"พี่ไม่ได้มาเล่นๆ" : ผู้บริหารลีก ซาอุฯ การันตีความยั่งยืน พร้อมเผยแผนคว้า โม ซาลาห์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา - FEATURE
ภายหลังจุดพลุเรียกแขกด้วยดีล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เมื่อต้นปี มาซัมเมอร์นี้ ทีมใน โปรลีก ซาอุดีอาระเบีย กำลังฟาดงวงฟาดงาใส่ฟุตบอลยุโรปเป็นการใหญ่ เช่นแชมป์เก่า อัล-อิตติฮัด ที่ได้ไปแล้วทั้ง คาริม เบนเซม่า กับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และยังมีอีกมากรายที่เป็นเป้าหมาย
ยังมีแข้ง เชลซี อีกครึ่งค่อนทีม, นักเตะค่ายอื่นของ พรีเมียร์ลีก จนถึงบรรดาซูเปอร์สตาร์ภาคพื้นยุโรปอีกนับสิบๆ ที่ถูกเชื่อมโยงกับการมาที่นี่ -- ถ้าไม่ใช่ว่าเซ็นไปเรียบร้อยแล้ว
แต่ยืนยันจากปากผู้บริหารลีกแดนเศรษฐีน้ำมัน ว่า "พี่ไม่ได้มาเล่นๆ นะน้องนะ" นอกจากความยั่งยืนมั่นคงในระยะยาวแล้ว ก็ยังมีซุปตาร์อีกหลายรายที่เป็นเป้าหมาย ระบุชื่อให้เห็นกันไปเลยก็ โม ซาลาห์ กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา...
โปรลีก พอสังเขป
เดินเครื่องกันมาอย่างเงียบๆ ด้วยชื่อเต็ม Saudi Professional League หรือชื่อพ่วงสปอนเซอร์ Roshn Saudi League (ที่มาของโลโก้ RSL) ซึ่งซีซั่น 2023/24 ที่ยังคงไม่ถึงเวลาเปิดสาดแข้ง นับเป็นปีที่ 48 ของลีกซาอุฯ แล้ว หรือตั้งแต่ที่มีแข่งขันกันมาเริ่มในปี 1976
โปรลีก 2023/24 จะเริ่มต้นซีซั่นใหม่กันในวันที่ 11 ส.ค. หรือวันเดียวกับ พรีเมียร์ลีก ก่อนลากยาวไปจบกลางปีหน้าเช่นเดียวกัน
ความเปลี่ยนแปลงจากซีซั่นก่อน มีอยู่ที่การ "เพิ่มจำนวนทีม" ขยายขนาดลีกจาก 16 เป็น 18 สโมสร นั่นคือมีทีมน้องใหม่ได้เลื่อนชั้นขึ้นถึง 4 รายทีเดียว -- อัล-อาห์ลี, อัล-ฮาเซ็ม, อัล-โอ๊คดูด และ อัล-ริยาดห์
สำหรับ อัล-อิตติฮัด (ที่เพิ่งได้ ก็องเต้ ไปสมทบ เบนเซม่า) อยู่ในฐานะของ "แชมป์เก่า" ที่เข้าเส้นชัยเอาชนะ อัล-นาสเซอร์ ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ 5 คะแนนในซีซั่นก่อน
ตอนจบหัวแถว โปรลีก 2022/23
อันดับ | แต้ม |
---|---|
1. อัล-อิตติฮัด | 72 |
2. อัล-นาสเซอร์ | 67 |
3. อัล-ฮิลาล | 59 |
4. อัล-ชาบับ | 56 |
5. อัล-ทาวูน | 55 |
ในส่วนของ โรนัลโด้ แม้ผลงานส่วนตัวจะออกมาดีเลย แต่ก็เหมือนจะมายัง อัล-นาสเซอร์ ช้าไปนิดเดียว (ครึ่งปีหลัง) เมื่อการซัด 14 ประตูจาก 16 เกมลีก ไม่เพียงพอให้ทีมของเขาแซงหน้า อัล-อิตติฮัด ของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ขึ้นไปได้
แชมป์ล่าสุดนับเป็นสมัยที่ 9 ของ อัล-อิตติฮัด เทียบเท่ากับ อัล-นาสเซอร์
