เบรนท์ฟอร์ด 2-2 เชลซี : เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัด สิงห์น้ำเงิน งัดก๊อกสอง ตามทวงแต้มท้ายเกม - FEATURE
• แต่จากสกอร์ที่ เชลซี นำอยู่ดีๆ 1-0 ก็กลายเป็นตามหลัง 1-2
• ยังดีที่เร่งเครื่องขึ้น ได้ อักเซล ดิซาซี่ โขกตีเจ๊าแบ่งแต้ม น.83
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023/24
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567
สนาม: จีเท็ค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน: เบรนท์ฟอร์ด 2-2 เชลซี
ผึ้งกับสิงห์
ไม่ได้มีโอกาสเจอกันบ่อยครั้งนัก เมื่อ เบรนท์ฟอร์ด เพิ่งขึ้นมาปักหลักสูดอากาศใน พรีเมียร์ลีก ได้ไม่นานนักแค่ 2-3 ปี
แต่แค่ไม่กี่นัดหลังนี่ ก็ชัดเจนมากพอแล้วที่จะบอกว่า เบรนท์ฟอร์ด คือทีมที่ เชลซี ไม่ชอบ เมื่อน้องผึ้งเอางานยากมาให้พี่สิงห์อยู่ตลอดๆ ไม่ว่าจะที่ไหนเมื่อไหร่
2021/22 เบรนท์ฟอร์ด มีบุกชนะถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ 4-1
2022/23 เชลซี เอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ไม่ได้เลย เสมอ 0-0 นอกบ้าน และแพ้ 0-2 คาบ้าน
การเจอกันตอนต้นซีซั่นนี้ เมื่อ 28 ต.ค. เบรนท์ฟอร์ด ก็บุกเผา เดอะ บริดจ์ อีกครั้ง 2-0
ยึดสถิติเป็นเกณฑ์ ก็คงตีความได้ว่า เชลซี ไม่ได้มีโอกาสชนะเกมนี้มากมายอะไรเลย
ห้องทดลองของพอช 2.0
เซอร์ไพรส์ใช้ได้กับการประกาศไลน์อัพ ก่อนเกม 1 ชั่วโมง
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เลือกส่งกองหลังลงถึง 5 รายพร้อมกัน - กัปตันทีม เบน ชิลเวลล์, ลีวาย โคลวิลล์, อักเซล ดิซาซี่, เทรโวห์ ชาโลบาห์ และ มาโล กุสโต้
และเมื่อเกมออกสตาร์ท การยืนตำแหน่งก็บอกว่า โปเช็ตติโน่ เลือกงัดระบบ 3 เซนเตอร์แบ็กกลับมาใช้อีกครั้ง ในหมาก 3-5-2 หรือ 3-4-3 ที่ โคล พาลเมอร์ กับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เป็นตัวสนับสนุนหน้าเป้า นิโคลัส แจ๊คสัน
ก็คงเป็นเพราะต้องรับมืออาวุธหนักอย่าง ไอแวน โทนี่ย์, โยอัน วิสซ่า, วิตาลี่ ยาเนลท์ หรือคนอื่นๆ ของ เบรนท์ฟอร์ด ที่ทำให้ โปเช็ตติโน่ เลือกใช้ระบบนี้
หรือไม่ ก็เพราะตัวเจ็บตำแหน่งอื่นยังเยอะ ส่วนเซนเตอร์มีตัวเลือกเพียบ ก็เลยโปะๆ ส่งๆ มันลงไปพร้อมกันนั่นแหละ (ฮา)
โชว์ของแจ๊ค
ไม่ใช่แจ๊คเล็กแจ๊คใหญ่ ฟังสดหรือฟังแห้งมากกว่ากันครับ แต่คือพ่อเจ้าประคุณรุนช่อง นิโคลัส แจ๊คสัน เจ้าเก่าเจ้าเดิมนั่นเอง
45 นาทีแรกที่ จีเท็ค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม ถือว่า "แอฟริกันเนย์มาร์" เข้าตาดีเหลือเกิน
เข้าตาแรก กระชากเข้าไปโชว์ลีลาเหนือชั้นสับหลอกฟ้าบๆ สุดท้ายบอลพัวพันชนแข้งชนขาตัวเอง เสียจังหวะไปเองแบบเขินๆ
เข้าตาสอง เอ็นโซ เฟร์นานเดซ เคาะอย่างเนียนให้ แจ๊คสัน ทะลุเข้าไปล็อกหลบนายทวาร มาร์ค เฟล็คเค่น เรียบร้อย เหลือแค่เสากับตาข่าย คุณชายแจ๊คสันแกก็กดซะเบาหยองเน้นตรงกรอบ ก็โดนตัวคุมเส้นดักไว้ง่ายๆ
