เบรนท์ฟอร์ด 1-4 ลิเวอร์พูล : เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัด หงส์แดง ฝ่าวิกฤตตัวเจ็บ บุกถลุงผึ้งน้อยขาดลอย - FEATURE
• แต่ตัวเจ็บเท่าไหร่ไม่ใช่ปัญหา ลิเวอร์พูล บุกรัว เบรนท์ฟอร์ด 4-1
• ทิ้งระยะหนี แมนฯ ซิตี้ 5 แต้ม แม้อาจแค่ชั่วคราว
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023/24
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567
สนาม: จีเท็ค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน: เบรนท์ฟอร์ด 1-4 ลิเวอร์พูล
ระหว่างผึ้งกับหงส์
แน่อยู่แล้วว่าด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้ ลิเวอร์พูล อยู่เหนือระดับไปกว่า เบรนท์ฟอร์ด อย่างชัดเจน และหงส์ก็สยบเจ้าผึ้งน้อยตัวนี้ลงบ่อยๆ ในช่วงหลัง
เผอิญว่านั่นคือภาพที่ แอนฟิลด์ เสียมากกว่า
เพราะหากโยกมาที่ เบรนท์ฟอร์ด บ้างแล้ว จะพบว่า ลิเวอร์พูล "เจองานลำบาก" อยู่ตลอดในการบุกมาเตะที่นี่ หลังจาก เบรนท์ฟอร์ด เลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน
2021/22 เคอร์ติส โจนส์ ยิงให้หงส์นำ 3-2 กลางครึ่งหลัง น.67 แต่ท้ายเกม โยอัน วิสซ่า ก็ทวงคืน 3-3 น.82
2022/23 โยอัน วิสซ่า กับ ไบรอัน เบโม่ ส่องคนละเม็ด อีกหนึ่งเป็น อิบราฮิมา โกนาเต้ ยิงตัวเอง จบเกม เบรนท์ฟอร์ด สยบ ลิเวอร์พูล 3-1
ดังนั้นเกมนี้ แม้ด้วยหน้าเสื่อ ลิเวอร์พูล จะเหนือกว่า แต่ก็ "มีมุม" เหมือนกันที่ เบรนท์ฟอร์ด จะลุ้นดึงแต้ม โดยเฉพาะว่านัดก่อนก็เพิ่งงัดฟอร์มดีๆ มาโชว์ด้วยการบุกยิง วูล์ฟส์ 2-0 ด้วย
เท่าที่พอมี
ในการลงมาลอนดอนงวดนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ เจอปัญหาสภาพทีมพอตัวทีเดียว เมื่อแม้ว่า อิบราฮิมา โกนาเต้ จะพ้นแบนกลับมาลงสนาม แต่ก็ขาดตัวเจ็บไปทั้ง อลิสซอน เบ็คเกอร์, สเตฟาน ไบจ์เซติช, โจเอล มาติป, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
เวลาเดียวกัน โดมินิค โซบอสซ์ไล ยังไม่ฟิต และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีชื่อแค่นั่งสำรอง
แนวรุก ลิเวอร์พูล วันนี้ เป็น หลุยส์ ดิอาซ - ดาร์วิน นูนเยซ - ดีโอโก้ โชต้า
ซึ่งก็คือทั้ง 3 นี่เองที่สังหารคนละเม็ดในเกมเก็บ เบิร์นลี่ย์ 3-1 สัปดาห์ที่แล้ว -- โชต้า ร้อนแรงสุดๆ ด้วยการกด 5 ประตูจาก 6 เกมหลังที่ลงสนาม
ครึ่งแรกที่แย่
โดยแง่ของผลการแข่งขัน ลิเวอร์พูล มีครึ่งแรกที่ดี ขึ้นนำตามเป้า 1-0 จังหวะโขกชงของ ดีโอโก้ โชต้า ให้ ดาร์วิน นูนเยซ หลุดเดี่ยวแบบมีทั้งพื้นที่และเวลา ซึ่งสตาร์อุรุกวัยก็เลือก "ทางเหนือ" ด้วยการตักข้ามหัวนายทวาร มาร์ค เฟล็คเค่น เข้าไปแบบพอดิบพอดี ในนาที 35
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของภาพรวม แน่นอนว่านี่คือครึ่งแรกที่น่าหงุดหงิดมากของทั้ง คล็อปป์ และแฟนๆ
น.34 เคอร์ติส โจนส์ โดนเตะเข้าเต็มๆ จนเล่นต่อไม่ไหว
น.44 จังหวะปะทะกันแล้ว คริสเตียน นอร์การ์ด ลอยเคว้งขึ้นฟ้า เสี้ยววินาทีต่อมาคือการทิ้งน้ำหนักทั้งตัวแลนดิ้งลงสู่หัวเข่าของ ดีโอโก้ โชต้า เต็มๆ จนต้องหาม โชต้า ออกทันที
ยังมีราย ดาร์วิน นูนเยซ ที่เจ็บเล็กๆ เหมือนกันจนต้องถอดออกไปพักเป็นการป้องกันความเสียหายเอาไว้ก่อน ให้ โคดี้ กัคโป ลงไปทำหน้าที่แทนเมื่อเริ่มต้นครึ่งหลัง
