ชัยชนะอันสวยหรูที่มาช้าไป กับโอกาสลุ้นแชมป์ 2 นัดสุดท้ายในฤดูกาลนี้ของ ลิเวอร์พูล - FEATURE
- ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-2
- “หงส์แดง” กลับสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง
- ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังมีลุ้นแชมป์ในทางทฤษฎี
โดย Navapun Munarsa
ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชชาวเยอรมัน กลับมาทำผลงานได้น่าประทับใจอีกครั้ง หลังเปิด แอนฟิลด์ ไล่อัด ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-2 พร้อมกลับยืดโอกาสลุ้นแชมป์ในทางทฤษฎีต่อไป
ในเกมนี้ นักเตะ ลิเวอร์พูล แสดงถึงความกระหาย และเล่นฟุตบอลด้วยความมั่นใจอีกครั้ง หลังจากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พลพรรค “หงส์แดง” ฟอร์มหลุดอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งทำให้พวกเขาพลาดลุ้นแชมป์สำคัญไปหลายรายการ
ในช่วงเริ่มเกม ดูเหมือนว่า นักเตะ ลิเวอร์พูล ยังเครื่องติดช้า และตั้งสติกันไม่ได้ หลังจากโดนฝั่ง สเปอร์ส ครองบอลบุกได้มากกว่า แต่โชคดีที่ผู้มาเยือนยังต่อเกมรุกไม่ติด และไม่สามารถสร้างความอันตรายให้แนวรับของ “หงส์แดง” ได้
หลังจากตั้งหลักได้ ลูกทีมของ คล็อปป์ เริ่มกลับมาอยู่ในเกมของตัวเองอีกครั้ง และเปิดฉากเล่นเกมรุกจน สเปอร์ส ต้องถอยลงไปรับในแดนตัวเอง ก่อนจะประตูขึ้นนำจากลูกโหม่งของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ตามซ้ำแบบจ่อๆทำให้หนีห่าง 2 ประตู ก่อนจบครึ่งแรก
การกลับมาออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกของ ซาลาห์ ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล คว้า 3 คะแนนสำเร็จ โดยดาวเตะวัย 31 ปี แสดงให้เห็นว่า เขาเป็นนักเตะระดับโลก และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในเกมรุกของทีมอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน บรรดาผู้เล่นสายเลือดใหม่อย่าง จาเรลล์ ควานซาห์ กองหลังวัย 21 ปี และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ กองกลางดาวรุ่ง ต่างก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และโดยเฉพาะรายหลังที่ทำไป 1 ประตูสุดสวย กับ 1 แอสซิสต์
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ชัดเจนของ ลิเวอร์พูล ที่ทำให้พวกเขาหมดลุ้นแชมป์รายการสำคัญท้ายซีซัน มันคือเรื่องความคงเส้นคงวา และอย่างที่ คล็อปป์ เคยอธิบายไว้ว่า “หงส์แดง” เวอร์ชั่น 2.0 ยังคงต้องปรับปรุง และพัฒนาต่อไปภายใต้การดูแลของทีมสตาฟฟ์ชุดใหม่
นักเตะแกนหลักส่วนใหญ่ชุดปัจจุบันอย่าง เอลเลียตต์, โคดี กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, เคอร์ติส โจนส์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้ และ ควานซาห์ ก็ยังไม่มีใครอายุเกิน 25 ปี ซึ่งน่าสนใจว่า โค้ชคนใหม่เขาจะปรับแต่ง ลิเวอร์พูล เวอร์ชั่น 2.0 ออกมาได้ดีเพียงใด
ในทางทฤษฎีแล้ว ลิเวอร์พูล ยังสามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ โดยเหลือการแข่งขันอีกสองนัดสุดท้ายของซีซัน แต่ในความเป็นจริงมันยากมาก ๆ ที่ อาร์เซนอล หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะแพ้รวดกับเกมในมือที่เหลือ
ขณะเดียวกัน หากมองถึงเกมที่ ลิเวอร์พูล แพ้ให้กับ คริสตัล พาเลซ รวมถึง เอฟเวอร์ตัน ก็คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ซึ่งหากพวกเขาเก็บได้ 6 คะแนนเต็มได้ ก็จะทำให้ทีมของ คล็อปป์ ไปยืนเป็นจ่าฝูง และคงยังได้ลุ้นต่อยอดความสำเร็จไปจนถึงเกมสุดท้ายของฤดูกาล