เส้นทางคดเคี้ยวที่เจอปลายทางของ “ยูนัส มูซาห์” - FEATURE
ฟุตบอลโลก 2022 เริ่มเข้มข้นขึ้นทีละนิด ในขณะที่ทีมชาติอังกฤษเตรียมจะลงเล่นพบกับสหรัฐอเมริกาในเกมที่ “สิงโตคำราม” มีโอกาสที่จะปิดงานในรอบแบ่งกลุ่มกับการเข้ารอบต่อไปทันที หากพวกเขาได้สามคะแนนในเกมนี้ แต่สำหรับอเมริกา การไม่แพ้เป็นอย่างน้อยจะต่ออายุให้กับพวกเขาไปลุ้นต่อในเกมสุดท้าย และแน่นอนเกมนี้จะเป็นเกมพิเศษสำหรับใครหลายคน แต่คงพิเศษสุดสำหรับนักเตะคนหนึ่งที่เคยผ่านเส้นทางทีมชาติมาแล้วกับทั้งสองประเทศเช่นเขาคนนี้
ยูนัส มูซาห์ (19 ปี) ชื่อนี้หลายคนอาจจะต้องใช้เวลาคิดกันสักหน่อย หากคุณไม่ใช่แฟนบอล ลา ลีกา ที่ในวันนี้เด็กหนุ่มคนนี้ลงเล่นกับสโมสร บาเลนเซีย กับเส้นทางฟุตบอลของเขาที่เริ่มต้นในอิตาลี พัฒนาตนเองไปกับฟุตบอลอังกฤษ และเริ่มต้นระดับอาชีพในสเปน ในเวลาเดียวกันเขาก็สามารถเล่นกับทีมชาติได้มากถึง 4 ชาติด้วยกัน ก่อนที่วันนี้เขาจะเป็นกองกลางดาวรุ่งของทีมชาติสหรัฐอเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว
มูซาห์ เกิดในครอบครัวชาวกาน่า ที่มีการระบุว่าครอบครัวของเขามาพักผ่อนในสหรัฐอเมริกา และให้กำเนิดเขาที่ นิวยอร์ค และนั่นทำให้เขามีสัญชาติอเมริกันนับตั้งแต่เป็นต้นมา แต่สุดท้ายเส้นทางของเขาเติบโตขึ้นในประเทศอิตาลี และฟุตบอลอิตาลี กับสโมสร จอร์โจ กัลโช่ คลับ สโมสรระดับเซเรีย ดี (เทียบเท่ากับระดับกึ่งอาชีพ) ก่อนที่ครอบครัวของเขาจะย้ายบ้านมาที่ลอนดอน และกลายเป็นอาร์เซนอลที่เห็นเขาเล่นฟุตบอลกับพี่ชาย และชวนเขามาร่วมทีมเยาวชนของสโมสรด้วยอายุเพียง 9 ปี และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานถึง 8 ปีเต็มจนอังกฤษกลายเป็นบ้านอีกหลังของเขา
“ผมคิดว่าตัวเองเป็นทั้งอังกฤษ และอเมริกันในคนเดียวกัน แน่นอนผมเกิดในครอบครัวชาวกาน่า แต่ผมโตในอังกฤษ มีช่วงเวลาที่ดีมากที่นั่น ผมรักเวลาในช่วงนั้นมากทั้งคนรอบข้าง และสภาพแวดล้อม มันเป็นความทรงจำที่สวยงาม” มูซาห์ กล่าวกับสื่อก่อนเกมที่จะลงเล่นกับ อังกฤษ ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
“ตอนผมย้ายมาในอังกฤษ ผมไปโรงเรียนใหม่ที่นั่น และก็ได้เล่นกับทีมโรงเรียนตอนนั้น และหลังจากนั้นผมก็ได้รับการเข้ามาพูดคุยกับแมวมองของอาร์เซนอล ซึ่งพวกเขาก็คุยกับครอบครัวผม มันมีความสุขมากเลยนะที่จะได้เล่นฟุตบอลไปด้วย ได้เรียนไปด้วย พวกเขาให้ผมไปทดสอบความสามารถกับทีม หลังจากนั้นผมก็ได้เซ็นสัญญา”
“ตอนนั้นผมเด็กมากจนผมไม่รู้ว่าการเซ็นสัญญากับอาร์เซนอลมันยอดเยี่ยมแค่ไหน จนคนในโรงเรียนรู้เรื่องนี้ ทุกคนต่างตื่นเต้นและก็บอกว่า “คนนี้ไงที่เล่นกับอาร์เซนอล” นั่นล่ะผมถึงรู้ว่าผมได้ในสิ่งที่มันยิ่งใหญ่มาก”
เทรเวอร์ บัมสเตด หัวหน้าโค้ชทีมเยาวชนของอาร์เซนอลเป็นหนึ่งในคนแรก ๆ ที่ได้พบกับ มูซาห์ เด็กหนุ่มที่เกิดในอเมริกาผู้นี้ ในยุคที่อาร์เซนอลกับเครือข่ายแมวมองนักเตะเยาวชนขยายฐานเครือข่ายไปทั่วในหลายทวีป ซึ่งก็ไม่ต่างจากสโมสรใหญ่ในยุโรปก็สร้างเครือข่ายไม่ต่างกัน เพื่อมองหา “เพชร” ที่ดูมีโอกาสในการเจียระไนได้ในอนาคต
