"พี่ไม่ได้มาเล่นๆ" : ผู้บริหารลีก ซาอุฯ การันตีความยั่งยืน พร้อมเผยแผนคว้า โม ซาลาห์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา - FEATURE

Saudi Arabia v Mexico: Group C - FIFA World Cup Qatar 2022
Saudi Arabia v Mexico: Group C - FIFA World Cup Qatar 2022 / Doug Zimmerman/ISI Photos/GettyImages
facebooktwitterreddit

ภายหลังจุดพลุเรียกแขกด้วยดีล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เมื่อต้นปี มาซัมเมอร์นี้ ทีมใน โปรลีก ซาอุดีอาระเบีย กำลังฟาดงวงฟาดงาใส่ฟุตบอลยุโรปเป็นการใหญ่ เช่นแชมป์เก่า อัล-อิตติฮัด ที่ได้ไปแล้วทั้ง คาริม เบนเซม่า กับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และยังมีอีกมากรายที่เป็นเป้าหมาย

ยังมีแข้ง เชลซี อีกครึ่งค่อนทีม, นักเตะค่ายอื่นของ พรีเมียร์ลีก จนถึงบรรดาซูเปอร์สตาร์ภาคพื้นยุโรปอีกนับสิบๆ ที่ถูกเชื่อมโยงกับการมาที่นี่ -- ถ้าไม่ใช่ว่าเซ็นไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ยืนยันจากปากผู้บริหารลีกแดนเศรษฐีน้ำมัน ว่า "พี่ไม่ได้มาเล่นๆ นะน้องนะ" นอกจากความยั่งยืนมั่นคงในระยะยาวแล้ว ก็ยังมีซุปตาร์อีกหลายรายที่เป็นเป้าหมาย ระบุชื่อให้เห็นกันไปเลยก็ โม ซาลาห์ กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา...

โปรลีก พอสังเขป

เดินเครื่องกันมาอย่างเงียบๆ ด้วยชื่อเต็ม Saudi Professional League หรือชื่อพ่วงสปอนเซอร์ Roshn Saudi League (ที่มาของโลโก้ RSL) ซึ่งซีซั่น 2023/24 ที่ยังคงไม่ถึงเวลาเปิดสาดแข้ง นับเป็นปีที่ 48 ของลีกซาอุฯ แล้ว หรือตั้งแต่ที่มีแข่งขันกันมาเริ่มในปี 1976

โปรลีก 2023/24 จะเริ่มต้นซีซั่นใหม่กันในวันที่ 11 ส.ค. หรือวันเดียวกับ พรีเมียร์ลีก ก่อนลากยาวไปจบกลางปีหน้าเช่นเดียวกัน

ความเปลี่ยนแปลงจากซีซั่นก่อน มีอยู่ที่การ "เพิ่มจำนวนทีม" ขยายขนาดลีกจาก 16 เป็น 18 สโมสร นั่นคือมีทีมน้องใหม่ได้เลื่อนชั้นขึ้นถึง 4 รายทีเดียว -- อัล-อาห์ลี, อัล-ฮาเซ็ม, อัล-โอ๊คดูด และ อัล-ริยาดห์

สำหรับ อัล-อิตติฮัด (ที่เพิ่งได้ ก็องเต้ ไปสมทบ เบนเซม่า) อยู่ในฐานะของ "แชมป์เก่า" ที่เข้าเส้นชัยเอาชนะ อัล-นาสเซอร์ ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ 5 คะแนนในซีซั่นก่อน

ตอนจบหัวแถว โปรลีก 2022/23


อันดับ

แต้ม

1. อัล-อิตติฮัด

72

2. อัล-นาสเซอร์

67

3. อัล-ฮิลาล

59

4. อัล-ชาบับ

56

5. อัล-ทาวูน

55

ในส่วนของ โรนัลโด้ แม้ผลงานส่วนตัวจะออกมาดีเลย แต่ก็เหมือนจะมายัง อัล-นาสเซอร์ ช้าไปนิดเดียว (ครึ่งปีหลัง) เมื่อการซัด 14 ประตูจาก 16 เกมลีก ไม่เพียงพอให้ทีมของเขาแซงหน้า อัล-อิตติฮัด ของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ขึ้นไปได้

แชมป์ล่าสุดนับเป็นสมัยที่ 9 ของ อัล-อิตติฮัด เทียบเท่ากับ อัล-นาสเซอร์

แต่ที่เป็นเต้ยของลีกนี้ ที่จริงแล้วคือ อัล-ฮิลาล ที่ครองแชมป์สูงสุดถึง 18 สมัย และก่อนหน้านี้ก็ครองบัลลังก์มาถึง 5 จาก 6 ซีซั่นหลังด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ โปรลีก ซาอุฯ มีพื้นที่บนหน้าสื่อโลกฟุตบอลในทุกวันและวันละหลายรอบ ก็แน่นอนว่าเป็นเพราะ "อำนาจเงิน" ที่แต่ละสโมสรมี โดยเฉพาะกลุ่มบิ๊กโฟร์ที่อยู่ใต้อาณัติของ PIF - Public Investment Fund (กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุฯ) ทั้ง อัล-อิตติฮัด, อัล-นาสเซอร์, อัล-ฮิลาล และ อัล-อาห์ลี