แต่ที่เป็นเต้ยของลีกนี้ ที่จริงแล้วคือ อัล-ฮิลาล ที่ครองแชมป์สูงสุดถึง 18 สมัย และก่อนหน้านี้ก็ครองบัลลังก์มาถึง 5 จาก 6 ซีซั่นหลังด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ โปรลีก ซาอุฯ มีพื้นที่บนหน้าสื่อโลกฟุตบอลในทุกวันและวันละหลายรอบ ก็แน่นอนว่าเป็นเพราะ "อำนาจเงิน" ที่แต่ละสโมสรมี โดยเฉพาะกลุ่มบิ๊กโฟร์ที่อยู่ใต้อาณัติของ PIF - Public Investment Fund (กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุฯ) ทั้ง อัล-อิตติฮัด, อัล-นาสเซอร์, อัล-ฮิลาล และ อัล-อาห์ลี
ว่ากันว่า PIF เตรียมเงินทุนไว้ให้ทีมเหล่านี้ได้จับจ่ายใช้สอยถึงปีละ 1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ทีเดียว
แต่หากจะถามว่า การมี "เจ้าของเดียวกัน" ถึง 4 สโมสร จะกลายเป็นปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะการ "ฮั้วกัน" หรือไม่อย่างไร... ณ ตอนนี้ยังไม่มี และก็คงต้องจับตากันต่อไปยาวๆ
ใครมาแล้ว และกำลังจะมาบ้าง
สิ่งหนึ่งที่คนคงไม่รู้ และสื่อเองก็อาจไม่รู้ คือแม้ว่าแต่ละสโมสรจะมีอิสระเต็มที่ในการทุ่มเงินซื้อนักเตะจากทั่วโลก ถ้าจ่ายไหวอยากได้ใครเชิญ แต่โควตาการลงทะเบียน "นักเตะต่างชาติ" ได้ 8 คนเท่านั้น ต่อให้ทีมคุณจะมีต่างชาติอยู่เกินสิบ แต่ก็จะสามารถใช้งานได้จริงๆ แค่ 8 คนที่ผ่านการลงทะเบียน
นี่คือดาวดังที่แต่ละทีมได้ตัวไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งก่อนหน้านี้และไม่นานนี้
- อาบา : ฟิลิเป้ ไคเซโด้
อัล-อาห์ลี : ริยาด บูเดอบูซ, บาสโตส, โมดู บาร์โรว์, เอซยาน อลิออสกี้, เอดูอาร์ เมนดี้
อัล-เอตติฟัค : โรบิน ไควซอน
อัล-ฟาเตห์ : คริสเตียน เตโย่
อัล-เฟย์ฮา : วลาดิเมียร์ สตอยโควิช
อัล-ฮาเซ็ม : อายเมน ดาห์เมน
อัล-ฮิลาล : มาเตอุส เปเรยร่า, มุสซ่า มาเรก้า, อันเดร การ์ริโย่, รูเบน เนเวส, คาลิดู คูลิบาลี่
อัล-อิตติฮัด : อาห์เหม็ด เฮกาซี่, อับเดอร์ราซัค ฮัมดัลลา, คาริม เบนเซม่า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้
อัล-คาลีจ : ไม่มีตัวดัง (แต่ต่างชาติ 8 คนเต็มโควตา)
อัล-นาสเซอร์ : คริสเตียโน่ โรนัลโด้, อันแดร์ซอน ทาลิสก้า, ดาวิด ออสปิน่า, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, ฮาคิม ซีเย็ค
อัล-โอ๊คดูด : ต่างชาติแค่ 2 คน
อัล-ราเอ็ด : ต่างชาติ 6 คน
อัล-ริยาดห์ : ต่างชาติแค่ 2 คน
อัล-ชาบับ : เอแวร์ บาเนก้า, คิม ซุง-กิว
อัล-ทาวูน : นัลโด้, อัลบาโร่ เมดราน
อัล-ไท : โรเบิร์ต เบาเออร์
อัล-เวห์ด้า : ออสการ์ ดูอาร์เต้
ดามัก : อดัม มาเฮอร์
หมายเหตุ : อดีตหัวหอก แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง โอเดี้ยน อิกาโล่ หมดสัญญาและแยกทางกับ อัล-ฮิลาล เรียบร้อย แม้ซีซั่นก่อนจะกดไปถึง 26 ประตูก็ตาม
ส่วนด้านล่างนี้ คือบรรดาพ่อค้าแข้งตัวท็อป "่ส่วนหนึ่ง" ที่มีข่าวเชื่อมโยง มีความเป็นไปได้ที่จะตามมาสมทบจนกว่าตลาดนักเตะลีกซาอุฯ จะปิดลง 20 ก.ย.
- ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง (อัล-อาห์ลี, อัล-ชาบับ)
คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย
โรเมลู ลูกากู (อัล-ฮิลาล)
ซน ฮึง-มิน (อัล-อิตติฮัด)
อูโก้ โยริส
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (อัล-เอตติฟัค)
ซาดิโอ มาเน่ (อัล-เอตติฟัค)
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (อัล-เอตติฟัค)
วิลฟรีด ซาฮา (อัล-นาสเซอร์)
ลูก้า โมดริช (อัล-ฮิลาล)
แบร์นาร์โด้ ซิลวา (อัล-ฮิลาล)
ริยาด มาห์เรซ (อัล-อาห์ลี)
ซาอูล ญีเกซ (อัล-นาสเซอร์)
มาร์เซโล่ โบรโซวิช (อัล-นาสเซอร์)
เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (อัล-นาสเซอร์, อัล-ฮิลาล)
เนย์มาร์ (อัล-ฮิลาล)
ดาบิด เด เคอา (อัล-ฮิลาล)
สำหรับนักเตะ เชลซี จะเห็นว่าตบเท้าพาเหรดมาที่นี่กันเพียบ ทั้งเซ็นแล้วและจ่อจะมา นั่นก็เพราะสายสัมพันธ์ของ ท็อดด์ โบห์ลี่ / กลุ่มทุน เคลียร์เลค แคปปิตอล เจ้าของทีมตราสิงห์ กับทางฝั่ง PIF -- เคลียร์เลค เป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้การดูแลทรัพย์สินของนักลงทุนมากกว่า 300 กลุ่มทั่วโลก อันรวมถึง PIF หรือพูดง่ายๆ ก็คือ PIF เป็นหนึ่งในลูกค้าของ เคลียร์เลค นั่นเอง
ตัวอย่างจาก ไชนีส ซูเปอร์ลีก
เพราะในตอนที่บูมๆ ก็รุกรานฟุตบอลยุโรปไม่แพ้ ซาอุฯ นั่นคือ ซูเปอร์ลีก แดนมังกรจีน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ซ่องสุมซูเปอร์สตาร์ -- ฮัล์ค, ออสการ์, รามิเรส, มารูยาน เฟลไลนี่, คาร์ลอส เตเวซ, มาเร็ค ฮัมซิค, เปาลินโญ่, มาร์โก อาร์เนาโตวิช, ยานนิค การ์ราสโก้, อักเซล วิตเซล, แชร์วินโญ่, แจ๊คสัน มาร์ติเนซ ฯลฯ และ ฯลฯ
จุดเริ่มต้นคือนโยบายของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ต้องการผลักดันให้ "ฟุตบอลจีน" เติบโตขึ้นไปอยู่แถวหน้าของเอเชีย และมองเห็นว่าการสร้างลีกให้แข็งแกร่งคือคำตอบ (พร้อมกับเตรียมบิดเจ้าภาพบอลโลกต่อไป)
นโยบายนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบรรดาสโมสรต่างๆ ที่มีภาคเอกชน (รวยสนั่น) คอยหนุนหลังอยู่ บวกกับการผลักดันของภาครัฐที่สนับสนุนเงินในด้านต่างๆ เช่นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เม็ดเงินจึงถูกหว่านอย่างสะพัด และเป็นที่มาทำให้ ซูเปอร์ลีก บูมขึ้นในช่วงระยะหนึ่ง
ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป พัฒนาการเริ่มออกทรงตีบตัน ทั้งในแง่ฟุตบอลและการเงิน รัฐบาลจีนจึงตัดสินใจล้มเลิกนโยบายผลักดันฟุตบอล มีการออกกฎหมายใหม่ รีดภาษีดีลซื้อแข้งต่างชาติ (ราคาเกิน 5 ล้านปอนด์) 100% และยังห้ามสโมสรใช้ชื่อสปอนเซอร์ต่อท้ายชื่อทีม ยิ่งมาบวกกับเรื่องไวรัสวายร้าย โควิด-19 ก็ยิ่งเป็นเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ทิ้งบอมบ์เข้าใส่อย่างจัง ทำให้เป็น "ตอนจบ" ของทุกอย่าง
แม้แข้งต่างชาติจะยังพอเหลือ ออสการ์ หรือ เฟลไลนี่ แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจให้ความสำคัญกับ ไชนีส ซูเปอร์ลีก อีกต่อไป
"พี่ไม่ได้มาเล่นๆ"
ประกาศเสียงดังฟังชัด ลีกซาอุฯ ไม่ได้มาเล่นๆ และมั่นใจจะไม่ลงเอยแบบ ซูเปอร์ลีก จีน อย่างแน่นอน
ฮาเฟซ อัล-เมดเลจ์ หัวหน้าคณะกรรมการฝ่ายการตลาด สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงแห่ง โปรลีก ซาอุฯ ยืนยันหนักแน่นว่าพวกเขากำลังพยายามสร้างลีกที่แข็งแกร่งอย่างจริงจังขึ้น จึงมีการนำเข้านักเตะจากลีกยุโรปนับสิบราย รวมทั้งมีแผนคว้าซูเปอร์สตาร์อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของ ลิเวอร์พูล กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย
อัล-เมดเลจ์ ชี้ชัดว่า โปรลีก ไม่ได้พยายามเดินตามรอย ซูเปอร์ลีก จีน แต่มีแผนการยั่งยืนกว่านั้น
"ณ ตอนนี้ มันยังเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น" อัล-เมดเลจ์ เผยกับ คูร่า สื่อตะวันออกกลาง “นักฟุตบอลที่สามารถย้ายทีมได้ทั้งหมดจากนี้ไป จะตกเป็นเป้าหมายของสโมสรในซาอุดีอาระเบีย!"
