เยอรมนี 5-1 สกอตแลนด์ : เก็บตกหลังเกม ยูโร 2024 นัดเปิดสนาม เจ้าภาพออกตัวสุดสวยด้วยฟอร์มระดับแชมป์ - FEATURE
• เจ้าภาพ เยอรมนี เล่นด้วยฟอร์มระดับแชมเปี้ยน ซึ่งตรงกันข้ามกับ สกอตแลนด์ ทุกอย่าง
• และนี่คือหลายๆ สิ่งที่พอมองเห็นได้จากเกมนัดเปิดสนาม ยูโร 2024 แมตช์นี้
รายการ: ฟุตบอล ยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ
วันแข่งขัน: วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2567
สนาม: ฟุตบอล อารีน่า มึนเช่น
ผลการแข่งขัน : เยอรมนี 5-1 สกอตแลนด์
เบียร์กับวิสกี้
ไม่ได้มีโอกาสพบกันบ่อยครั้งนัก โดยตลอดหน้าประวัติศาสตร์ สองชาติผู้ขึ้นชื่อเรื่องน้ำเมา เคยซัดกันมา 13 ครั้ง ผลเป็น เยอรมนีชนะ 8 สกอตแลนด์ชนะ 1 เสมอ 4
มาในช่วง 2 ทศวรรษหลัง เยอรมนี เจอกับ สกอตแลนด์ 3-4 หน
ปรากฏว่า 3 ครั้งหลังสุด ล้วนแต่ลงเอยด้วยชัยชนะของ "อินทรีเหล็ก" ทั้งสิ้น
- 10/09/03 (คัดยูโร) เยอรมนี ชนะ 2-1
07/09/14 (คัดยูโร) เยอรมนี ชนะ 2-1
07/09/15 (คัดยูโร) เยอรมนี ชนะ 3-2
อย่างไรก็ตาม มาถึงเกมนี้ ปัจจัยที่จะส่งอิทธิพลคงไม่ใช่เรื่องเก่าในอดีต แต่เป็นสภาพปัจจุบัน ความพร้อม และคุณภาพของสองฝ่ายที่จะงัดมาโชว์กันเสียมากกว่า
ฟูลทีม vs งึกๆ งักๆ ทีม
ที่จริง เมื่อดูรายชื่อนักเตะที่ "หลุดโผ" ไม่ได้มา ยูโร 2024 เที่ยวนี้
กลุ่มที่หลุดโผของ เยอรมนี เรียกเสียงซี้ดซ้าดได้มากกว่า สกอตแลนด์ เยอะ
เยอรมนี : ติโม แวร์เนอร์, แซร์จ นาบรี้, ยูเลียน บรันท์, เลออน โกเร็ตซ์ก้า, นิคลาส ซูเล่, มัตส์ ฮุมเมิลส์
สกอตแลนด์ : ลินดอน ไดค์ส, อารอน ฮิคกี้, เบน โด๊ค
อย่างไรก็ตาม ชัดเจนว่า ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ ตั้งใจสร้างทีมสายเลือดใหม่ของเขา โดยไม่พึ่งพาชื่อข้างต้นอีกแล้ว ตรงกันข้ามกับ สตีฟ คล้าร์ก ที่เลือกไม่ได้ แต่เสียชื่อเหล่านั้นไปเพราะปัญหาบาดเจ็บ ไม่พร้อมลุยยูโร
นั่นจึงกลายเป็นการเผชิญหน้ากันของ "ฟูลทีม" ฝั่งอินทรีเหล็ก กับ "งึกๆ งักๆ ทีม" ของทัพตาร์ตัน... ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สตีฟ คล้าร์ก มั่นใจมาจากไหนถึงได้ฝังระบบ 3-4-3 หรือ 3-4-2-1 ให้กับทีม
เพราะแม้จะตั้งมั่นอุดเกมรับมาจากบ้าน แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งรั่ว ยิ่งเล่นก็ยิ่งยับเยิน อย่างที่เห็นละครับเจ้านาย...