ว่ากันว่า PIF เตรียมเงินทุนไว้ให้ทีมเหล่านี้ได้จับจ่ายใช้สอยถึงปีละ 1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ทีเดียว

แต่หากจะถามว่า การมี "เจ้าของเดียวกัน" ถึง 4 สโมสร จะกลายเป็นปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะการ "ฮั้วกัน" หรือไม่อย่างไร... ณ ตอนนี้ยังไม่มี และก็คงต้องจับตากันต่อไปยาวๆ

Cristiano Ronaldo
Al Ittihad v Al Nassr - Saudi Pro League / Khalid Alhaj/MB Media/GettyImages

ใครมาแล้ว และกำลังจะมาบ้าง

สิ่งหนึ่งที่คนคงไม่รู้ และสื่อเองก็อาจไม่รู้ คือแม้ว่าแต่ละสโมสรจะมีอิสระเต็มที่ในการทุ่มเงินซื้อนักเตะจากทั่วโลก ถ้าจ่ายไหวอยากได้ใครเชิญ แต่โควตาการลงทะเบียน "นักเตะต่างชาติ" ได้ 8 คนเท่านั้น ต่อให้ทีมคุณจะมีต่างชาติอยู่เกินสิบ แต่ก็จะสามารถใช้งานได้จริงๆ แค่ 8 คนที่ผ่านการลงทะเบียน

นี่คือดาวดังที่แต่ละทีมได้ตัวไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งก่อนหน้านี้และไม่นานนี้

  • อาบา : ฟิลิเป้ ไคเซโด้

    อัล-อาห์ลี : ริยาด บูเดอบูซ, บาสโตส, โมดู บาร์โรว์, เอซยาน อลิออสกี้, เอดูอาร์ เมนดี้

    อัล-เอตติฟัค : โรบิน ไควซอน

    อัล-ฟาเตห์ : คริสเตียน เตโย่

    อัล-เฟย์ฮา : วลาดิเมียร์ สตอยโควิช

    อัล-ฮาเซ็ม : อายเมน ดาห์เมน

    อัล-ฮิลาล : มาเตอุส เปเรยร่า, มุสซ่า มาเรก้า, อันเดร การ์ริโย่, รูเบน เนเวส, คาลิดู คูลิบาลี่

    อัล-อิตติฮัด : อาห์เหม็ด เฮกาซี่, อับเดอร์ราซัค ฮัมดัลลา, คาริม เบนเซม่า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้

    อัล-คาลีจ : ไม่มีตัวดัง (แต่ต่างชาติ 8 คนเต็มโควตา)

    อัล-นาสเซอร์ : คริสเตียโน่ โรนัลโด้, อันแดร์ซอน ทาลิสก้า, ดาวิด ออสปิน่า, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, ฮาคิม ซีเย็ค

    อัล-โอ๊คดูด : ต่างชาติแค่ 2 คน

    อัล-ราเอ็ด : ต่างชาติ 6 คน

    อัล-ริยาดห์ : ต่างชาติแค่ 2 คน

    อัล-ชาบับ : เอแวร์ บาเนก้า, คิม ซุง-กิว

    อัล-ทาวูน : นัลโด้, อัลบาโร่ เมดราน

    อัล-ไท : โรเบิร์ต เบาเออร์

    อัล-เวห์ด้า : ออสการ์ ดูอาร์เต้

    ดามัก : อดัม มาเฮอร์

หมายเหตุ : อดีตหัวหอก แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง โอเดี้ยน อิกาโล่ หมดสัญญาและแยกทางกับ อัล-ฮิลาล เรียบร้อย แม้ซีซั่นก่อนจะกดไปถึง 26 ประตูก็ตาม

ส่วนด้านล่างนี้ คือบรรดาพ่อค้าแข้งตัวท็อป "่ส่วนหนึ่ง" ที่มีข่าวเชื่อมโยง มีความเป็นไปได้ที่จะตามมาสมทบจนกว่าตลาดนักเตะลีกซาอุฯ จะปิดลง 20 ก.ย.

  • ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง (อัล-อาห์ลี, อัล-ชาบับ)

    คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย

    โรเมลู ลูกากู (อัล-ฮิลาล)

    ซน ฮึง-มิน (อัล-อิตติฮัด)

    อูโก้ โยริส

    โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (อัล-เอตติฟัค)

    ซาดิโอ มาเน่ (อัล-เอตติฟัค)

    ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (อัล-เอตติฟัค)

    วิลฟรีด ซาฮา (อัล-นาสเซอร์)

    ลูก้า โมดริช (อัล-ฮิลาล)

    แบร์นาร์โด้ ซิลวา (อัล-ฮิลาล)

    ริยาด มาห์เรซ (อัล-อาห์ลี)

    ซาอูล ญีเกซ (อัล-นาสเซอร์)

    มาร์เซโล่ โบรโซวิช (อัล-นาสเซอร์)

    เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (อัล-นาสเซอร์, อัล-ฮิลาล)

    เนย์มาร์ (อัล-ฮิลาล)

    ดาบิด เด เคอา (อัล-ฮิลาล)

สำหรับนักเตะ เชลซี จะเห็นว่าตบเท้าพาเหรดมาที่นี่กันเพียบ ทั้งเซ็นแล้วและจ่อจะมา นั่นก็เพราะสายสัมพันธ์ของ ท็อดด์ โบห์ลี่ / กลุ่มทุน เคลียร์เลค แคปปิตอล เจ้าของทีมตราสิงห์ กับทางฝั่ง PIF -- เคลียร์เลค เป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้การดูแลทรัพย์สินของนักลงทุนมากกว่า 300 กลุ่มทั่วโลก อันรวมถึง PIF หรือพูดง่ายๆ ก็คือ PIF เป็นหนึ่งในลูกค้าของ เคลียร์เลค นั่นเอง

Saudi Arabian team Al-Ittihad transfers Kante
Saudi Arabian team Al-Ittihad transfers Kante / Anadolu Agency/GettyImages

ตัวอย่างจาก ไชนีส ซูเปอร์ลีก

เพราะในตอนที่บูมๆ ก็รุกรานฟุตบอลยุโรปไม่แพ้ ซาอุฯ นั่นคือ ซูเปอร์ลีก แดนมังกรจีน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ซ่องสุมซูเปอร์สตาร์ -- ฮัล์ค, ออสการ์, รามิเรส, มารูยาน เฟลไลนี่, คาร์ลอส เตเวซ, มาเร็ค ฮัมซิค, เปาลินโญ่, มาร์โก อาร์เนาโตวิช, ยานนิค การ์ราสโก้, อักเซล วิตเซล, แชร์วินโญ่, แจ๊คสัน มาร์ติเนซ ฯลฯ และ ฯลฯ

จุดเริ่มต้นคือนโยบายของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ต้องการผลักดันให้ "ฟุตบอลจีน" เติบโตขึ้นไปอยู่แถวหน้าของเอเชีย และมองเห็นว่าการสร้างลีกให้แข็งแกร่งคือคำตอบ (พร้อมกับเตรียมบิดเจ้าภาพบอลโลกต่อไป)

นโยบายนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบรรดาสโมสรต่างๆ ที่มีภาคเอกชน (รวยสนั่น) คอยหนุนหลังอยู่ บวกกับการผลักดันของภาครัฐที่สนับสนุนเงินในด้านต่างๆ เช่นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เม็ดเงินจึงถูกหว่านอย่างสะพัด และเป็นที่มาทำให้ ซูเปอร์ลีก บูมขึ้นในช่วงระยะหนึ่ง

ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป พัฒนาการเริ่มออกทรงตีบตัน ทั้งในแง่ฟุตบอลและการเงิน รัฐบาลจีนจึงตัดสินใจล้มเลิกนโยบายผลักดันฟุตบอล มีการออกกฎหมายใหม่ รีดภาษีดีลซื้อแข้งต่างชาติ (ราคาเกิน 5 ล้านปอนด์) 100% และยังห้ามสโมสรใช้ชื่อสปอนเซอร์ต่อท้ายชื่อทีม ยิ่งมาบวกกับเรื่องไวรัสวายร้าย โควิด-19 ก็ยิ่งเป็นเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ทิ้งบอมบ์เข้าใส่อย่างจัง ทำให้เป็น "ตอนจบ" ของทุกอย่าง

แม้แข้งต่างชาติจะยังพอเหลือ ออสการ์ หรือ เฟลไลนี่ แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจให้ความสำคัญกับ ไชนีส ซูเปอร์ลีก อีกต่อไป

FBL-CHN-ASIA-HEALTH-VIRUS
FBL-CHN-ASIA-HEALTH-VIRUS / STR/GettyImages

"พี่ไม่ได้มาเล่นๆ"

ประกาศเสียงดังฟังชัด ลีกซาอุฯ ไม่ได้มาเล่นๆ และมั่นใจจะไม่ลงเอยแบบ ซูเปอร์ลีก จีน อย่างแน่นอน