“ผมรู้จักกับเขามาตั้งแต่ก่อนผมมาทำงานที่อาร์เซนอลด้วยซ้ำ เขามีชื่อเสียงมากในระดับเยาวชน เป็นเด็กที่ร่างกายแข็งแรง เทคนิคก็ดี ตัวใหญ่แต่วิ่งได้เร็ว พอเขาย้ายมาที่อาร์เซนอลเขาก็ตั้งใจฝึกซ้อมในการพัฒนาตัวเองมาก และพัฒนาตัวเองได้เร็วด้วย จนวันหนึ่งทีมไปในเกมบอลถ้วยของทีมระดับเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี เราเล่นกับเชลซี คุณรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น มีแมวมองมากกว่า 20 สโมสรมาเพื่อดูเขาเล่น และมีหลายสโมสรเป็นทีมในยุโรป”
ในเกมรอบชิงชนะเลิศ พรีเมียร์ ลีก เนชั่นแนลคัพ ในปี 2019 ยูนัส มูซาห์ วัย 16 ปี ลงเล่นในสนามเดียวกับหลายคนในทีมที่ต่อมา เราคุ้นเคยกับชื่อของพวกเขาไม่ว่าจะเป็น จามาล มูเซียล่า ที่ตอนนี้คือนักเตะทีมชาติเยอรมัน ของบาเยิร์น มิวนิค, โอมาริ ฮัทชิสัน ที่กำลังสร้างชื่อกับทีมเยาวชนของเชลซีหลังย้ายจากอาร์เซนอลไปร่วมงานในฤดุกาลที่ผ่านมา หรือว่า ชาร์ลี ปาติโน่ อนาคตกองกลางดาวรุ่งดวงใหม่ของทีมปืนใหญ่ เกมนั้นจบลงด้วยชัยชนะของ เชลซี 5-2 แต่ มูซาห์ สร้างผลงานได้ดีในฐานะของกัปตันทีมชุดอายุต่ำกว่า 16 ปี และอาร์เซนอล ยื่นข้อเสนอสัญญาใหม่ให้กับเขา แต่เขาไม่ได้คิดแบบนั้นและเลือกย้ายทีม โดยรับข้อเสนอของบาเลนเซีย และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสเปน
“ผมรู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้วกับการเล่นในระดับที่สูงขึ้น ผมมั่นใจว่าตัวเองสามารถเล่นในระดับทีมชุดใหญ่ได้แล้ว แต่ทำไมผมถึงต้องเล่นในระดับอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือว่า 23 ปีอีกล่ะ ผมคิดแบบนั้น ในขณะที่หลายคนมาบอกกับผมว่ามันยังเร็วเกินไปสำหรับผม ผมเห็นด้วยที่พวกเขาพูด แต่ผมก็ยังมั่นใจว่าผมพร้อมแล้ว และเมื่อบาเลนเซีย ยื่นข้อเสนอเข้ามา พวกเขายื่นโอกาสที่ดีให้กับผม เริ่มต้นจากการที่ผมจะได้ขึ้นมาเล่นกับทีมสำรองของบาเลนเซีย และลงซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของทีม พร้อมกับการันตีว่าจะดันผมสู่ทีมชุดใหญ่ทันที ถ้าผมดีพอ สำหรับผมบาเลนเซีย เป็นทีมใหญ่ในสเปน และผมก็คว้าโอกาสนั้น”
“ฤดูกาลแรกของผมกับทีมเยาวชนไปได้ไม่สวยเท่าไร ผมเล่นไป 17 เกม แต่เป็นสำรองเสียเยอะ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ก็ทำให้ผมแกร่งขึ้น และเก่งขึ้นมาก จนสุดท้ายพอปรีซีซั่นในฤดูกาลต่อมา ผมก็ติดทีมชุดใหญ่ของบาเลนเซีย และผมก็ไม่ได้กลับไปเล่นในทีมชุดสำรองอีกเลย”
ฆาบี กราเซีย เข้ามารับงานคุมทีมบาเลนเซียในฤดูกาล 2020-2021 และเป็นคนหยิบยื่นโอกาสให้กับ มูซาห์ ด้วยวัย 17 ปี 8 เดือน เขาได้ประเดิมสนามในเกมลา ลีกา สเปน และกลายเป็นนักเตะอังกฤษ – อเมริกันคนแรกที่ลงเล่นกับสโมสรแห่งนี้ทันที ก่อนที่อีกสองเดือนต่อมาเขายิงประตูแรกในเกมพบกับ เคตาเฟ่ และกลายเป็นนักเตะต่างชาติที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูให้กับบาเลนเซียอีกด้วย