ยิ่งเล่นยิ่งยับ
ไม่ได้สลับซับซ้อน สกอตแลนด์ ลงสนามไปพร้อมไอเดียที่ชัดเจน คือการใช้ระบบ Ultra Defensive ถอยร่นเต็มกำลัง ตั้งรับลึก วางกำแพงมนุษย์ซ้อนกัน 2-3 ชั้น และปล่อยให้เกมรุกเป็นเรื่องของการ "รอสวน" ในจังหวะเหมาะๆ
ช่วงต้น เยอรมนี ทำได้แค่พยายามใช้บอลโยน เพื่อหวังให้ข้ามแผงหลัง
แม้จะกดสูตรติดแต่แรก กับจังหวะหลุดของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ทะลุเข้าไปยิงติดเซฟ แองกัส กันน์ แต่ก็ชัดเจนว่าเป็นจัวหวะยืนเหลื่อม ล้ำหน้าไปเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกว่าระบบ 3-4-3 หรือ 3-4-2-1 ของ สตีฟ คล้าร์ก มันไม่เวิร์ค เมื่อ เยอรมนี ยังหาช่องจู่โจมได้อย่างสะดวก และเจาะเข้าแบบไม่ต้องลุ้นอะไรมากมาย
ประตู 1-0 ซึ่งถือเป็นลูกแรกประจำ ยูโร 2024 ในนาทีที่ 10 โทนี่ โครส โยนข้ามออกขวา โยชัว คิมมิช จ่ายมาตรงกลาง ตรงนั้นควรเป็นหน้าที่ของมิดฟิลด์เกมรับ คัลลั่ม แม็คเกเกอร์ หรือไม่ก็ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ในการคุมโซนปัดป้อง แต่เปล่าเลย ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ได้โอกาสตวัดยิงไม่จับง่ายๆ แม้ติดเซฟ แองกัส กันน์ เล็กๆ แต่บอลยังแรงพอชนเสาในเด้งเข้าประตูไป
1-0 มาเร็วในสิบนาที
2-0 ก็มาเร็วใน 20 นาที (จามาล มูเซียล่า ล็อกหนีกองหลังแล้วอัดเสยตาข่าย)
เช่นเดียวกับเมื่อสิ้นสุดครึ่งแรก ซึ่งสกอร์ถ่างเป็น 3-0 (จุดโทษที่ ไรอัน พอร์เทียส เปิดปุ่มใส่ อิลคาย กุนโดกัน)
ครึ่งแรกผ่านที่ 3-0 ก็เท่ากับเกมจบตรงนั้น ครึ่งหลังมีแค่ว่า เยอรมนี จะยิงเพิ่มได้อีกกี่เม็ด หรือ สกอตแลนด์ จะตีคืนได้สักเม็ดรึเปล่า แค่นั้น
อ้าวลืม!
แรกสุดคือแผงหลังที่ "เอาไม่อยู่" ไม่สามารถรับมือกับแนวรุกที่แสนจะแพรวพราวของ เยอรมนี ได้เลย
แต่ที่พลาดมากกว่าของ สกอตแลนด์ คือการพลาดที่พวกเขา "มองข้าม" ไม่ยอมส่งใครมาตามประกบตัวออกบอลอย่าง โทนี่ โครส ปล่อยให้มิดฟิลด์เชิงสูงแบบนี้เล่นสบาย สามารถออกบอลบัญชาการเกม กำกับทิศทางของเกมได้อย่างสะดวก ก็เสร็จเลย
ไม่รู้เหมือนกันว่ามองข้าม หรือแค่ "ลืมไป" ว่าคู่แข่งเขามีตัวออกบอลฉลาดๆ แบบนี้อยู่
คงเห็นด้วยตากันอย่างทะลุปรุโปร่งในเกมนี้ ว่าการเล่นแบบ Deep-Lying Playmaker ของ โทนี่ โครส มันเป็นแบบไหน โหดอย่างไร
90min ภาคภาษาอังกฤษ ตัดเกรด โครส ที่ 9/10 พร้อมแจกแจงว่า "มหัศจรรย์และสง่างาม โครส ลงโทษ สกอตแลนด์ อย่างสาหัสสำหรับการไม่หาใครมาตามปิดเกมของเขา นี่คือฟอร์มการเล่นแบบที่จะทำให้คุณต้องคิดว่า เขาควรตัดสินใจใหม่สักหน่อ สำหรับการแขวนสตั๊ดเลิกเล่นเมื่อสิ้นสุดทัวร์นาเมนต์"
ฟอร์มแชมป์
ในเวลาเดียวกันกับความน่าส่ายหัวของ สกอตแลนด์ ก็คือความน่าทึ่ง โฉบเฉี่ยวไฉไลเป็นบ้า ประหนึ่ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ สปอร์ตคันหรูของ เยอรมนี
ตลอดเกม เยอรมนี จัดการ สกอตแลนด์ แบบที่เรียกว่า "บอลคนละชั้น" ที่แท้ทรู
สถิติเมื่อจบเกมบอกว่า อินทรีเหล็ก
- ครองบอล 68%
สร้างโอกาสยิง 20
ยิงตรงกรอบ 10
จ่ายบอล 655
จ่ายเข้าเป้า 94%
กลางสนามดี และสกอร์ก็ไหลมาเทมา ซึ่งภาพทั้งหมดบอกว่านี่คือ "ฟอร์มระดับแชมป์" ที่ เยอรมนี จัดมาโชว์ตั้งแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่เกมเปิดสนามกันไปเลย
ทรงนี้ ดูแล้วไม่ใช่แค่รอบแรก แต่น็อกเอาต์มีแน่ แม้อาจยังต้องดูชื่อชั้นคู่แข่ง สภาพความพร้อมในวันนั้น และปัจจัยอีกหลากหลายที่เกี่ยวข้อง ก็ตาม
จับตาดูไปพร้อมกัน "ฟอร์มแชมป์" ของ เยอรมนี จะปรากฏในตลอด 3 เกมรอบแรกไหม
และจะอยู่ยาวๆ ถึงวันสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ หรือไม่อย่างไร