ลิเวอร์พูล กับฟอร์มสุดหรูสมราคาเต็ง 1 ยูโรปา ลีก เรียกความมั่นใจก่อน “แดงเดือด” - FEATURE
- ลิเวอร์พูล ถล่ม สปาร์ตา ปาร์ก 6-1 ในเกม ยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลก 2
- “หงส์แดง” กำลังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
- ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ มีคิวทำศึก "แดงเดือด" กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์นี้
โดย Navapun Munarsa
ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ยังคงทำผลงานในถิ่น แอนฟิลด์ ได้อย่างไร้เทียมทานหลังเดินหน้าไล่อัดผู้มาเยือนอย่าง สปาร์ตา ปาร์ก ในศึก ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายขาดลอย 6-1 เข้ารอบด้วยผลสกอร์รวม 2 เกม 11-2
ในเกมนี้ ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เล่นแบบไม่ต้องกดดันนัก และเป็นการเรียกความมั่นใจก่อนจะยกพลไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย สุดสัปดาห์นี้
ลิเวอร์พูล ใช้เวลาเพียง 14 นาทีแรกของเกมได้อย่างเฉียบขาดด้วยการยิงประตูผู้มาเยือนได้ถึง 4 ลูก โดยได้ประตูจาก ดาร์วิน นูนเญซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, บ๊อบบี คลาร์ก และ โคดี กัคโป ก่อนจะบวกเพิ่มอีก 2 ประตูในครั้งหลังจาก โดมินิค โซบอสซ์ไล และ กัคโป
นี่เป็นอีกเกมที่ ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดในเกมรุก และใช้โอกาสที่มีอย่างคุ้มค่า รวมถึงทำให้นักเตะดาวรุ่งอย่าง บ๊อบบี คลาร์ก กองกลางวัย 19 ปี ได้แจ้งเกิดอีกรายหลังทำผลงานซัดไป 1 ประตู กับทำไปอีก 1 แอสซิสต์
คลาร์ก แสดงให้เห็นแล้วว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นตัวเลือกให้กับทีมชุดแรกในเวลานี้ โดยแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจ เข้าในเกม และได้รับความไว้วางใจจากรุ่นพี่เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เจ้าตัวยังทำงานหนักตลอดทั้งเกมทั้งในการเล่นเกมรุก และเกมรับ รวมถึงพยายามจะส่วนร่วมกับเกมตลอด
ข่าวดีอีกเรื่องของ ลิเวอร์พูล คือ ซาลาห์ พร้อมแล้วสำหรับการกลับมาเป็นตัวจริงหลังจากเกมนี้ได้รับโอกาสลงเล่นจนจบเกม โดยปีกซุเปอร์สตาร์ทีมชาติอิยิปต์ ระเบิดฟอร์มสุดยอดอีกครั้งด้วยการซัดไป 1 ประตู กับทำ 3 แอสซิสต์
คล็อปป์ ตัดสินในถูกต้องที่ให้ ซาลาห์ สัมผัสเกมแบบเต็มๆเพื่อเรียกจังหวะกลับมา และหลังจากพลาดเกมไปมากมายระหว่างไปช่วยอิยิปต์ลงเล่นในรายการ แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ทุกคนก็หวังว่า ดาวเตะวัย 31 ปี จะกลับมาฟิตสมบูรณ์ไปจนถึงในช่วงท้ายของซีซัน
แม้เส้นทางใน ยูโรปา ลีก ของ ลิเวอร์พูล ยังคงอยู่ แต่ต้องเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง โดยผู้ท้าชิงรายสำคัญ อย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งนำโดย ชาบี อลอนโซ่ ตัวเต็งผู้จัดการทีมคนใหม่ “หงส์แดง” นั้น เกือบจะตกรอบไปแล้วหลังจากโดน คาราบัค ยิงนำไปก่อน 2 ประตู แต่สุดท้าย “ห้างขายยา” ซัดคืน 3 ประตูรวดในครึ่งหลังพลิกเข้ารอบ 8 ทีมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
ขณะที่ สปอร์ติง ลิสบอน ของ รูเบน อโมริม อีกหนึ่งในข่ายกุนซือคนใหม่ ลิเวอร์พูล ก็โดน อตาลันตา เขี่ยตกรอบไปแล้ว ซึ่งหมายความว่า 3 ใน 8 ทีมสุดท้ายมาจากศึก กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ประกอบด้วย อตาลันตา, เอซี มิลาน และ โรมา
ส่วนอีกทีม 3 ทีมที่เหลือคือ โอลิมปิก มาร์กเซย, เบนฟิก้า และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งถือได้ว่า เป็นทีมที่แข็งแกร่งแทบทั้งหมด แต่แน่นอนว่า ไม่มีใครอยากเผชิญหน้ากับ ลิเวอร์พูล ที่ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ในรายการนี้เช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล จะต้องเจอศึกหนักในการยกพลไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย สุดสัปดาห์นี้ และสำหรับเกม “แดงเดือด” นั้น ไม่มีใครสามารถคาดเดาผลลัพ์ได้เลย
หากมองในภาพรวม ลิเวอร์พูล อยู่ในช่วงเวลาที่ดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด พอสมควร แต่การไปเยือนพลพรรค “ปีสาจแดง” ซึ่งเหลือแชมป์ให้ลุ้นเพียงรายการเดียวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอนสำหรับลูกทีมของ คล็อปป์