สถิติน่าสนใจก่อนเกม พรีเมียร์ลีก 2024/25 : แดงเดือดเลือดจะพล่าน (มั้ยนะ?) แมนยู ปะทะ ลิเวอร์พูล - FEATURE
• แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับมือ ลิเวอร์พูล
• และนี่คือสถิติตัวเลขพร้อมเกร็ดน่าสนใจ ก่อนระเบิดศึกกันที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
"แดงเดือด" ยกแรกของ พรีเมียร์ลีก 2024/25 มาถึงอย่างรวดเร็ว ในเพียงนัดที่ 3 ของฤดูกาล และมาพร้อมภาพของความแตกต่าง เมื่อในขณะที่ผู้มาเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล กำลังมือขึ้น ชนะ 2 นัดแบบไม่เสียประตู ฝั่งเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะดุดแพ้ไปแล้วอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าจับตาอย่างยิ่งว่าผลสกอร์ของเกมใหญ่นัดนี้จะออกหน้าไหน และจะยึดโยงกับสถิติตัวเลขเหล่านี้มากน้อยเพียงใด
• การเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ ลิเวอร์พูล 3 นัดหลังสุดในทุกรายการ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้เลย ชนะได้ถึง 2 นัดและเสมออีก 1 ประกอบด้วยการชนะ 2-1 ต้นซีซั่น 2022/23 และสองเกมของซีซั่นที่แล้ว ซึ่งชนะ 4-3 ในเอฟเอ คัพ และเสมอ 2-2 เกมลีกท้ายซีซั่น
• แมนยู เกือบชนะในเกมลีกท้ายซีซั่นก่อนด้วยซ้ำไป แต่มาเสียจุดโทษตอนท้าย และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงตีเสมอฉกแต้มให้ ลิเวอร์พูล กลับออกไปด้วยผล 2-2
• แต่ถึงแม้สถิติช่วงหลังจะเป็นรอง ลิเวอร์พูล ยุค เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็เคยบุกมาชนะปีศาจแดงด้วยสกอร์ถล่มทลายถึง 5-0 มาแล้วในซีซั่น 2021/22 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แฮตทริก
• การพบกัน 12 ครั้งหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แต่ว่านับรวมทั้งเกมใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และ แอนฟิลด์ ทีมที่ถือไพ่ได้เปรียบคือหงส์แดง จากการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้แค่นัดเดียวเท่านั้นเอง (ก็คือ 2-1 ต้นซีซั่น 2022/23) ที่เหลือเป็นเสมอ 5 แพ้ไปถึง 6
• โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เหมือนจะมี แมนยู เป็น "ของหวาน" เมื่อดาวยิงอียิปต์ลงเผชิญหน้ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด 15 ครั้ง กระหน่ำตาข่ายปีศาจแดงได้ถึง 14 ประตู
• ยกเว้นเกมที่จบด้วยผลเสมอ 0-0 แล้ว ซาลาห์ ลั่นสกอร์ใส่ แมนยู ได้ "ทุกนัด" ในระยะ 4 ปีหลัง หรือทำได้ 13 ประตูจากคิวเตะทั้งหมด 10 เกม
• ซาลาห์ กดแล้ว 2 ประตูจาก 2 นัดแรก ในโอกาสจบทั้งหมด 7 ครั้ง
• ด้านดาวยิง (?!?) ฝั่งผีแดง มาร์คัส แรชฟอร์ด สามารถพังประตู ลิเวอร์พูล ได้ทั้งหมด 7 ลูก (มากกว่านี้มีแค่ เลสเตอร์ ที่เจ้าตัวยิงจิ้งจอกได้ 8 ประตู) แต่ก็จากจำนวนเกมมากถึง 18 นัด
• อย่างไรก็ตาม ซีซั่นนี้ แรชฟอร์ด ยังไม่มีประตู และสำคัญคือ ยังไม่มีโอกาสสับไกยิงแม้แต่ครั้งเดียวด้วยซ้ำ จากระยะเวลา 155 นาทีในสนาม ของเกมที่ชนะ ฟูแล่ม 1-0 และแพ้ ไบรท์ตัน 1-2
• บรูโน่ แฟร์นันเดส มีโอกาสลุ้นสกอร์มากที่สุดของ แมนยู ซีซั่นนี้ ที่จำนวน 7 ครั้ง ซึ่งตรงกรอบ 3 แต่ก็ยังไม่เป็นประตูแต่อย่างใด