ฮาเฟซ อัล-เมดเลจ์ หัวหน้าคณะกรรมการฝ่ายการตลาด สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงแห่ง โปรลีก ซาอุฯ ยืนยันหนักแน่นว่าพวกเขากำลังพยายามสร้างลีกที่แข็งแกร่งอย่างจริงจังขึ้น จึงมีการนำเข้านักเตะจากลีกยุโรปนับสิบราย รวมทั้งมีแผนคว้าซูเปอร์สตาร์อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของ ลิเวอร์พูล กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย

อัล-เมดเลจ์ ชี้ชัดว่า โปรลีก ไม่ได้พยายามเดินตามรอย ซูเปอร์ลีก จีน แต่มีแผนการยั่งยืนกว่านั้น

"ณ ตอนนี้ มันยังเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น" อัล-เมดเลจ์ เผยกับ คูร่า สื่อตะวันออกกลาง “นักฟุตบอลที่สามารถย้ายทีมได้ทั้งหมดจากนี้ไป จะตกเป็นเป้าหมายของสโมสรในซาอุดีอาระเบีย!"

“ประสบการณ์ของจีนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรา พวกเขาทำเพื่อการตลาดเท่านั้น ฟุตบอลไม่ได้เป็นที่นิยมสูงสุดที่นั่น แต่กับเรา เรามีโครงการของรัฐที่ชัดเจน และจะไม่จำกัดเพียง 4 ทีมที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่รวมถึงทุกทีมด้วย เพราะความหลงใหลในฟุตบอลของชาวซาอุดินั้น ไม่มีขีดจำกัด"

“เราไม่มีวันจ้างงานนักเตะที่หมดอายุการค้าแข้งไปแล้ว อัล-ฮิลาล กำลังจะเซ็นสัญญากับ รูเบน เนเวส ซึ่งอายุแค่ 26 และเป็นเป้าหมายที่ บาร์เซโลน่า ต้องการ ส่วนทาง คาริม เบนเซม่า ก็ได้มาถึง อัล-อิตติฮัด แล้ว หลังจากที่ได้รางวัล บัลลง ดอร์ กับ เรอัล มาดริด ซึ่งต้องเผชิญกับความยากลำบากทีเดียวในการค้นหาตัวแทนของเขา"

ส่วนกับกระแสต่อต้านจากฝั่งยุโรป ที่มองเห็นว่าการที่ ซาอุฯ รุกรานไปคว้าตัวนักเตะของพวกเขานับสิบราย เป็นเรื่องไม่เหมาะไม่ควรนั้น อัล-เมดเลจ์ กล่าวว่า “แชมเปี้ยนส์ ลีก ของยุโรป คืออัญมณียอดมงกุฎของการแข่งขันฟุตบอลทั้งหมดในยุโรป และทัวร์นาเมนต์นี้ขึ้นอยู่กับสององค์ประกอบ อย่างแรกคือสโมสร ซึ่งเป็นองค์กรขนาดมหึมา และอย่างที่สองก็คือ นักเตะ"

“การจากออกมาของบรรดาสตาร์ดังจากยุโรป จะเป็นงานหนักสำหรับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ทัวร์นาเมนต์จะสูญเสียความเจิดจรัสไปมาก เราเห็นตัวอย่างใน ลา ลีกา พวกเขาสูญเสียไปมากกับการที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายไปยัง ยูเวนตุส แถมยังหนักหนามากขึ้นอีกเมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ ไปยัง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง"

“การจากไปของดาราดังจากยุโรป จะส่งผลต่อสัญญาสปอนเซอร์และสัญญาการถ่ายทอดสด เมสซี่ เป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในตอนนี้ และการได้เขามาจะเป็นการเสริมคุณค่าที่ยอดเยี่ยมมากๆ เพียงแต่เราก็คงจะไม่ยอมแลกทุกสิ่งเพื่อให้ได้เขา"

ทิ้งท้ายด้วยประเด็นของ 2 ซูเปอร์สตาร์จาก 2 ค่าย อย่าง ซิลวา และ ซาลาห์ ผู้บริหารโปรลีก ระบุด้วยความมั่นใจว่า นี่คือเป้าหมายที่สามารถเป็นไปได้จริงของ ซาอุฯ

“มาหวังกันเถอะว่า แบร์นาร์โด้ ซิลวา จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมาที่นี่ และเราต้องเริ่มทำงานกันเพื่อจะเซ็นสัญญากับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เนื่องจากเขาได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นในโลกอาหรับและในยุโรป"

"ผมคิดว่า ซาลาห์ ยังคงมีสถิติที่ต้องการจะทำลายกับทาง ลิเวอร์พูล ดังนั้นผมหวังว่าหากเขายังไม่มาตอนนี้ ก็จะมาในอนาคต"

Bernardo Silva, Mohamed Salah
Manchester City v Liverpool - Premier League / Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages