ความลับที่ฉันซ่อนไว้ : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เปิดปากแฉหมดเปลือกเรื่องวงใน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - FEATURE
• ผ่านวันที่ดีและวันที่แย่ ได้นักเตะที่ต้องการและพลาดนักเตะในเป้าหมาย ได้เฮกับชัยชนะและปวดใจกับวันที่พ่ายแพ้
• โซลชา ผ่านทุกอย่างมาหมดแล้ว และเขาหวนรำลึกถึงมันอย่างหมดเปลือก
จากการเป็นยอดดาวยิงซูเปอร์ซับ สู่การเป็นกุนซือทีมเยาวชน และเป็นตัวเลือกที่สโมสร "เชื่อว่าใช่" ในช่วงเวลาหนึ่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ได้นั่งเก้าอี้คุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงปี 2018-2021 ซึ่งวันนี้ สื่อแถวหน้าอย่าง ดิ แอธเลติก ได้จับอดีตกุนซือชาวนอร์วีเจี้ยนมานั่งพูดคุยถึงหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องคลุกวงใน ความลับในรั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ไม่เคยมีใครได้รู้มาก่อน...
มองย้อนไปในวันเก่า
"ใช่ บางสิ่งบางอย่างขาดหายไป ก็คือโทรฟี่แชมป์ แต่บางที จุดโทษเดียวก็อาจเปลี่ยนมันทั้งหมด (แพ้จุดโทษ บียาร์เรอัล 10-11 นัดชิงยูโรป้า ลีก 2021) และช่วงเวลาของผมกับที่นั่นอาจถูกมองด้วยสายตาที่ต่างไป"
"โทรฟี่เป็นสิ่งสำคัญ แต่มันก็สำคัญเหมือนกันในการสร้างสารตั้งต้นที่ดีสำหรับการโชว์ฟอร์ม เราทำมันได้อยู่เป็นเวลานาน มีความสม่ำเสมอ แต่ท้ายที่สุดมันก็ยังไม่มากพอ แต่สิ่งที่ผมสามารถส่งมอบให้กับแฟนๆ ได้ก็คือการทำให้พวกเขายิ้มออกอีกครั้ง และการได้สู้เพื่อเป้าหมาย"
"เราเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในเดือนกันยายน 2021 เราได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมา เราได้ ราฟาแอล วาราน และ เจดอน ซานโช่ เราดูแข็งแกร่งขึ้นด้วยนักเตะเหล่านี้ ที่ต้องทำคือการก้าวไปอีกขั้นเพื่อลุ้นแชมป์ แต่โชคไม่ดี มันไม่ปรากฏผลแบบนั้น"
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ : คนที่ใช่ในวันที่ผิด
“มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมากที่จะปฏิเสธ และผมรู้สึกว่าเราต้องรับมันเอาไว้ (การคว้า โรนัลโด้ กลับมาจาก ยูเวนตุส) แต่กลับกลายเป็นว่า มันผิด"
"มันรู้สึกถูกต้องมากตอนที่เขาเซ็นสัญญา และแฟนบอลก็รู้สึกแบบนั้นในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สั่นสะเทือนอย่างเห็นได้ชัด (โรนัลโด้ ยิง 2 ประตูในเกมประเดิม ชนะ 4-1) เขายังคงเป็นหนึ่งในตัวจบสกอร์ที่ดีที่สุดในโลก เขาดูแข็งแกร่งมาก"
"แต่เมื่อมองย้อนกลับไปถึงโปรแกรมในช่วงนั้น มันกำลังเข้าสู่ช่วงตัดสินครั้งสำคัญ เราต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ติดๆ กัน รวมถึงต้องไปเยือน เลสเตอร์ จากนั้นก็เป็น เชลซี และ อาร์เซน่อล แล้วเรายังมีเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย และทุกอย่างเริ่มไม่เข้าทางเรา มันเริ่มจากเกมแพ้ แอสตัน วิลล่า (0-1) ที่มีการพลาดจุดโทษท้ายเกม (บรูโน่ แฟร์นันเดส)"
"เมื่อคุณมีกลุ่มนักเตะในทีม คุณย่อมต้องการให้ทุกคนมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปอย่างถูกต้อง คุณจะเห็นอีโก้ของผู้เล่นบางคนถูกแสดงออกมา เราบุกไปชนะ ท็อตแน่ม 3-0 แต่แล้วเราก็แพ้ใน 2 เกมให้หลัง..."