เข้าตาสาม มาโล กุสโต้ บอมบ์เข้าตรงกลาง แจ๊คสัน ทะยานขึ้นขวิดไทั้งน้ำหนักและทิศทาง เข้าไปที่เสาแรกพอดิบพอดี
ฟอร์มภาพรวมอาจยังกระโดกกระเดก ไม่ได้ดุดันอันตราย และเทียบไม่ได้กับตำนานดาวยิงอย่าง ดิดิเยร์ ดร๊อกบา (ที่ตอนนี้อายุ 45 ดูยังฟิตเปรี๊ยะ เฉียบคม น่าพึ่งพากว่า แจ๊คสัน เสียอีก)
แต่ถึงตอนนี้ แจ๊คสัน กดแล้ว 11 ประตู เป็นใน พรีเมียร์ลีก 8 ลูกแล้วแฮะ
แต่ก็เสียประตูอยู่ดี
ครึ่งแรกมาดีๆ ทั้งเกมดีและได้ประตูนำ
แต่ครึ่งหลังเป็นหนังคนละม้วน เบรนท์ฟอร์ด จ้วงแซงจากลูกเก็บตกของ แมดส์ โรเออร์สเลฟ น.50 และลูกตีลังกายิงงามๆ ของ โยอัน วิสซ่า น.69
นั่นหมายความว่า หมาก 3 เซนเตอร์แบ็กเกมนี้ แม้อาจพอปิดเกมของตัวทีเด็ดอย่าง ไอแวน โทนี่ย์ ได้ก็จริง แต่ไม่วาย เสียไป 2 ประตู
นี่คือการเสียลูกที่ 43 ของซีซั่นนี้...ที่ยังเหลือโควตาให้ เชลซี เสียได้อีกเยอะกับ 12 เกมที่ยังเหลือ
ยังดีที่ช่วงท้าย น.83 อักเซล ดิซาซี่ ดันเกมขึ้นไปโขกลูกเปิดของ โคล พาลเมอร์ เข้าไปไม่เหลือ ช่วยให้ เชลซี ยังมีแต้มกลับออกไปด้วยสกอร์ 2-2
ปัญหาเกมเยือน
ในภาพแคบ เชลซี ไร้พ่ายเกมเยือนมา 3 นัดแล้ว
แต่ในภาพกว้าง ที่ก็เป็นข้อเท็จจริงเต็มตา 4D คือ เชลซี ชนะแค่ 2 เท่านั้นจากเกมเยือน 9 นัดหลังสุด ใน พรีเมียร์ลีก
- แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-4
แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2
แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2
แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2
ชนะ ลูตัน ทาวน์ 3-2
แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4
ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1
เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1
เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 2-2
เปลี่ยนแท็กติกก็แล้ว ปรับหมากก็แล้ว สลับตำแหน่งก็แล้ว ผลงานเกมเยือนก็ยังดูไม่ค่อยได้
ต้องแก้อย่างไร... เป็นคำถามของ โปเช็ตติโน่ และบรรดาแข้งสิงห์ที่จะต้องไขคำตอบ
คำเดิม - บอลลีกเลิกพูด
คาราบาว คัพ เข้าใกล้เส้นชัยแค่เอื้อม ดันไปสะดุดล้มก่อนถึงเมตรสุดท้าย
เอฟเอ คัพ ยังอยู่ในเส้นทาง รอบ 8 ทีมสุดท้ายจะเจอ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งก็ดูมีโอกาสถึงตัดเชือกอยู่ไม่น้อย
พรีเมียร์ลีก... เลิกพูดจ่ะเลิกพูด!
26 เกมผ่านไป หมายความถึงเหลืออีกแค่ 12 เกมสุดท้าย จนป่านนี้ เชลซี ก็ยังพาตัวเองขึ้นไปอยู่ "ครึ่งบน" สิบอันดับแรก ไม่สำเร็จเลย
- 1. ฟอร์มยังขึ้นๆ ลงๆ ไม่ได้มาตรฐาน
2. เกมเยือนยังเป็นปัญหา
3. มีเกมยากๆ รออยู่อีกเพียบ
เคยพูดไปแล้วแหละว่า เต็มที่ก็คงอันดับ 8-9 ส่วนอย่างแย่ ก็ไม่น่าเกิน 12-13
นาทีนี้ ก็ยังคงต้องย้ำคำเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า ซีซั่นนี้ของ เชลซี จะดีจะชั่ว แขวนไว้ที่ "บอลถ้วย" เท่านั้น
