สารพัดสถิติจากผลงานสุดงามไส้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังแพ้ บาเยิร์น 0-1 ตกรอบแรก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก - FEATURE
• พบว่า เป็นการร่วงรอบแรกหนที่ 3 แล้วจาก 7 ครั้งหลังสุดที่เข้ามาเล่นถ้วยนี้
• และนี่คือสารพัดสถิติที่ได้จากทีมของ เอริค เทน ฮาก สืบเนื่องจากความล้มเหลวระลอกล่าสุดนี้
คงไม่ถือว่าผิดคาดอะไร กับการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงไปแพ้คาบ้านอีกครั้ง ต่อ บาเยิร์น มิวนิค 0-1 ในเกมปิดรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนอังคาร ที่ความหวังในการดิ้นเข้ารอบอย่างปาฏิหาริย์ของพวกเขา แหลกสลายไม่มีชิ้นดี แม้กระทั่งการจบอันดับ 3 ของกลุ่มเพื่อไปต่อ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ก็ยังไม่สำเร็จ ซึ่งหลายขยุ้มตัวอักษรด้านล่างนี้ คือสารพัดสถิติสุดงามไส้ที่ได้จากทีมของ เอริค เทน ฮาก สืบเนื่องจากความล้มเหลวระลอกล่าสุดนี้
แพ้อย่างไร้รูสู้ - สถิติเมื่อจบเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ล้วนแต่เป็นตัวบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้อย่างสมควรแพ้ และสู้ บาเยิร์น มิวนิค ไม่ได้ในแทบทุกมิติ
- ครองบอล : แมนยู 40% - บาเยิร์น 60%
โอกาสยิง : แมนยู 5 - บาเยิร์น 10
ยิงตรงกรอบ : แมนยู 1 - บาเยิร์น 3
จ่ายบอล : แมนยู 409 - บาเยิร์น 605
จ่ายเข้าเป้า : แมนยู 342 - บาเยิร์น 532
เสียบสกัด : แมนยู 19 - บาเยิร์น 21
หนึ่งครั้งถ้วน - ตลอด 90 นาทีของเกม แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงตรงกรอบ 1 ครั้งถ้วน มาจาก ลุค ชอว์ ที่ดันขึ้นมาส่องระยะไกล เข้ามือ มานูเอล นอยเออร์
นั่นหมายความว่า ราสมุส ฮอยลุนด์, อันโตนี่, อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันเดส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ หรือสำรองรายไหน ก็ล้วนแต่ "ทำไม่ได้" เลยทั้งสิ้น
12 ประตูได้ - ที่จริง ก็ไม่ถือว่าขี้เหร่สำหรับประตูที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ในตลอด 6 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. ปีนี้ โดยเป็นผลงานของ ราสมุส ฮอยลุนด์ 5, บรูโน่ แฟร์นันเดส 2, กาเซมิโร่ 2, อเลฮานโดร การ์นาโช่ 1, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ 1 และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ 1
15 ประตูเสีย - อย่างไรก็ตาม ที่ทำให้เป็นปัญหาแน่นอนว่าคือความช้ำรั่วหลังบ้าน กับการเสียรวมถึง 15 ประตู โดยเป็นการโดน โคเปนเฮเก้น ยิงรวม 4 เม็ด, บาเยิร์น 5 และ กาลาตาซาราย 6 ในการเจอกับแต่ละทีม และการเสียรวม 15 ลูก ยังนับเป็น "สถิติสูงสุด" ของตัวแทน พรีเมียร์ลีก ในหน้าประวัติศาสตร์ ชปล. สำหรับระบบรอบแบ่งกลุ่ม 1 รอบ อีกด้วย
- 15 ประตู : แมนฯ ยูไนเต็ด 2023
14 ประตู : สเปอร์ส 2019
11 ประตู : แมนฯ ซิตี้ 2012, สเปอร์ส 2010
หนแรกและหนสอง - การเสียรวม 15 ลูกดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียมากขนาดนี้ เช่นเดียวกับการแพ้ถึง 4 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. และเวลาเดียวกันก็นับเป็นครั้งที่ 2 ที่พวกเขาแพ้คาบ้านถึง 2 จาก 3 เกมรอบแบ่งกลุ่ม (2-3 กาลาตาซาราย, 0-1 บาเยิร์น) ถัดจาก 1996/97 ที่คราวนั้นแพ้ ยูเวนตุส และอีกหนึ่งตัวแทนตุรกีเหมือนกันอย่าง เฟเนร์บาห์เช่ เพียงแต่ว่าคราวนั้น ไปได้ไกลถึงรอบตัดเชือก
หนที่ 2 - นับเป็นครั้งที่ 2 เช่นกันที่ แมนยู ตกรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. ด้วยการเป็นบ๊วย ถัดจากซีซั่น 2005/06 ซึ่งคราวนั้นชนะเกมเดียวเหมือนกัน แต่ก็ไม่แพ้คาบ้าน (ชนะ 1 เสมอ 2) โดยเป็นบ๊วยด้วยการมี 6 แต้ม (บียาร์เรอัล 10, เบนฟิก้า 8, ลีลล์ 6, แมนยู 6)
หนที่ 3 - นับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป แมนฯ ยูไนเต็ด ตีตั๋วเข้ามาเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ 7 ครั้ง ปรากฏมีมากถึง 3 ครั้งที่พวกเขาไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งมากเท่าๆ กับที่ เฟอร์กี้ ทำทีมตกรอบแรก จากการเข้าเล่น 18 ครั้งในยุคของเขา
