เมื่อคำตอบของกองหน้า อิตาลี กลับกลายเป็นคน อาร์เจนติน่า "มาเตโอ เรเตกี" - FEATURE

Malta v Italy: Group C - UEFA EURO 2024 Qualifying Round
Malta v Italy: Group C - UEFA EURO 2024 Qualifying Round / Claudio Villa/GettyImages
facebooktwitterreddit

ไม่ได้รู้จักฟุตบอลอิตาลี ไม่ได้เคยติดธงเยาวชนอิตาลี ไม่แม้กระทั่งจะพูดอิตาลีได้ แต่ดูเหมือนว่าคำตอบของกองหน้าที่ อิตาลี ตามหา กลับกลายเป็นคน อาร์เจนติน่า อย่าง "มาเตโอ เรเตกี" ว่าแต่หมอนี่...ใครอ่ะ???

ปริมาณมี...คุณภาพอีกเรื่อง

จากที่ยุคหนึ่งเคยมียอดดาวยิงอย่าง โรแบร์โต้ บาจโจ้, จานฟรังโก้ โซล่า, เอ็นริโก้ เคียซ่า, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, ฟิลิปโป้ อินซากี้, คริสเตียน วิเอรี่, ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ฯลฯ ให้เลือกใช้อย่างมันมือ ก็กลายเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับว่า วันเวลาดีๆ เหล่านั้น กลายเป็นความทรงจำสีจางๆ ไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

เมื่อในท่ามกลางผลงานขึ้นๆ ลงๆ สิ่งที่เป็นปัญหากัดกินทีมชาติ อิตาลี มานานปี--แต่บางทีก็มองไม่ค่อยเห็น คือการขาดที่พึ่งพาสูงสุดอย่าง "ดาวยิงขาประจำ" คนที่สามารถผลิตสกอร์ให้ทีมได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

ในเส้นทางสู่แชมป์ ยูโร 2020 (ที่เตะกันในปี 2021) อิตาลี ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ยิงได้ถึง 13 ประตูจาก 7 นัด หรือเฉลี่ยนัดละเกือบ 2 ลูกนั้น ถามว่าใครคือดาวยิงสูงสุดของพวกเขา

คำตอบคือ "ไม่มี" เมื่อมีถึง 5 นักเตะที่ยิงได้ 2 ประตูเท่ากัน - เฟเดริโก้ เคียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่, ลอเรนโซ่ อินซินเย่, มานูเอล โลคาเตลลี่ และ มัตเตโอ เปสซิน่า

ส่วนในความล้มเหลวของการตกรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2022 ก็ไม่ได้ต่างกัน ชิโร่ อิมโมบิเล่, มอยเซ่ คีน, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ เป็นสามคนที่ยิงได้ 2 ลูกเท่ากัน แล้วเมื่อมาถึงเกมสำคัญสุดอย่างเพลย์ออฟ เจอ มาซิโดเนียเหนือ ก็ไม่มีใครที่พึ่งพาได้เลย แพ้เกมศูนย์ (0-1) จนร่วงตกรอบอย่างช็อกโลก

หรือกับรายการล่าสุดอย่าง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 ที่ซัดกันช่วงกลางปีที่แล้ว (สิ้นสุดเดือน ก.ย. ก่อนบอลโลกที่กาตาร์) ซึ่ง มันชินี่ เปิดทางให้แข้งสายเลือดใหม่หลายรายได้โชว์ของ ก็ยังคงออกทรงเดิมคือไม่มีใครก้าวข้ามกำแพง "สองประตูถ้วน" ไปได้เลย -- จาโคโม่ รัสปาโดรี่ กับ ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ เป็นสองคนที่ยิงได้สองเม็ด

เอาจริงๆ ถ้ากวาดตาดูรายชื่อกองหน้าตัวเลือก (รวมตัวริมเส้น) ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ แล้ว ก็มีอยู่ไม่น้อย

วินเชนโซ่ กริโฟ่ (29, ไฟรบวร์ก)

จานลูก้า สคามักก้า (24, เวสต์แฮม)

