นิวคาสเซิ่ล 4-1 เชลซี : ประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัดหลังบ้านสิงห์อย่างรั่ว 2 เกมหลังโดนรัว 8 ประตู - FEATURE

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566
สนาม: เซนต์ เจมส์ พาร์ค
ผลการแข่งขัน: นิวคาสเซิ่ล 4-1 เชลซี

หมากของ โปเช็ตติโน่ เริ่มนิ่ง

จนถึงตรงนี้ที่เป็นเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 13 ของซีซั่น 2023/24 เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ดูเริ่มค้นหา 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดได้แล้ว ภายใต้ระบบ 4-2-3-1 ที่เป็นหลัก (ต่างจาก 3-4-2-1 ตอนต้นซีซั่น) ที่เหลือก็แค่เกลี่ยนักเตะให้เหมาะสมกับหมากการเล่น

โรเบิร์ต ซานเชซ นอนมาในตำแหน่งนายประตู

หลังบ้านมี ติอาโก้ ซิลวา เป็นหลัก ลีวาย โคลวิลล์ เป็นรอง (เช่นเกมนี้ที่ เบอนัวต์ บาเดียชิล ฟิตกว่า ก็ได้เล่น) ส่วนแบ็กสองข้าง กัปตันทีม รีซ เจมส์ กับรองกัปตัน เบน ชิลเวลล์ เป็นตัวยืน (ซึ่งวันนี้ ชิลเวลล์ ยังไม่พร้อม เป็น มาร์ก กูกูเรย่า ออกสตาร์ท)

มิดฟิลด์คู่กลาง เอ็นโซ เฟร์นานเดซ จับคู่ มอยเซส เคเซโด้ หรืออย่างวันนี้สลับเป็น เลสลี่ย์ อูโกชุควู บ้าง

เกมรุก คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ ขึ้นสูงไปประสานงานร่วมกับ โคล พาล์มเมอร์ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ส่วนหน้าเป้า จนกว่าที่ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู จะฟิตถึงระดับ หรือ อาร์มันโด้ โบรย่า หายจากความกระดูกยุง ก็ต้องเป็น นิโคลัส แจ๊คสัน รับเหมา

ลงตัว...ในที่นี้คือ เริ่มชัดแล้วสำหรับ 11 คนแรก ที่จะมีเปลี่ยนบ้างก็เล็กน้อย

ส่วน "ผลงานลงตัว" หรือ "ฟอร์มเข้าที่เข้าทาง" ชัดเจนว่ายังไม่ใช่

สาลิกา ฝ่าวิกฤตตัวเจ็บ

ด้าน เอ๊ดดี้ ฮาว นายใหญ่สาลิกา ยังคงต้องแบกรับปัญหานักเตะบาดเจ็บเป็นพรวน ติดชาร์จนัมเบอร์วันสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก เวลานี้ - ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, สเวน บ็อตมัน, เจค็อบ เมอร์ฟี่, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์, แดน เบิร์น, ฆาเบียร์ มานกีโย่, เอลเลียต แอนเดอร์สัน, คัลลั่ม วิลสัน, ชอน ลองสตาฟฟ์

แถมยังมี ซานโดร โตนาลี่ ที่แบนยาวไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน

อีกก็ยังต้องบวก ลูอิส ฮอลล์ ตัวยืมจาก เชลซี ที่เกมนี้ลงเจอต้นสังกัดแม่ ไม่ได้ อีกคน

หายไปครึ่งทีมแบบนี้ ฮาว จึงไม่มีทางเลือกนอกจากเรียกนักเตะเยาวชนขึ้นมาสมทบทีมชุดใหญ่ นำโดย ลูอิส ไมลี่ย์ เด็กปั้นอายุ 17 ที่ลงตัวจริงแดนกลาง
เลยทันที และยังมี เบน พาร์กินสัน (18), อมาดู ดิยัลโล่ (20), อเล็กซ์ เมอร์ฟี่ (19), ไมเคิ่ล เอ็นดิเวนี่ (19) ในม้านั่งสำรอง

ยังดีที่ 11 คนแรกทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม ไม่ต้องถึงมือเด็กๆ พวกนี้แต่อย่างใด

จากยิงเขา 8 มาโดนยิง 8

ก็แปลกดีสำหรับ เชลซี ยุค โปเช็ตติโน่

ก่อนหน้านี้ 2 นัด ชนะ สเปอร์ส 4-1 กับเสมอ แมนฯ ซิตี้ 4-4 เท่ากับสองนัดซัดกระจาย 8 ประตู

แต่ถ้าวัด 2 นัดหลัง เสมอ แมนฯ ซิตี้ 4-4 กับแพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-4

จะเห็นชัดว่า "ปัญหา" ของ เชลซี อยู่ตรงไหน -- สองนัดโดนเจาะ 8 ประตู

นัดนี้แม้ครึ่งแรกจะจบที่ 1-1 แต่ก็หวุดหวิดจวนเจียนเหลือเกิน

ประตูแรก กองหลัง เชลซี วางกับดักล้ำหน้าพลาดเต็มๆ โดยที่ มาร์ก กูกูเรย่า ไม่ขยับตามไลน์เพื่อน จน อเล็กซานเดอร์ อิซัค ว่างโล่งโจ้งและปิดบัญชีไม่พลาด ในนาทีที่ 13