- 2013/14 : เดวิด มอยส์ : ตกรอบ 8 ทีม
2015/16 : หลุยส์ ฟาน กัล : ตกรอบแบ่งกลุ่ม
2017/18 : โชเซ่ มูรินโญ่ : ตกรอบ 16 ทีม
2018/19 : โชเซ่ มูรินโญ่ / โอเล่ กุนนาร์ โซลชา : ตกรอบ 8 ทีม
2020/21 : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา : ตกรอบแบ่งกลุ่ม
2021/22 : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา / ราล์ฟ รังนิค : ตกรอบ 16 ทีม
2023/24 : เอริค เทน ฮาก : ตกรอบแบ่งกลุ่ม
ครึ่งต่อครึ่ง - ในปีที่ 2 ของการทำทีม เอริค เทน ฮาก ทำ แมนยู แพ้แล้วถึง 12 เกมจากโปรแกรมเตะทั้งหมด 24 นัดของซีซั่นนี้ ซึ่งมากเท่ากับที่แพ้ตลอดซีซั่นที่แล้ว...ซึ่งลงเล่นรวม 62 นัด
62 นัดของซีซั่นที่แล้ว : ชนะ 41 เสมอ 9 แพ้ 12
24 นัดของซีซั่นนี้ : ชนะ 11 เสมอ 1 แพ้ 12
แย่สุดลำดับ 4 - พบว่าในตลอด 96 สโมสรของบรรดา 5 ลีกแถวหน้ายุโรป มีเพียง 3 ทีมเท่านั้นที่ "แพ้เยอะกว่า" แมนฯ ยูไนเต็ด แบบนับรวมทุกรายการ จนถึงตอนนี้
- แพ้ 13 นัด : เบิร์นลี่ย์ (อันดับ 19 พรีเมียร์ลีก)
แพ้ 13 นัด : อัลเมเรีย (อันดับ 20 ลา ลีกา)
แพ้ 14 นัด : อูนิโอน เบอร์ลิน (อันดับ 15 บุนเดสลีกา)
OT รีสอร์ท & สปา - แล้วจากคิวเตะเกมเหย้า 14 นัดของซีซั่นนี้ แมนยู ก็แพ้คาบ้านไปแล้วถึง 7 เกม โดยที่ 6 นัดหลังสุดหลุดแพ้ไปถึง 4
- ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0
ชนะ ฟอเรสต์ 3-2
แพ้ ไบรท์ตัน 1-3
ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0 (คาราบาว คัพ)
แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-1
แพ้ กาลาตาซาราย 2-3 (ชปล.)
ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1
ชนะ โคเปนเฮเก้น 1-0 (ชปล.)
แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-3
แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-3 (คาราบาว คัพ)
ชนะ ลูตัน ทาวน์ 1-0
ชนะ เชลซี 2-1
แพ้ บอร์นมัธ 0-3
แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-1 (ชปล.)
1 จาก 9 - ตลอด 9 เกมหลังสุดที่ แมนยู ลงเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งได้เพียง 1 นัดถ้วนๆ ก็คือเกมชนะ โคเปนเฮเก้น 1-0 เมื่อ 24 ต.ค. นอกนั้นเสมอ 3 และแพ้ไปถึง 5 นัด
- เสมอ ยัง บอยส์ 1-1
เสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1
แพ้ แอตเลติโก มาดริด 0-1
แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 3-4
แพ้ กาลาตาซาราย 2-3
ชนะ โคเปนเฮเก้น 1-0
แพ้ โคเปนเฮเก้น 3-4
เสมอ กาลาตาซาราย 3-3
แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-1
สูญขั้นต่ำ 10 ล้าน - มีการประเมินจาก ดิ แอธเลติก ว่า การตกรอบแรกงวดนี้ของ แมนยู ทำให้พวกเขาต้องสูญรายได้จากที่ควรจะมีเข้ากระเป๋า ไม่ต่ำกว่า 10.6 ล้านยูโร อันเป็นเงินรางวัลขั้นต่ำจาก ยูฟ่า สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ต่อไปได้
10.6 ล้านยูโรนั่น ยังถือเป็นความสูญเสีย "ขั้นต่ำ" ด้วย เมื่อยังต้องบวกทบขึ้นไปอีกหลายสิบล้าน หากว่าพวกเขาจะกรุยทางเข้ารอบต่อไปได้ยาวๆ โดยมีตัวอย่างเช่น แมนฯ ซิตี้ ซีซั่นก่อน ซึ่งทำเงินได้ถึงราว 130 ล้านยูโรทีเดียวจากแชมป์ยุโรปสมัยแรก
7 : 0 - แมนฯ ยูไนเต็ด จะเปิดศึก "แดงเดือด" กับ ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์นี้ 17 ธ.ค. โดยไม่นานเกินฟื้นความจำ... การไปเยือน แอนฟิลด์ สองหนหลังของทีมผีแดง ได้ผลลัพธ์ "เละเทะ" กลับออกมา ด้วยการแพ้ 0-4 และ 0-7 ตามลำดับ
แล้วในสถานการณ์ที่ทั้ง กาเซมิโร่, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, คริสเตียน เอริคเซ่น, เมสัน เมาท์ เจ็บอยู่ก่อนแล้ว ส่วน มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, วิกเตอร์ ลินเดลอฟ ไม่มีชื่อเมื่อวันอังคาร และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ ลุค ชอว์ เจ็บเพิ่มไปอีกระหว่างเกมล่าสุด อีกทั้งฟอร์มการเล่นและผลงานต่างก็ย่ำแย่ต่อเนื่อง
ใครจะรู้ อาจมี 7-0 ซ้ำรอย ก็...เป็น...ได้...