วิลฟรีด ยอนโต้ (19, ลีดส์)

โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ (25, ซาสซูโอโล่)

มัตเตโอ โปลิตาโน่ (29, นาโปลี)

ซิโมเน่ ปาฟุนดี้ (17, อูดิเนเซ่)

เฟเดริโก้ เคียซ่า (25, ยูเวนตุส)

จาโคโม่ รัสปาโดรี่ (23, นาโปลี)

อันเดรีย เบล็อตติ (29, โรม่า)

มอยเซ่ คีน (23, ยูเวนตุส)

ชิโร่ อิมโมบิเล่ (33, ลาซิโอ)

มาริโอ บาโลเตลลี่ (32, ซิยง)

แต่แม้ปริมาณจะมี คุณภาพก็เป็นอีกเรื่อง เมื่อจาก 12-13 รายชื่อข้างต้น ตัด บาโลเตลลี่ กับ อิมโมบิเล่ ที่ตกยุคไปแล้ว บวกกับ เคียซ่า และ มอยเซ่ คีน บาดเจ็บจนไม่อยู่ในทีมชุดล่าสุด หรือ เบล็อตติ ก็ตั้งหลักกับ โรม่า ได้ไม่ดีเท่าที่ควร (4 ประตูจาก 32 นัด) ทำให้ที่สุดแล้ว อิตาลี 2023 เหลือศูนย์หน้าประเภทที่พึ่งพาได้แค่ "หยิบมือ" เท่านั้นจริงๆ

"เอาวะ ไหนๆ ตัวในประเทศมันไม่มีดี ก็ลองตัวนอกดูบ้างแล้วกัน" มันโช่ คงคิดแบบนี้

มันจึงกลายเป็นการมาถึงของดาวยิงความหวังใหม่อัซซูร์รี่... มาเตโอ เรเตกี

FBL-EURO-2024-QUALIFIER-MLT-ITA
FBL-EURO-2024-QUALIFIER-MLT-ITA / ALBERTO PIZZOLI/GettyImages

มาเตโอ เรเตกี คือใคร?

ยากมากที่คนไม่ได้ตามบอลแบบลงลึกมากๆ จะรู้จักกองหน้าวัย 23 รายนี้

เพราะความเชื่อมโยงของ มาเตโอ เรเตกี (Mateo Retegui) กับฟุตบอลยุโรป ไม่ได้มีมากเกินกว่าการ "ถือพาสปอร์ตอิตาลี" เท่านั้น ไม่เคยเป็นเด็กฝึกของทีมยุโรปรายไหน ไม่เคยสัมผัสเกมลีกยุโรปประเทศใด แม้แต่ทีมชาติอิตาลีชุดเยาวชน ก็ยังไม่เคยได้ลิ้มลอง

และทานโทษ เรเตกี พูดภาษาอิตาเลียนไม่ได้ด้วยซ้ำ

ศูนย์หน้าตัวเป้าเจ้าของส่วนสูงพอเหมาะ 186 ซม. ถือกำเนิดขึ้นที่เมือง ซาน แฟร์นานโด ประเทศอาร์เจนติน่า ในครอบครัวอาร์เจนไตน์แท้ (คุณพ่อคือ คาร์ลอส เรเตกี อดีตนักฮ็อคกี้ตัวทีมชาติอาร์เจนฯ ชุดลุยโอลิมปิก 1996, 2000, 2004) พร้อมสายเลือดอิตาเลียนบางๆ จากคุณปู่ที่อพยพจากอิตาลีไปอาร์เจนติน่า

ในวัยเด็ก เรเตกี เริ่มต้นเส้นทางสายฟุตบอลด้วยการเข้าสู่อะคาเดมี่ ริเวอร์เพลท เป็นสังกัดแรก ก่อนที่จะข้ามห้วยไปอยู่กับ โบคา จูเนียร์ส ตอนช่วงอายุ 17 เพียงแต่การขึ้นชุดใหญ่ โบคา ก็ไม่ได้ราบรื่น ถูกส่งออกไปหาประสบการณ์ที่อื่นมาตลอดจนถึงตอนนี้ (ที่ยังคงเป็นสมบัติของ โบคา จูเนียร์ส อยู่)

