การเลือก (อีกครั้ง) ของตัวสำรอง อาร์เซนอล นามว่า “รีส เนลสัน” - FEATURE

  • เนลสัน อยู่กับ อาร์เซนอล มาตั้งแต่อายุเพียง 9 ปี และเลื่อนขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกตอนอายุ 17 ปี
  • นักเตะลงเล่นกับ ปืนใหญ่ ไปทั้งหมด 89 เกม นับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา
Arsenal FC v Luton Town - Premier League
Arsenal FC v Luton Town - Premier League / Visionhaus/GettyImages
facebooktwitterreddit

ช่วงนี้ข่าวการซื้อขายจะเงียบลงมากอย่างแน่นอน เมื่อฟุตบอล ยูโร 2024 เริ่มต้นขึ้น ขณะที่ โคปา อเมริกา 2024 จะเริ่มตามมาในสัปดาห์หน้า ทีมใดที่จะเซ็นสัญญาใหม่กับนักเตะที่ร่วมทัวร์นาเมนต์เหล่านั้นก็ต้องรอให้จบภารกิจกันเสียก่อน ซึ่งอย่างน้อย ๆ ก็ต้องมี 2-3 สัปดาห์ที่จะ “โหวงเหวง” กันไปสำหรับคนที่รอติดตามข่าวการซื้อขาย

อย่างไรก็ตามสำหรับกลุ่มที่ไม่ได้ลงเล่นในทีมชาติก็จะได้เวลากันเต็มที่ เพราะตลาดการซื้อขายนักเตะเปิดม่านอย่างเป็นทางการแล้ว

ตามที่ผู้เขียนเคยเขียนไปแล้วว่า อาร์เซนอล น่าจะมีถึง 11 คนที่อยู่ในลิสต์ของการออกจากทีมไป ส่วนมากจะเป็นนักเตะที่เป็นตัวสำรองลงเล่นน้อยเกือบทั้งหมด ไม่รวมถึง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ และ เซดริก โซอาเรส ที่ออกจากทีมไปแล้วหลังจากหมดสัญญา

รีส เนลสัน (24 ปี สัญญาถึงกลางปี 2027) คือหนึ่งในชื่อนั้น และก็มีความเคลื่อนไหวออกมาแล้วว่า เขาแจ้งสโมสรเพื่อมองหาโอกาสย้ายทีม หลังจากฤดูกาลที่แล้วลงเล่นไป 23 เกม เป็นตัวจริงทั้งหมด 5 ครั้ง สวนทางกับ บูกาโย่ ซาก้า ปีกขวารุ่นน้องที่เป็นตัวแบกความหวังเกมรุกของ อาร์เซนอล ทุกเกมที่เน้นผลการแข่งขัน ซาก้า ได้รับโอกาสก่อนทุกครั้ง มันสะท้อนถึงความเชื่อมั่น และศักยภาพที่ถูกประเมินโดยโค้ชแล้วว่า เนลสัน ควรอยู่ตรงไหนในทีม

เช่นเดียวกับการที่นักเตะลงเล่นเพียง 5 เกมในฐานะตัวจริง มันคือการตัดโอกาสในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และบั่นทอนความเชื่อมั่นของเขาโดยตรง ผลงานของฤดูกาลที่ผ่านมา เนลสัน จึงไม่มีเกมน่าประทับใจใด ๆ ให้พูดถึง นอกจากประตูเดียวที่ยิงได้ใน คาราบาว คัพ เท่านั้น เพราะ เวลาและโอกาสในแต่ละเกมมันช่างน้อยเสียเหลือเกิน

Reiss Nelson
Arsenal FC v Luton Town - Premier League / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

เนลสัน ต่อสัญญาใหม่ในช่วงต้นฤดูกาล 2023-2024 หลังจากก่อนหน้านี้เขาสัญญาจะหมดลงและหลายคน รวมถึงผู้เขียนก็คิดว่า “ไปแน่” แต่สุดท้ายเขากลับได้รับสัญญาใหม่ และเจ้าตัวก็เซ็นเพิ่มด้วย โดยระบุว่าที่นี่เสมือนกับบ้านของเขา ลอนดอนเหนือ เป็นสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย และมีความสุขสำหรับเขา บนข่าวที่ว่าเขาได้รับค่าแรงสูงหลายหมื่นปอนด์ในสัญญาใหม่นี้ หากมองมุมนี้ “เงินดี ไม่ต้องย้ายบ้าน เพื่อนห้อมล้อม และได้อยู่สโมสรใหญ่” มันก็เป็นเรื่องที่มีแต่เชิงบวกทั้งสิ้น ขณะที่ อาร์เซนอล การต่อสัญญาใหม่นี้ หากมีการปล่อยตัวนักเตะก็จะได้ “กำไร” ล้วน ๆ เพราะนี่คือนักเตะที่พัฒนาจากทีมเยาวชนโดยตรง ในแง่ของบัญชีการเงิน นี่คือสิ่งที่ทำให้พวกเขาคล่องตัวทางการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามหากซัมเมอร์นี้มีการย้ายทีมเกิดขึ้น ในครั้งนี้มันอาจจะเป็นการอำลาทีมกันแบบลาขาด ด้วยอายุที่มากขึ้นของเจ้าตัวในวัย 24 ปี นี่ไม่ใช่การย้ายทีมของดาวรุ่งอีกแล้ว แต่เป็นการย้ายทีมของนักเตะอาชีพคนหนึ่ง ที่โปรไฟล์ยังน่าสนใจอยู่มาก เพราะว่ากันตามจริงด้วยอายุเพียงเท่านี้ เขายังคงหนุ่มแน่น แต่ประสบการณ์ของเขาเมื่อเทียบกับอายุแล้วมันไม่ได้มากมายตามแบบฉบับที่นักฟุตบอลควรจะมี

