าของประตูแรกสุดของ ลิเวอร์พูล ในยุค คล็อปป์ เกมเสมอ รูบิน คาซาน 1-1 วันที่่ 22 ต.ค. 2015

ที่จริง เกมที่ คล็อปป์ ประเดิมคุม ลิเวอร์พูล มันคือการพาทีมบุกเตะ สเปอร์ส ที่กรุงลอนดอน (17 ต.ค.) แต่วันนั้นลูกทีมกลับจัดแจ่มๆ ให้ไม่ได้ จึงลงเอยที่ผลเสมอ 0-0

ข้ามมาถึงประตูที่ 900 โดมินิก โซบอสซ์ไล มิดฟิลด์ฮังการีที่ย้ายมาปีแรก เป็นคนเปิดสกอร์ลูกที่ 900 ให้ในซีซั่นนี้

ส่วนประตูที่ 1,000 ดาร์วิน นูนเยซ จัดให้ในจังหวะสับไกวอลเลย์งามๆ ฉีกสกอร์นำ สปาร์ต้า ปราก 2-0 เมื่อ 7 มีนาคม 2024

นั่นเท่ากับว่าจาก 900 ของ โซบอสซ์ไล ถึง 1,000 ของ นูนเยซ เกิดขึ้นภายในเพียงซีซั่นเดียวเท่านั้นเอง -- ด้วยหลักนี้ มาตรฐานนี้ ซีซั่นหน้าก็คาดหวังได้เลยถึงหลัก 1,100 และ 1,200 เรื่อยไป

ก็เพราะดีงามพระรามแปดแบบนี้... จะไม่ให้แฟนๆ เสียดายได้ไงกันเล่า เยอร์เก้น คล็อปป์...