2019-2020 ยืมตัวที่ เอสตูเดียนเตส

2020-2021 ยืมตัวที่ ทัลเลเรส

2022-ปัจจุบัน ยืมตัวที่ ติเกร

ผลงานที่ทำให้ เรเตกี ได้โอกาสมาลองของกับทีมชาติอิตาลี ก็คือในช่วงที่มาเล่นกับ ติเกร (Club Atletico Tigre) ในซีซั่นที่แล้ว 2022 ซึ่งเขากระหน่ำรวม 23 ประตูจากการลงสนาม 42 นัด ก่อนที่ซีซั่นนี้ 2023 จะซัดแล้ว 6 ประตูจาก 9 เกม

ดิ แอธเลติก เปิดเผยไว้ว่า มันโช่ มีการส่งลูกชาย อันเดรีย เดินทางไปยังอาร์เจนติน่า เพื่อจับตาดูฟอร์มของ เรเตกี อย่างใกล้ชิด และเข้าหาครอบครัวของนักเตะเพื่อสร้างคอนเน็กชั่น อีกทั้ง มันโช่ ยังได้ต่อสายหาเพื่อนเก่าอย่าง ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ที่เวลานี้นั่งเก้าอี้รองประธานสโมสร เอสตูเดียนเตส เพื่อขอความเห็นเรื่อง เรเตกี อีกแรง

"เขาเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าแบบคลาสสิก" มันชินี่เผย "มันมีการเปรียบเทียบเขากับ เคร์มัน เดนิส (อดีตดาวยิงนาโปลี) แต่เมื่อเขามายังอิตาลีเป็นครั้งแรก เขาทำให้ผมนึกถึง กาเบรียล บาติสตูต้า เขาทำให้ผมนึกถึงวันเก่าๆ"

และเมื่อโชคดีพอที่ อาร์เจนติน่า ไม่ได้เรียกตัวเข้าสู่ทำเนียบทีมชาติชุดใหญ่ แม้เคยติดธงยู-20 มาบ้างแล้วก็ตาม

มาเตโอ เรเตกี จึงได้เริ่มต้นกับ อิตาลี อย่างที่ไม่มีใครระแคะระคายมาก่อน

Italy v England - UEFA EURO 2024 Qualifiers
Italy v England - UEFA EURO 2024 Qualifiers / Anadolu Agency/GettyImages

เมื่อคำตอบกองหน้าอิตาลี กลายเป็นคนอาร์เจนติน่า

ก็ควรเป็นเครดิตของ มันชินี่ เช่นกันที่กล้าเสี่ยงส่ง มาเตโอ เรเตกี ลงเป็นตัวจริงเลยทันทีในเกมเปิด สตาดิโอ ดีเอโก้ มาราโดน่า รับมือ อังกฤษ เกมแรกของรอบคัดเลือก ยูโร 2024

เรเตกี ลงยืนหน้าเป้า ขนาบข้างด้วย ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ กับ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ที่สองฝั่ง

แม้เกมจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 1-2 แต่สิ่งที่ได้ค้นพบก็คือหน้าเป้าผู้ "มีแวว" จะเป็นที่พึ่งพาของชาติได้ในระยะยาว

หลังจากครึ่งแรกที่ผ่านไปด้วยการตามหลัง 0-2 (ดีแคลน ไรซ์ น.13, แฮร์รี่ เคน จุดโทษ น.44) อิตาลี ก็ตีไข่แตกได้ตอนต้นครึ่งหลัง น.56 เปลเลกรินี่ เคาะสวยๆ ให้ เรเตกี ทะลุเดี่ยวเข้าซัดสวนตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด ตุงตาข่าย เป็นประตูแรกในเกมประเดิมสนามของศูนย์หน้าตัวอิมพอร์ตจากอาร์เจนติน่า