แต่กระนั้น เนลสัน ผ่านการพิสูจน์การเล่นระดับอาชีพมาแล้วทั้งกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ และ เฟเยนูร์ด ซึ่งเขาก็ได้รับโอกาสที่ดี โดยเฉพาะกับทีมดังจากฮอลแลนด์ ซึ่งได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ด้วย นั่นคือประสบการณ์ล้ำค่าที่พิสูจน์ผลงานของเขาโดยตรง จึงแทบจะตรงกันข้ามเลยกับ อาร์เซนอล ที่ถึงตอนนี้เขายังไม่มีฤดูกาลไหนลงเล่นลีกถึง 20 เกมเลย ขณะที่ บูคาโย่ ซาก้า รุ่นน้องของเขาฉลองลงเล่นข้ามหลัก 200 เกมกับปืนใหญ่ไปแล้ว ทั้งที่ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ช้ากว่าเขาเสียด้วยซ้ำ

Reiss Nelson
AS Roma v Feyenoord - UEFA Europa Conference League Final 2021/22 / Chris Brunskill/Fantasista/GettyImages

สถานะที่ยังเบียดตัวจริงไม่ได้ กับอายุที่มากขึ้นทุกวัน ในขณะที่ทีมกำลังไปได้สวยกับการยกระดับทีมเพื่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีก ซึ่งหากฤดูกาลที่ผ่านมา อาร์เซนอล คว้าแชมป์ลีกมาครองได้ เขาอาจตัดสินใจอะไรได้ง่ายกว่านี้ แต่ในเมื่อไม่เป็นเช่นนั้น เขาก็ต้องเลือกอยู่ดีว่าเขาจะให้ความสำคัญกับอะไรในชีวิตการค้าแข้งฤดูกาลหน้าของตนเอง ส่วน อาร์เซนอล มีแผนการอยู่ในมือแล้วว่าพวกเขาต้องการอะไรสำหรับตลาดการซื้อขายรอบนี้ อยู่ที่ว่าจะทำให้เป็นไปตามแผนได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งการขายผู้เล่นส่วนเกินออกไปก็เป็นสิ่งที่อยู่ในแผนงานเช่นเดียวกัน

ตัวเลข 20 ล้านปอนด์ ถูกระบุจากสื่อว่าเป็นตัวเลขที่พวกเขาคาดหวังว่าจะได้รับจากการปล่อยตัว เนลสัน สื่อก็แนบข่าวมาด้วยว่าหลายทีมใน พรีเมียร์ลีก สนใจอยากดึงไปร่วมงานด้วย อย่างที่บอก โปรไฟล์ของ เนลสัน ไม่ได้แย่ ความสามารถของเขาผ่านการเจียระไนมาแล้ว ขาดแต่โอกาสที่มากพอ แต่ถึงตรงนี้กับ อาร์เซนอล เขาไม่สามารถรอแล้วมองโลกในแง่บวกว่าตัวสำรองก็ไม่เป็นไรได้อีกต่อไป เพราะเขาไม่ใช่เด็กวัยรุ่นอีกแล้ว เขากำลังเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว กับเส้นทางอาชีพที่เหลืออีกอย่างน้อย ๆ 8-10 ปี ที่การย้ายทีมครั้งนี้อาจจะส่งผลต่อรายได้หลายหมื่นปอนด์ต่อสัปดาห์ที่อาจจะหายไปไม่น้อย ถ้าต้องย้ายไปเล่นกับสโมสรที่ขนาดเล็กกว่าอาร์เซนอล

ทุกชีวิตยังคงเดินหน้าต่อไป ทุกคนต่างพยายามหลีกเลี่ยงความผิดหวัง แต่แทบจะเป็นปกติที่เรามักจะไม่สมหวังกับอะไรเต็ม 100 % มันต้องมีความผิดหวังบ้าง การจะได้อะไรสักอย่างมันก็ต้องเสียบางอย่างไปเสมอ เส้นทางของ รีส เนลสัน ก็ไม่ต่างกัน และวันนี้มันอาจถึงเวลาแล้วที่เขาต้องเลือกเสียอะไรบางอย่าง เพื่อโอกาสที่ "อาจจะ" ดีขึ้นกว่าวันนี้ กว่าวันที่ใครก็ยังมองว่าเขาเป็นเพียงแค่ “ตัวสำรอง” เท่านั้น


อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม อาร์เซนอล ได้ที่นี่

feed