ชัยชนะที่สวยหรูของ ลิเวอร์พูล ในวันที่สถานการณ์บังคับให้ต้อง "ดันเด็ก" - FEATURE
- ลิเวอร์พูล มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายราย ณ เวลานี้
- เยอร์เก้น คล็อปป์ ใช้ทีมชุดผสมเอาชนะ เซาแธมป์ตัน
- “หงส์แดง” กำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจสุด ๆ
โดย Navapun Munarsa
ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ยังคงทำผลงานใน แอนฟิลด์ ได้อย่างแข็งแกร่งเช่น หลังจากไล่ถล่มผู้มาเยือนอย่าง เซาแธมป์ตัน แบบสบายๆ 3-0 ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ในเกมนี้ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องใช้นักเตะชุดผสมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นสำรอง และบรรดานักเตะเยาวชน เนื่องจากเพิ่งเล่นนัดชิงฯ คาราบาว คัพ กับ เชลซี มานานถึง 120 นาที แต่พลพรรค “หงส์แดง” ก็ทำได้ตามเป้าหมายด้วยการเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ
เกมนี้ คล็อปป์ ต้องใช้งานผู้เล่นตจากทีม U18, U21 และทีมชุดใหญ่ โดยบรรดาดาวรุ่งอย่าง จาเรลล์ ควอนซาห์, บอบบี คลาร์ก, เจมส์ แมคคอนเนลล์, คอนอร์ แบรดลีย์, ลูอิส คูมาส และ เจย์เดน แดนน์ส ได้ลงสนามกันผนึกกำลังกับนักเตะชุดใหญ่อย่าง โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โคดี กัคโป และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์
คูมาส วัย 18 ปี ได้ลงเป็นตัวจริงโดยยืนเป็นตัวรุกฝั่งซ้ายและโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมซัดไป 1 ประตู แบบเฉียบขาด ขณะที่ แดนน์ส วัย 18 ปี ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง และระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการตะบันไป 2 ประตู
นอกจากนี้ ในช่วงท้ายเกม คล็อปป์ ยังกล้ามอบโอกาสให้ เทรย์ นีโอนี่ ดาวเตะวัย 16 กับอีก 234 วัน ลงสนาม และสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในศึก เอฟเอ คัพ อีกด้วย รวมถึงเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดลำดับ 3 ที่ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล
แม้ในเกมนี้ผู้เล่นหลายคนอาจไม่ใช่ชื่อที่เคยนักสำหรับแฟนบอล ลิเวอร์พูล แต่รูปแบบ แท็คติค และแนวทางการเล่นของ ลิเวอร์พูล แทบไม่มีอะไรแตกต่างจากสิ่งที่ทีมชุดแรกทำ โดยพลพรรค “หงส์แดง” ชุดผสม ยังคงเพรสซิ่งดุดันมนแดนคู่แข่ง โจมตีเร็ว และมีการเข้าทำเกมรุกที่หลากหลาย
ขณะเดียวกัน ชัยชนะในเกมแบบนี้ไม่ควรถูกมองข้ามเมื่อพิจารณาภาพรวมของทีมที่เต็มไปด้วยตัวสำรอง และแข้งดาวรุ่ง หลังจากช่วงที่ผ่านมา คล็อปป์ ต้องเจอวิกฤตผู้เล่นในทีมชุดใหญ่บาดเจ็บไปมากถึง 13 ราย และต้องสับเปลี่ยนทีมลงสนามแทบทุกเกม
การที่ ลิเวอร์พูล ยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องแม้มีปัญหามากมาย นั้น มันเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสภาพจิตใจของทุกคนในทีมได้เป็นอย่างดี และแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ คล็อปป์ ต้องการถูกถ่ายทอดไปยังทุกๆคนในถิ่น แอนฟิลด์ เรียบร้อยแล้ว
ในเกมต่อไป ลิเวอร์พูล จะบุกไปเยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ สุดสัปดาห์นี้ และจะมีสภาพทีมที่ดีขึ้นเล็กน้อย หลังจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูเนซ, วาตารู เอนโด และโดมินิค โซบอสไล น่าจะกลับมามีส่วนร่วมกับทีมอีกครั้ง
นอกจากนี้ คล็อปป์ ยังมีนักเตะเล่นกับ เซาแธมป์ตัน ให้เลือกใช้งาน เช่น กักโป, โจ โกเมซ, คอสตาส ซิมิกาส และ เอลเลียตต์ ในขณะที่ ฟาน ไดจ์ค และ อิบราฮิมา โคนาเต้ ก็ลงเล่นแค่คนละ 45 นาที จึงสามารถลงเป็นตัวจริงในเกมเจอ ฟอเรสต์ ได้ รวมถึง ควอนซาห์, คลาร์ก, แมคคอนเนลล์, แบรดลีย์, คูมาส และ แดนน์ส ก็พร้อมรอคอยโอกาสของตัวเองเช่นกัน