แน่นอนด้วยโปรไฟล์ที่น่าสนใจเช่นนี้ หลายชาติที่มีมากถึง 4 ชาติที่เขาสามารถเลือกลงเล่นได้ต่างต้องการตัวเขา มูซาห์ เลือกเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษมาตั้งแต่ทีมเยาวชนจนมาถึงชุดอายุต่ำกว่า 18 ปี แน่นอนว่าเขาได้รับการติดตามผลงานมาโดยตลอด ขณะที่ กาน่า ก็อยากได้ตัวเขาไปร่วมงานในฐานะสายเลือดกาน่าที่เกิดในต่างแดน รวมถึง อิตาลี ที่เขาเติบโตขึ้นมาในวัยเด็ก แต่สุดท้าย อเมริกา ประเทศที่เขาลืมตาดูโลก คือปลายทางของเขาในนามทีมชาติ
“ตอนปี 2020 ผมได้รับการติดต่อจากทีมชาติสหรัฐอเมริกา เกร็ก เบอฮัลเตอร์ ผู้จัดการทีมชาติอเมริกาโทรหาผมโดยตรง และเขาพูดคุยกับผมในเรื่องของแผนงานที่เขามองเห็นผมอยู่ในนั้น เขาชัดเจนว่าเขาต้องการตัวผมอย่างมาก ตอนนั้นผมอายุ 17 ปี มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ เพราะผมเพิ่งเล่นทีมชุดใหญ่ของบาเลนเซีย ไปไม่เท่าไรเอง แต่สุดท้ายผมก็เลือกเล่นกับอเมริกา และผมรักช่วงเวลาในการเล่นทีมชาติ รู้สึกได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม”
การตัดสินใจของเขาเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับทีมชาติอังกฤษทันที เพราะพวกเขาก็สนใจในตัวของ มูซาห์ และมองเห็นถึงพัฒนาการของผู้เล่น อย่างไรก็ตามเมื่อผู้เล่นเลือกแล้วที่จะลงเล่นกับทีมชาติอื่น พวกเขาก็ได้แต่เพียงยอมรับการตัดสินใจ เหมือนอย่างที่พวกเขาเห็น จามาล มูเซียล่า ลงเล่นกับทีมชาติเยอรมัน ทั้งที่สมัยเป็นเด็กเยาวชนเขาผ่านการเล่นในอังกฤษมานานนับ 10 ปี รวมถึงผ่านการลงเล่นทีมชาติชุดเล็กมาแล้วทุกชุด
ชีวิตของเราทุกวันเต็มไปด้วยการตัดสินใจน้อยใหญ่มากมาย บางครั้งการตัดสินใจส่งผลต่อเรื่องหลังจากนั้นมากมาย มูซาห์ เลือกออกจากอังกฤษ เพื่อมองหาโอกาสในสเปนที่แน่นอนว่าเขาคงพูดได้ว่าเขาเลือกได้ถูกต้อง เพราะตอนนี้เขาเป็นตัวหลักของบาเลนเซียที่กำลังจะลงเล่นครบ 100 เกมในอีกไม่ช้านี้ ทั้งที่อายุยังไม่ถึง 20 ปี หรือเขาอาจจะไม่มีโอกาสในฟุตบอลโลก2022 รอบสุดท้ายเลย ถ้าเขายังคงเล่นในอังกฤษ เพื่อรอโอกาสในการขึ้นทีมชุดใหญ่ต่อไปที่อาร์เซนอล
“ตอนผมตัดสินใจเลือกย้ายมาบาเลนเซีย และเลือกเล่นกับอเมริกา ผมบอกตัวเองว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้อเกิด ผมแค่คิดว่าสิ่งที่ผมเลือกมันดีที่สุดสำหรับผมในตอนนั้นแล้ว ถ้าทุกอย่างจะผิดพลาด จะล้มเหลว ผมจะพูดได้ว่าผมได้เลือกแล้วด้วยตนเอง ทุกอย่างมีเหตุผลในตัวของมัน”
“ผมจะไม่เสียใจเลยเพราะผมได้เลือกเอง”
ทุกสิ่งที่เหตุและผลของมัน การตัดสินใจก็เช่นเดียวกัน ขอแสดงความยินดีกับเขาด้วยที่การตัดสินใจของเขา ยังคงส่งผลดีกับเส้นทางอาชีพของเขาที่มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นในวัยเพียง 19 ปี