เชลซี 2-1 บอร์นมัธ : เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัด สิงห์แรงจัด วิ่งขึ้นที่ 6 พร้อมลุ้นตั๋ว ยูโรป้า ลีก - FEATURE

• ปิดซีซั่นด้วยการชนะ 5 นัดซ้อนเป็นการส่งท้าย
• หากสถานการณ์เป็นใจในนัดชิงเอฟเอ คัพ เชลซี จะได้ไป ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ซีซั่นหน้า
• และนี่คือหลายๆ สิ่งที่พอมองเห็นได้จากเกมปิดฤดูกาลที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
Chelsea FC v AFC Bournemouth - Premier League
Chelsea FC v AFC Bournemouth - Premier League / Ryan Pierse/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023/24
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2567
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน :
เชลซี 2-1 บอร์นมัธ


สิงห์กับเชอรี่ส์

ควรถือว่านี่คือเกมปิดซีซั่นแบบ "สบายๆ" ไร้กังวลที่สุดของ เชลซี ในรอบหลายปีหลัง เมื่อสถานการณ์เป็นไปแบบไม่มีอะไรให้ต้องกังวล แม้กระทั่งผลการแข่งขันเกมนี้ ก็ยังมีแนวโน้มแบบเอียงกะเท่เร่ ว่าก็คงจะชนะได้ค่อนข้างแน่

เพราะ 1) เชลซี กำลังเข้าฝักพอดี ฟอร์มกำลังร้อนแรงส่งท้ายซีซั่น ชนะ 4 เกมซ้อนก่อนถึงวันนี้ ซึ่งถือเป็นะระยะเข้าเบรคที่ต่อเนื่องที่สุดแล้วในยุค เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

2) เชลซี ยังต้องเน้นต่ออีกเล็กน้อย เพื่อการันตีชัยชนะ การันตีการจบอันดับ 6 ซึ่งจะได้ไปเล่นถ้วยยุโรปใบเล็กสุดอย่าง คอนเฟอเรนซ์ ลีก -- ในสถานการณ์ซึ่งที่จริงแล้ว แฟนเชลซีหลายๆ คนเองได้ประเมินเอาไว้ ว่าจะไม่มีเอี่ยวกับบอลยุโรปเป็นแน่แท้ ระหว่างที่ผลงานฟุบๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายในช่วงที่ผ่านมา

และ 3) บอร์นมัธ ไม่ได้มีอะไรให้ต้องสู้ จะจบแถวกลางตาราง (ค่อนล่าง) แน่นอนแล้ว แถมฟอร์มก่อนจะถึงเกมนี้ ยังแพ้มา 2 เกมซ้อน และแพ้ 4 จาก 7 เกมหลังสุดด้วย

Thiago Silva, Marcos Senesi
Chelsea FC v AFC Bournemouth - Premier League / Ryan Pierse/GettyImages

ของแท้ แม้มองไม่ค่อยเห็น

ในการทุ่มทุนสร้างเป็นสถิติติดชาร์ตหัวแถว 100+15 ล้านปอนด์ ก็ควรต้องถือว่า มอยเซส ไคเซโด้ ยังไม่ได้ตอบแทน เชลซี ด้วยผลงานติดเกรดเลอเลิศขั้นนั้น

หลายๆ เกมยังฟอร์มพื้นๆ ระดับ 6/10 หรือ 7/10 เป็นส่วนมาก

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางปัญหาตัวเจ็บรุมเร้า เดี๋ยวคนนั้นเดี้ยงเดี๋ยวคนนี้หายในแต่ละสัปดาห์ ก็มี ไคเซโด้ นี่แหละ ปักหลักดูแลเกมตรงกลางให้กับ เชลซี ได้ตั้งแต่ต้นยันจบ

เกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันนี้ คือนัดที่ 48 ของมิดฟิลด์เอกวาดอร์วัย 22

มากกว่านี้มีแค่คนเดียวคือ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่เล่นไปทั้งสิ้น 50 เกม

อย่างไรก็ตาม ในฟอร์มพื้นๆ ไม่ได้โดดเด่นมากมายนักเหล่านั้น ไคเซโด้ ก็จัดการงานของตัวเองอย่างมุมานะ อย่างการวิ่งพล่านช่วยตัดเกมก่อนถึงแผงหลัง แล้วเมื่อสบโอกาสเหมาะค่อยเติมขึ้นสูง ไม่ว่าจะขึ้นมาช่วยเล่นเกมจ่ายบอล หรือจบสกอร์ด้วยตัวเองก็ตาม

ก็จนกระทั่งวันนี้ที่ "กดสูตรติด" เข้าเป้าตรงเผง

ต้องชม กัลลาเกอร์ ส่วนหนึ่งที่วิ่งเข้าบีบกดดัน เนโต้ นายด่านผู้มาเยือน จนไม่มีเวลาตั้งตัว ไม่มีเวลาเล็งก่อนจ่าย กระทั่งบอลลอยมาเข้าทาง ไคเซโด้ พักลงแล้วซัดตูมไปจากครึ่งสนาม หรือเกินเส้นครึ่งสนามมาประมาณ 2 ก้าว

ไม่ต้องรอลุ้นลูกตกพื้นให้เสียเวลา เมื่อบอลที่ออกจากเท้า ไคเซโด้ ลอยเข้าสู่ตาข่ายอย่างแม่นยำพอดิบพอดี

นี่คือเม็ดแรกของ ไคเซโด้ กับ เชลซี แต่จัดเป็นประตูที่สวยสด สุดยอดไปเลย เต็มเหนี่ยวไปเลยพี่ เต็มที่ไปเลยเธอ!

FBL-ENG-PR-CHELSEA-BOURNEMOUTH
FBL-ENG-PR-CHELSEA-BOURNEMOUTH / HENRY NICHOLLS/GettyImages

นักเตะชั้นยอด จะทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

หนึ่งก็คือ ไคเซโด้ ที่ยิงประตูจากครึ่งสนามเข้าไปแบบหมดจดงดงาม

และสองก็คือ โคล พาลเมอร์ ที่ยังคงจัดให้อีก 1 แอสซิสต์เป็นการส่งท้าย

แล้วก่อนที่จะไปถึงอีกหนึ่งแอสซิสต์นั่น เจ้าหนูวัย 22 ก็โชว์ลีลาในครึ่งแรกได้เป็นอย่างดี หนึ่งในนั้น (น.31) คือช็อต "โชว์วิสัยทัศน์" กระดกขึ้นหน้าให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ตามบอลไปสู่จุดอันตรายทางฝั่งขวาเขตโทษ

ก็นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม... สเตอร์ลิ่ง ทำเสียของด้วยการพยายามยิงข้ามหัว เนโต้ ซึ่งก็ข้ามคานไปไม่ใกล้เคียง

นักเตะชั้นยอด จะทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

เกมนี้ ไคเซโด้ ทำแบบนั้นให้เห็น ส่วน พาลเมอร์ ทำมานักต่อนักตลอดทั้งปี (จนกระทั่งครองรางวัลดาวรุ่งแห่งปี พรีเมียร์ลีก และแข้งแห่งปี เชลซี 2 สาขา)

แต่สำหรับ สเตอร์ลิ่ง นั้น...

FBL-ENG-PR-CHELSEA-BOURNEMOUTH
FBL-ENG-PR-CHELSEA-BOURNEMOUTH / HENRY NICHOLLS/GettyImages

ขอให้โชคดี

"ขอบคุณ เชลซี ขอบคุณแฟนบอลทุกคน ผมรักพวกคุณทุกคน ลาก่อน"

ติอาโก้ ซิลวา ทิ้งท้ายช่วงเวลาในเครื่องแบบสิงห์น้ำเงินเอาไว้แบบนี้ พร้อมกับอีกประโยคเด็ด "ความฝันของผม? คงเป็นการได้เห็นลูกชายของผม มาเล่นให้กับ เชลซี"

ย้ายฟรีมาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เพื่อเข้าร่วมทีม เชลซี ในยุค แฟร้งค์ แลมพาร์ด โดยแม้จะมาในช่วงสูงวัย ไม้ใกล้ฝั่งแล้ว ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับแข้งดีกรีกัปตันทีมชาติบราซิล ที่จะสร้างผลงานใน พรีเมียร์ลีก ได้เป็นอย่างดี

จนถึงวันนี้ 4 ซีซั่นผ่านไป ซิลวา ลงสนามรับใช้ เชลซี ไปไม่น้อย 155 นัด ซัด 9 ประตู และมีส่วนร่วมกับแชมป์ 3 รายการ

ก็เป็นเวลาอันเหมาะสม ในวัย 39 ปี ที่จะครบ 40 ปีเต็มในอีก 4 เดือนข้างหน้า สำหรับการที่ ซิลวา จะมุ่งหน้า "กลับบ้าน" ไปซบ ฟลูมิเนนเซ่ ที่เคยร่วมสังกัดมาก่อนแล้วหนึ่งรอบ

แต่นอกจาก ซิลวา ที่ไปชัวร์แล้วรายหนึ่ง ก็เชื่อได้ว่า, แม้คงไม่ถึงกับล้างบางเหมือนซัมเมอร์ก่อน, จะมีนักเตะที่ถูกปล่อยทิ้ง ปล่อยขาย ปล่อยยืม ออกจากทีมอีกไม่ต่ำกว่าสี่ซ้าห้าราย

  • ไม่นับรวมตัวส่งยืม (ลูกากู, ซีเย็ค) ที่คงกลับมายาก ก็จะมีที่เข้าข่าย อาทิ

    ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อยู่ไปก็เท่านั้น ฝากความหวังอะไรไม่ได้

    โรเบิร์ต ซานเชซ เสียตำแหน่งมือหนึ่งเรียบร้อย บางทีอาจถูกขายถ้า เกป้า กลับมา

    รีซ เจมส์ อาจมีตำแหน่งกัปตันก็จริง แต่ซีซั่นนี้พร้อมเล่นแค่ 10 นัด และแว่วๆ ว่า เรอัล มาดริด สนใจ

    มาร์ก กูกูเรย่า ก็ด้วย ถ้า เบน ชิลเวลล์ กับ ลีวาย โคลวิลล์ พร้อมเต็มที่

    เทรโวห์ ชาโลบาห์ อาจได้เล่นต่อเนื่องช่วงท้าย แต่ก็ชัดอยู่แล้วว่าเป็นตัวเลือกปลายแถว

ขาออกจะมีแน่ และขาเข้าก็น่าจะมีเหมือนกัน รอดูกันยาวๆ ในตลาดซัมเมอร์นี้

Chelsea FC v AFC Bournemouth - Premier League
Chelsea FC v AFC Bournemouth - Premier League / Gaspafotos/MB Media/GettyImages

ที่นี่ สแตมฟอร์ด บริดจ์

แง่งามอย่างหนึ่งของ เชลซี ในมือ โปเช็ตติโน่ ก็คือการทำให้ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นเสมือนป้อมปราการแข็งแกร่ง ที่ที่ใครก็มาดึงแต้มกลับออกไปไม่ได้ง่ายๆ

  • นี่คือ เชลซี ในบ้าน 9 เกมหลังสุด

    ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-2 (เอฟเอ คัพ)

    ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-2

    ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-2 (เอฟเอ คัพ)

    เสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2

    ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3

    ชนะ เอฟเวอร์ตัน 6-0

    ชนะ สเปอร์ส 2-0

    ชนะ เวสต์แฮม 5-0

    และชนะ บอร์นมัธ 2-1

หนสุดท้ายที่พ่ายคารัง คือการโดน วูล์ฟแฮมป์ตัน บุกปราบ 4-2 เมื่อ 4 ก.พ. แล้วจากนั้นก็ชนะ 8 จาก 9 เกมเหย้าสุดท้ายในบ้าน

อ่านถึงตรงนี้ ยังไม่ลุกขึ้นปรบมือให้สักหน่อยหรือครับ??

Chelsea FC v AFC Bournemouth - Premier League
Chelsea FC v AFC Bournemouth - Premier League / Gaspafotos/MB Media/GettyImages

ไม่ใช่แค่ คอนเฟอเรนซ์

ชัยชนะ 5 เกมซ้อน ทำให้ เชลซี เข้าป้ายเป็นอันดับ 6

แน่นอนว่านี่คือเรื่องไม่น่าเชื่อ เมื่อย้อนไปสัก 2-3 เดือนก่อน เชลซี ยังสะเงาะสะแงะชนิดก้าวแล้วล้มๆ แพ้เป็นเรื่องธรรมชาติ จนหลายฝ่ายมองว่า แค่จบ "10 อันดับแรก" ก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว

แต่ที่มากกว่านั้นอีก คือไม่ใช่แค่ คอนเฟอเรนซ์ ลีก

เชลซี กำลังจะได้ไปเล่น ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ซะงั้น!

เรื่องของเรื่องก็คือ นัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ วันเสาร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นการพบกันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

มุมฟ้า แน่นอนว่ามีการันตีตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่แล้ว ส่วนมุมแดง ต้องชนะ ครองแชมป์เท่านั้นจึงจะได้ไป ยูโรป้า ลีก ตามโควต้าบอลถ้วย

หากว่าโผไม่พลิก แมนฯ ซิตี้ ชนะได้ตามมาตรฐาน ก็จะกลายเป็นว่า โควตา ยูโรป้า ลีก ที่ผ่านจากบอลถ้วย จะถูกริบไป (ฐานที่ ซิตี้ ไปชปล. อยู่แล้ว) แล้วเอามามอบให้ "ทีมที่อยู่ในอันดับรองลงไปของพรีเมียร์ลีก" แทน

1-4 ไป ชปล. และ 5 สเปอร์ส กับ 6 เชลซี ก็จะได้ควงคู่กันไปสู่ ยูโรป้า ลีก

ฉะนั้น เสาร์นี้ น้ำเงินกับฟ้า รวมพลังสุดหัวใจ!

Manchester City v Chelsea - Emirates FA Cup Semi Final
Manchester City v Chelsea - Emirates FA Cup Semi Final / Crystal Pix/MB Media/GettyImages

หมดคำถาม

สุดท้ายท้ายสุด ซีซั่น 2023/24 ควรต้องถือว่า เชลซี จบได้สวยกว่าที่คิด

ระหว่างทางอาจเจออะไรที่น่าหงุดหงิด เจอเรื่องบั่นทอนจนเสียงโห่ไล่ โปเช็ตติโน่ ดังขึ้นเป็นระยะ

แต่คนที่โห่นั่น อาจลืมไปว่า "จำนวนตัวเจ็บ" ที่ต้องเผชิญในแต่ละแมตช์เดย์ มันมีอยู่มากขนาดไหน

เชื่อหรือไม่ว่า โรมิโอ ลาเวีย ที่ปาดหน้า ลิเวอร์พูล คว้ามาด้วยค่าตัว 50 กว่าล้านปอนด์ ถึงวันนี้เพิ่งได้เล่นไปแค่ 1 เกมถ้วน

แต่ท่ามกลางปัญหาสารพัดสารพันที่ต้องเผชิญรายทาง ตอนจบปรากฏว่า เชลซี กำลังจะได้ไป ยูโรป้า ลีก (ถ้า แมนฯ ซิตี้ ไม่พลาด)

โปเช็ตติโน่ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองไปมากกว่านี้แล้ว

ถ้าบอร์ด เชลซี อยากเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน ก็เชิญได้ตามสบาย แต่ถ้าเลือกทางนี้ ก็อย่ามาวอนของ้องอนให้ โปเช็ตติโน่ กลับมาอีกรอบแล้วกัน!

FBL-ENG-PR-CHELSEA-BOURNEMOUTH
FBL-ENG-PR-CHELSEA-BOURNEMOUTH / HENRY NICHOLLS/GettyImages

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม เชลซี ได้ที่นี่