คราวที่ต้องแยกจาก
"กันยายน 2021 เราแพ้ในลีก 5 จาก 7 เกม แต่ไม่ได้มีใครบอกอะไรผม (ถึงเก้าอี้ที่สั่นคลอน) เราผมเริ่มรู้ได้ในช่วงพักครึ่งเกมกับ วัตฟอร์ด (1-4) เราว่าไม่เหมือน แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมเดิมเลย นักเตะไม่วิ่งเพื่อกัน ตอนพักครึ่งผมบอกกับนักเตะว่าบางทีนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้ทำงานร่วมกัน ดังนั้นจงเล่นด้วยความภาคภูมิใจ จริงๆ เราก็เกือบพลิกสถานการณ์ได้อยู่แล้ว ติดที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โดนไล่ออกเสียก่อน"
"เช้าวันรุ่งขึ้น ผมได้รับข้อความจาก เอ๊ด วู้ดเวิร์ด บอกว่าเขาอยากเจอผมที่ออฟฟิศในแคร์ริงตัน มันเป็นความรู้สึกกระอักกระอ่วนแน่นอนเมื่อคุณทำงานกับสโมสรมา 18 ปี และผ่านช่วงเวลาทั้งดีทั้งแย่มานักต่อนัก"
"ผมได้รับการสนับสนุนและมีช่วงเวลาที่ดีกับเขา เขาให้โอกาสผม และผมไม่มีวันลืม เช่าวันนั้น มันเป็นวันที่น่าปวดใจ มันเหมือนการต้องแยกจากครอบครัว ผมอยากคุยกับนักเตะทุกคนเพื่อบอกลา ผมได้คุยกับโค้ชและสตาฟฟ์บางคน จากนั้นก็กลับไปเจอบ้านที่ว่างเปล่า"
จุดต่ำสุดของหน้าที่
"ซีซั่นสุดท้ายของผมที่นั่น เราได้เจอกับ ลิเวอร์พูล ในบ้าน ผมรู้สึกว่านักเตะของผมพร้อมเต็มที่สำหรับเกม เหมือนที่เราเคยผ่านเกมกับ แมนฯ ซิตี้ มาด้วยชัยชนะนอกบ้าน เราสามารถเล่นตั้งรับรอสวนกลับได้ แต่ใจผมมันสั่งให้ลูกทีมลงไปเดินหน้าแลก และเราแพ้ 5-0 แบบที่ครึ่งแรกเราก็โดนแล้ว 4 ลูก"
"ผมตัดสินใจผิดพลาด และมันคือจุดต่ำสุดของผมในฐานะผู้จัดการทีม ยูไนเต็ด อย่างชัดเจน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ อาจเป็นนักเตะคู่แข่งที่สร้างปัญหาให้ผมมากที่สุดในฐานะโค้ช ส่วนการแพ้ สเปอร์ส 6-1 (ต้นซีซั่น 2020/21) เป็นอะไรที่ต่างไป มันเกิดขึ้นด้วยผลจากการที่มีนักเตะโดนไล่ออก"
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้...
"เกมชิงยูโรป้า ลีก กับ บียาร์เรอัล ผมควรจะส่ง เนมานย่า มาติช ลงตัวจริง หรือไม่ก็ให้เขาลงสำรองในช่วงใดช่วงหนึ่ง มันควรเป็นเกมสำหรับเขา แต่ผมไม่ได้เลือกเขาเพราะผมรู้สึกในตอนนั้นว่ามีคนอื่นที่เหมาะกว่า"
"มันยากเสมอในการต้องตัดชื่อใครออก และคุณก็ต้องแบกรับความเสี่ยงนั้นอยู่ตลอดเวลา"
การเซ็นสัญญาที่ดีที่สุด
"ชื่อแรกที่นำมาเลยก็คือ บรูโน่ แฟร์นันเดส ส่วน แฮร์รี่ แม็กไกวร์... มันน่าละอายมากที่เขาถูกโจมตีหนักขนาดนี้ ผมรู้สึกเสียใจไปกับเขา แต่เขาคือชายที่แข็งแกร่ง และผมหวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปได้ เขายกระดับเกมรับของเราขึ้นได้ในช่วงแรกที่เขามาถึง รวมถึงทำให้บรรยากาศของทีมดีขึ้นด้วย"
เจดอน ซานโซ่ : หวยที่โดนรับประทาน
"ผมเองเป็นคนที่ต้องการเซ็นสัญญากับเขา แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยเซ็นสัญญากับนักเตะที่ผู้จัดการทีมไม่ต้องการ มันไม่เคยเป็นแบบนั้น"
"เจดอน เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของเราในตำแหน่งปีกขวา จากที่แมวมองของเราเล็งเห็นถึงความสามารถของเขา โชคร้ายที่มันไม่เวิร์ค ตอนที่เขาย้ายมา เขาต้องเข้าโรงพยาบาล และมันเป็นความถดถอย เมื่อเขาไม่ได้ลงสนามในช่วงแรก"
"เขามีพรสวรรค์สูง แต่เราไม่เคยเห็นฟอร์มที่ดีที่สุดจากเขา ผมหวังว่าเราจะได้เห็นในสักวัน แต่เขาชอบเล่นทางซ้ายมากกว่า ซึ่งตรงกับตำแหน่งของ มาร์คัส แรชฟอร์ด พอดี"
เป้าหมายที่หลุดมือ
"ในอดีต เราเคยได้สุดยอดนักเตะดาวรุ่งจากทีมอื่นมา เช่น เวย์น รูนี่ย์ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่มาตอนนี้ ยูไนเต็ด ไม่อาจซื้อ อีแวน เฟอร์กูสัน ได้อย่างง่ายๆ ต่อให้เราจะต้องการตัวเขาขนาดไหน และผมก็มีรายชื่อนักเตะหลายคนที่อยากได้ และได้ส่งไปให้สโมสรรับทราบแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จเช่นกัน"
"เช่น เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ก่อนที่เขาจะย้ายไป เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก หรือ ดีแคลน ไรซ์ ตอนที่ยังไม่ต้องจ่ายหนักเหมือนเมื่อช่วงซัมเมอร์ล่าสุดนี้"
"เราเคยพิจารณาอย่างจริงจังถึง มอยเซส ไคเซโด้ แต่เรารู้สึกว่าเราต้องการนักเตะที่พร้อมใช้งานทันทีมากกว่า"
"เราต้องการตัว จู๊ด เบลลิงแฮม มากๆ เขาคือนักเตะที่ตรงสเป็ค แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นที่สุด แต่ผมต้องให้ความเคารพเขาที่เลือก ดอร์ทมุนด์"
"ผมอยากเซ็นสัญญากับ แฮร์รี่ เคน ทุกเวลา ผมเข้าใจว่าเขาก็อยากมาร่วมทีมเราด้วย แต่สโมสรไม่มีงบประมาณมากพอ เนื่องด้วยข้อจำกัดทางการเงินจากสถานการณ์โควิด-19"
โซลชา ณ ปัจจุบัน
"ตั้งแต่ที่ผมแยกจาก ยูไนเต็ด มา ผมก็เดินทางไปที่นั่นที่นี่ในฐานะแฟนบอล พร้อมกับลูกๆ ของผม ผมได้ไปในที่ต่างๆ เช่น นาโปลี, มิลาน หรือ ดอร์ทมุนด์ เพื่อเปิดประสบการณ์ และเราหลงรักมัน"
"หน้าที่ของผมกับ ยูฟ่า คือการเข้าชมเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นการส่วนตัว ผมสามารถเข้าชมเกมต่างๆ ด้วยสายตาที่แตกต่างออกไปจากการเป็นผู้จัดการทีม ผมได้วิเคราะห์เกม ได้พยายามแก้ปัญหา ได้ดูว่าทั้งสองคู่แข่งใช้วิธีแบบไหนเพื่อห้ำหั่่นกัน"
"เร็วๆ นี้ผมจะเดินทางไป สหรัฐอเมริกา เพื่อพบกับ เวย์น รูนี่ย์ และ เดวิด เบ็คแฮม พร้อมกับชมเกมและอะไรหลายๆ อย่าง"
"ที่ผ่านมา ผมได้ข้อเสนอจากบางที่ ไม่นานนี้มี 2 ชิ้นจาก ซาอุีอาระเบีย เพื่อนสนิทผมที่เป็นเอเยนต์ผมด้วยนั้น เป็นฝ่ายตอบปฏิเสธพวกเขาไป คือถ้าคุณคุมทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว คุณก็คงขีดเส้นบางอย่างเอาไว้ถึงงานที่คุณอยากจะทำเป็นลำดับถัดไป"
"ผมรักอังกฤษและพรีเมียร์ลีก หรือ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ตอนนี้ก็แข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา แต่ผมไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องผูกมัดอยู่กับที่นั่น บางทีความท้าทายที่แตกต่างออกไป การสัมผัสวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่าง อาจเป็นสิ่งที่ผมต้องการก็ได้"