สามวันให้หลัง อิตาลี เจองานเบาหน่อยอย่างการบุกเตะ มอลต้า โดยที่ เรเตกี ก็ยังคงได้โอกาสลงค้ำหอกเป้า แต่เปลี่ยนตัวช่วยสองฝั่งมาเป็น วิลฟรีด ยอนโต้ กับ มัตเตโอ โปลิตาโน่

ก็เป็น เรเตกี นั่นเองที่เปิดสกอร์นำ 1-0 ในเพียง 15 นาทีแรก กับจังหวะโถมเข้าโขกบอลเตะมุมจาก ซานโดร โตนาลี่ โล่งๆ ไม่เหลือซาก ก่อนที่ มัตเตโอ เปสซิน่า จะบวกเพิ่ม 2-0 ก่อนครึ่งชั่วโมง และสุดท้ายเกมก็จบไปที่สกอร์นี้ (โดยที่ จานลูก้า สคามักก้า เปลี่ยนลงสำรองไปแทน เรเตกี ยี่สิบนาทีท้าย และมีโอกาสจบ 2-3 หน ไม่เข้าเป้า)

และนั่นคือ 2 นัด 2 ประตู สำหรับ เรเตกี ผู้ที่ไม่เคยแม้แต่เล่นทีมชาติอิตาลีชุดเยาวชนใดๆ มาก่อน

แม้จะไม่ใช่ผลงานตูมตามโครมคราม เรียกสปอตไลท์อะไรได้มากมาย แต่ก็ชัดเจนว่าหัวหอกวัย 23 จากอาร์เจนติน่า ที่กำลังตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ อินเตอร์ มิลาน แสดงให้เห็นวี่แววว่ามีดีพอจะเป็นตัวความหวังของ อิตาลี ได้

"เขาเป็นคนปลดล็อคให้กับเกมนี้ (ชนะมอลต้า) เขาสำคัญมากในวันนี้" มันชินี่ กล่าวชมเชย เรเตกี หลังเกมล่าสุด "แต่ก็ต้องย้ำว่า เขาต้องการเวลา ต้องการการเรียนรู้เกี่ยวกับฟุตบอลยุโรปมากกว่านี้"

"เรเตกี รู้วิธีส่งลูกเข้าประตู นั่นคือทุกสิ่งทุกอย่าง นี่คือสิ่งที่เราเห็นจากเขาในตอนที่เราจับตามองเขาเล่นกับต้นสังกัด เขายังต้องการเวลา ต้องรู้เกี่ยวกับฟุตบอลยุโรปให้มากขึ้น แต่เขารู้วิธีการยิงประตู และนั่นคือคุณภาพที่สำคัญมาก"

ในอิตาลี มีคำหนึ่งที่เรียกนักเตะแปลงสัญชาติว่า "โอริอุนดี้" (Oriundi) ซึ่งในทำเนียบทีมชาติ คนล่าสุดที่ประสบความสำเร็จและรู้จักกันดีก็คือ เมาโร คาโมราเนซี่ ตัวริมเส้นดีกรีแชมป์โลก (2006) ที่มาจาก อาร์เจนติน่า เช่นเดียวกัน

กับการมาของ เรเตกี ยังทำให้ มันชินี่ เผยด้วยว่า ต่อไปก็คงจะมองหา "โอริอุนดี้" ที่แทรกตัวอยู่ในประเทศต่างๆ นอกเหนือจากใน กัลโช่ เซเรีย อา ให้มากขึ้น

แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ก็ต้องวกกลับมาที่ เรเตกี ก่อน

ว่า 2 นัด 2 ประตู คือผลงานที่จับต้องได้ และน่าลุ้นให้ลงหลักปักฐานกับ อัซซูร์รี่ แบบสวยๆ ในระยะยาว

เพราะทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ไม่มี อิตาลี ร่วมสังฆกรรม หรือ อิตาลี ที่ไม่มี "ยอดดาวยิง" เป็นที่เชิดหน้าชูตา มันนานเกินไปและมากเกินไปแล้ว จริงๆ

FBL-EURO-2024-QUALIFIER-MLT-ITA
FBL-EURO-2024-QUALIFIER-MLT-ITA / ALBERTO PIZZOLI/GettyImages