หลังจากตีเสมอแล้ว น.26 ก็เกือบโดนเม็ดสองเร็วอีก ยังดีที่จังหวะโถมโขกเตะมุมของ โชลินตอน บอลเบี่ยงเสาออกไปอย่างหวุดหวิดเฉียดฉิว ทั้งที่ โรเบิร์ต ซานเชซ ไม่อยู่ในจุดที่จะป้องกันได้แล้ว

หลังสิงห์...เละเทะ

ประตูแรก (น.13) จัดกับดักล้ำหน้าพลาด เสร็จ อเล็กซานเดอร์ อิซัค

ประตูสอง (น.60) ตั้งโซนเกมรับผิดพลาด โดน จามาล ลาสเซลส์ ทะลุเข้าช่องว่างในกรอบ 6 หลา โขกผ่าน โรเบิร์ต ซานเชซ ง่ายๆ

ประตูสาม (น.61) สมาธิมีปัญหา หลังเขี่ยเริ่มเกม ติอาโก้ ซิลวา จับบอลคืนหลังของ โคล พาล์มเมอร์ ลั่นห่างตัว เสร็จ โชลินตอน พาเข้าไปล่อเป้าง่ายๆ

สิบนาทีเศษถัดมา รีซ เจมส์ จับห่างตัวอีกเช่นกัน จนต้องตัดฟาวล์ แอนโธนี่ กอร์ดอน และโดนสองเหลืองหนึ่งแดง ไล่ออก

ปิดท้ายประตู 4-1 (น.83) แอนโธนี่ กอร์ดอน เล่นงาน เบอนัวต์ บาเดียชิล แบบเบ็ดเสร็จ ทั้งฉีกหนีเซนเตอร์ฝรั่งเศสขึ้นไปรับบอล และเมื่อเข้าระยะทำการแล้วก็โยกหนี บาเดียชิล ก่อนกดเข้าเสาไกล

สองนัดหลังเสีย 8 ประตู

และ 13 เกมผ่านไป เชลซี เสียกระจาย 20 ลูก มากกว่าทั้ง เบรนท์ฟอร์ด (18), คริสตัล พาเลซ (18) หรือ เอฟเวอร์ตัน (17) เสียอีก

จะมาๆ ก็ไม่มา

จนถึงตอนนี้ ก็ชัดเจนว่า เชลซี ยังตั้งหลักตั้งลำสร้างมาตรฐานสูงๆ ไม่ได้ ยังคงขึ้นๆ ลงๆ และ "เดาทางลำบาก" อยู่ในทุกเกม

สำคัญคือ "ทำท่าจะมา ก็ไม่มา" ปล่อยให้แฟนๆ รอเก้อถึงผลงานที่ดีและมีความต่อเนื่อง

เกมที่ 3 ฟื้นฟอร์มอัด ลูตัน ทาวน์ 3-0 หลังจากนั้นแพ้ 2 เสมอ 1

เกมที่ 7-8 ชนะสองนัดซ้อน แถมยันเสมอ อาร์เซน่อล แต่ถัดมาก็แพ้ เบรนท์ฟอร์ด คาบ้าน

และหลังจากถล่ม สเปอร์ส กับตามทวงแต้ม แมนฯ ซิตี้ ได้แล้ว ก็อย่างที่เห็น... แพ้ นิวคาสเซิ่ล สิ้นสภาพสิงห์

"วันนี้ นิวคาสเซิ่ล จุดติด แต่ เชลซี ไม่" คริส ว็อดเดิ้ล ตำนานแข้งอังกฤษ คอมเมนต์หลังเกม "โปเช็ตติโน่ ต้องมองไปยังทีมของเขา และค้นหาว่าใครบ้างที่พร้อมสู้ เกมที่ นิวคาสเซิ่ล ชนะง่ายมาก ก่อนที่ เชลซี จะเหลือสิบคนเสียอีก"

"เชลซี อยู่ห่างจากการจบท็อปโฟร์ ประมาณล้านไมล์เห็นจะได้"

นิวคาสเซิ่ล ดีกว่า เชลซี

ในส่วนของ นิวคาสเซิ่ล แม้แน่นอนอยู่แล้วว่า การรักษาตำแหน่ง "ท็อปโฟร์" เอาไว้เป็นปีที่ 2 คืองานยากระดับเข็นครกขึ้นเขา โดยเฉพาะหลังจากแกว่งๆ ไปในช่วงเริ่มต้นซีซั่น

แต่อย่างไรเสีย เกมนี้ พวกเขาก็แสดงให้เห็นชัดว่า การยกระดับตัวเองขึ้นไปในปีก่อน ไม่ฟลุ้ค และมาตรฐานนั้นก็ยังอยู่ในปีนี้

อาจใช่ที่เกมนี้ เชลซี แพ้เพราะเล่นพลาดเองมากกว่า แต่ก็ชัดเจนอยู่แล้วด้วยสกอร์ที่ถ่างแบบนี้ ว่า นิวคาสเซิ่ล ดีกว่า เชลซี

ต้องไม่ลืมว่านัดนี้ ฮาว ขาดนักเตะไปกี่คน ทั้งเจ็บทั้งแบน แต่ก็ยังผ่าน เชลซี ได้สบายขนาดนี้

ก็พร้อมๆ กับที่ เชลซี คงลุ้นลำบากที่จะกลับสู่หัวตารางปีนี้ ทางฝั่ง นิวคาสเซิ่ล (ตอนนี้ที่ 6) จะได้ลุ้นเต็มตัวและลุ้นกันยาวๆ แน่นอน