ครึ่งหลังที่ยอด
ยังดีที่ความเสียหายในแง่ของขุมกำลัง ถูกหยุดไว้ตรงนั้น และภาพของครึ่งเวลาหลังคือการยำใหญ่ใส่สารพัดของ ลิเวอร์พูล ต่อ เบรนท์ฟอร์ด
แม้โดยมากจะเป็นข้อผิดพลาดของกองหลังเจ้าถิ่น (เบน มี, คริสโตเฟอร์ อาเยอร์, เนธาน คอลลินส์) ที่วันนี้เล่นได้แย่มาก ยืนตำแหน่งพลาด สื่อสารไม่เข้าใจกัน แต่บทสรุปไม่ต่างกันคือ ลิเวอร์พูล "กินนิ่ม"
2-0 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สบโอกาสจิ้มผ่าน เฟล็คเค่น ตุงตาข่าย, 3-0 โม ซาลาห์ ทะลุเดี่ยวเข้าไปล่อเป้านิ่มๆ และ 4-1 หลุยส์ ดิอาซ แทงให้ โคดี้ กัคโป ปิดสกอร์
ยังเกือบเป็น 5-1 ด้วยตอนทดเจ็บ 90+7 จากเตะมุมที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โถมโขกเข้าชนคานอย่างจัง
อาถรรพ์กุนซือดีเด่น
ก่อนเกม มีการแซวขำขันกันว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ คงไม่ยินดีเท่าไหร่ที่ได้รับรางวัลกุนซือยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำเดือน ม.ค. 2024 ที่ยังพ่วงด้วย ดีโอโก้ โชต้า รับรางวัลแข้งดีเด่น เดือนเดียวกันนี้
ว่ากันว่า รางวัลนี้มีอาถรรพ์ ได้รับปุ๊บ เกมในวันรุ่งขึ้นมักได้ผลสกอร์ไม่เป็นใจ
เรื่องจริงหรือจ้อจี้...ย้อนไปดูพร้อมกันได้
ส.ค. 2023 - อันเก้ ปอสเตโคกลู ประเดิมรับรางวัลเดือนแรกของซีซั่น จากการประกาศในวันที่ 15 ก.ย. รุ่งขึ้น สเปอร์ส เบียดชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1
ก.ย. 2023 - ปอสเตโคกลู เบิ้ลรางวัลที่ 2 วันที่ 13 ต.ค. แต่ว่าเกมถัดมาห่างถึง 10 วัน สเปอร์ส ชนะ ฟูแล่ม ง่ายๆ 2-0
ต.ค. 2023 - ปอสเตโคกลู ทำแฮตทริกในการประกาศวันที่ 10 พ.ย. รุ่งขึ้น สเปอร์ส สิ้นท่า พ่าย วูล์ฟส์ 1-2
พ.ย. 2023 - เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ไปบ้างในวันที่ 8 ธ.ค. รุ่งขึ้นจากนั้น ผีแพ้คาบ้านเละเทะต่อ บอร์นมัธ 0-3
ธ.ค. 2023 - อูไน เอเมรี่ แห่ง แอสตัน วิลล่า ได้รับรางวัลในวันที่ 12 ม.ค. สองวันต่อมา วิลล่า ออกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0
และสำหรับ ม.ค. 2024 ที่ คล็อปป์ ได้ไป... ลิเวอร์พูล บุกถลุง เบรนท์ฟอร์ด 4-1
สรุป รางวัลกุนซือยอดเยี่ยมประจำเดือน 6 ครั้งในซีซั่นนี้ มีแค่ 2 หนเท่านั้นเองที่ผลลัพธ์ออกสวนทาง ก็เท่ากับว่า... อาถรรพ์นี้ ไม่มีอยู่จริงนะครับน้อนๆ!
หงส์จะเป็นแชมป์?
ทิ้ง แมนฯ ซิตี้ 5 แต้ม และนำหน้า อาร์เซน่อล 2 คะแนน (เมื่อทีมปืนโตบุกรัว เบิร์นลี่ย์ 5-0 ในคู่สี่ทุ่ม) ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในแทบทุกมิติ ชนะมากเกมสุด, แพ้น้อยเกมสุด, ยิงได้มากสุด, เสียน้อยที่สุดทีมหนึ่ง (เป็นรอง อาร์เซน่อล 2 ลูก)
ลิเวอร์พูล เดินหน้ามาจนถึงตรงนี้ด้วยผลงานดีๆ อย่างที่เห็น ทั้งที่ก็ต้องเจอปัญหาตัวเจ็บ ทีมไม่สมบูรณ์มาตลอดเส้นทาง รวมถึงเมื่อเดือนก่อนก็เสียตั้งกี่คนไปรับใช้ชาติกลางซีซั่น
การประกาศลาทีมล่วงหน้าของ คล็อปป์ นอกจากจะไม่ส่งผลแง่ลบแล้ว ยังอาจตรงกันข้ามว่าเป็นแรงกระตุ้นพิเศษของนักเตะ เพื่อ "ลานาย"
ลิเวอร์พูล กับแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัย 2 ปิดฉาก คล็อปป์ อย่างยิ่งใหญ่
จะทำสำเร็จจริงหรือไม่...ตอนนี้คงยังตอบไม่ได้
แต่ "ได้ลุ้น" ยาวๆ แน่นอน!