• มานูเอล อูการ์เต้ ตัวใหม่ล่าสุดของ แมนยู อยู่ในสภาพพร้อมลงสนาม แต่ก็มีรายงานว่าทีมปีศาจแดงยังลงทะเบียนให้นักเตะเล่นเกมแดงเดือดนัดนี้ไม่ทัน ต้องรอหลังเบรคทีมชาติโน่นถึงจะได้ประเดิมเกมแรก
• เฟเดริโก้ เคียซ่า มีสถิติยิง 32 ประตูให้ ยูเวนตุส ในระยะ 4 ปี ก่อนย้ายสู่ ลิเวอร์พูล ซัมเมอร์นี้
• เคียซ่า เคยลงสนามดวลกับทีมอังกฤษแค่ 2 ครั้ง พบ เชลซี ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021/22 ซึ่งเขาก็เป็นเจ้าของประตูโทน ชนะเชลซี 1-0 ในตูริน (ก่อนแพ้ 0-4 ที่ลอนดอน)
• ซีซั่น 2013/14 ลิเวอร์พูล ยุคของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เริ่มต้นด้วยการชนะ 2 นัดแรกเหมือนซีซั่นนี้เป๊ะๆ (1-0 สโต๊ค ซิตี้, 1-0 แอสตัน วิลล่า) และยังต่อด้วยชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ในวันที่ "1 กันยายน" 2013 ด้วยการซัลโวของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์
• ลิเวอร์พูล สร้างโอกาสจบได้ถึง 37 ครั้งใน 2 เกมแรกของซีซั่นนี้ นับเป็นสถิติสูงที่สุดของลีก และก็ยังไม่เสียประตูด้วย (2-0 อิปสวิช, 2-0 เบรนท์ฟอร์ด)
• อลิสซอน เบ็คเกอร์ ทำไป 2 คลีนชีต โดยเซฟไปทั้งสิ้น 4 ครั้งใน 2 เกมที่ผ่านมา
• อาร์เน่อ สล็อต นายใหญ่คนใหม่ของหงส์ เคยประมือกับ เอริค เทน ฮาก กุนซือผี มาทั้งหมด 4 ครั้งในเอเรดิวิซี่ เนเธอร์แลนด์ ได้ผลเท่าๆ กันคือ ชนะ 2 แพ้ 2 : อาแซด อัล์คมาร์ ของ สล็อต ชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ของ เทน ฮาก 1-0 และ 2-0 จากนั้นต่อมา เฟเยนูร์ด ของ สล็อต แพ้ อาแจ็กซ์ ของ เทน ฮาก 0-2 และ 2-3
• อาร์เน่อ สล็อต มีสิทธิ์เป็นกุนซือ ลิเวอร์พูล คนแรกถัดจาก บ๊อบ เพสลี่ย์ (1975) ที่เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทันทีในการปะทะกันครั้งแรก หลังเข้ารับงานในแอนฟิลด์
• ซีซั่นที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะนัดแรก (1-0 วูล์ฟส์) แล้วแพ้ในเกมที่ 2 (0-2 สเปอร์ส) เช่นเดียวกัน ก่อนที่สุดท้ายจะแพ้ไปถึง 14 นัดตลอดซีซั่น
• 14 เกมดังกล่าว คือจำนวนแพ้สูงสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตลอดประวัติศาสตร์การเล่น พรีเมียร์ลีก หรือมากที่สุดนับตั้งแต่ 1989/90 ที่แพ้ 16 นัด
• เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังกัปตันทีมหงส์แดง จะลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีก ครบ 200 นัดให้ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์นี้ หลังจากที่ผ่านมามีสถิติชนะ 139 จาก 199 นัด สูงสุดเป็นประวัติการณ์
• คู่นี้เพิ่งพบกันในปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา เมื่อ 3 ส.ค. ซึ่ง ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0 ด้วยประตูของ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่, เคอร์ติส โจนส์ และ คอสตาส ซิมิคาส ทั้งที่ตลอดเกม หงส์แดงสร้างโอกาสยิงได้แค่ 9 ครั้ง ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงรวมถึง 18 หน แต่ไม่ได้ประตูเลย
• สกอร์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้าน 0-3 ก็เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นเดียวกันใน พรีเมียร์ลีก 2013/14 (16 มี.ค. 2014) ซึ่งวันนั้น สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมหงส์แดง ยิงคนเดียว 2 ประตู