“ประสบการณ์ของจีนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรา พวกเขาทำเพื่อการตลาดเท่านั้น ฟุตบอลไม่ได้เป็นที่นิยมสูงสุดที่นั่น แต่กับเรา เรามีโครงการของรัฐที่ชัดเจน และจะไม่จำกัดเพียง 4 ทีมที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่รวมถึงทุกทีมด้วย เพราะความหลงใหลในฟุตบอลของชาวซาอุดินั้น ไม่มีขีดจำกัด"
“เราไม่มีวันจ้างงานนักเตะที่หมดอายุการค้าแข้งไปแล้ว อัล-ฮิลาล กำลังจะเซ็นสัญญากับ รูเบน เนเวส ซึ่งอายุแค่ 26 และเป็นเป้าหมายที่ บาร์เซโลน่า ต้องการ ส่วนทาง คาริม เบนเซม่า ก็ได้มาถึง อัล-อิตติฮัด แล้ว หลังจากที่ได้รางวัล บัลลง ดอร์ กับ เรอัล มาดริด ซึ่งต้องเผชิญกับความยากลำบากทีเดียวในการค้นหาตัวแทนของเขา"
ส่วนกับกระแสต่อต้านจากฝั่งยุโรป ที่มองเห็นว่าการที่ ซาอุฯ รุกรานไปคว้าตัวนักเตะของพวกเขานับสิบราย เป็นเรื่องไม่เหมาะไม่ควรนั้น อัล-เมดเลจ์ กล่าวว่า “แชมเปี้ยนส์ ลีก ของยุโรป คืออัญมณียอดมงกุฎของการแข่งขันฟุตบอลทั้งหมดในยุโรป และทัวร์นาเมนต์นี้ขึ้นอยู่กับสององค์ประกอบ อย่างแรกคือสโมสร ซึ่งเป็นองค์กรขนาดมหึมา และอย่างที่สองก็คือ นักเตะ"
“การจากออกมาของบรรดาสตาร์ดังจากยุโรป จะเป็นงานหนักสำหรับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ทัวร์นาเมนต์จะสูญเสียความเจิดจรัสไปมาก เราเห็นตัวอย่างใน ลา ลีกา พวกเขาสูญเสียไปมากกับการที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายไปยัง ยูเวนตุส แถมยังหนักหนามากขึ้นอีกเมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ ไปยัง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง"
“การจากไปของดาราดังจากยุโรป จะส่งผลต่อสัญญาสปอนเซอร์และสัญญาการถ่ายทอดสด เมสซี่ เป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในตอนนี้ และการได้เขามาจะเป็นการเสริมคุณค่าที่ยอดเยี่ยมมากๆ เพียงแต่เราก็คงจะไม่ยอมแลกทุกสิ่งเพื่อให้ได้เขา"
ทิ้งท้ายด้วยประเด็นของ 2 ซูเปอร์สตาร์จาก 2 ค่าย อย่าง ซิลวา และ ซาลาห์ ผู้บริหารโปรลีก ระบุด้วยความมั่นใจว่า นี่คือเป้าหมายที่สามารถเป็นไปได้จริงของ ซาอุฯ
“มาหวังกันเถอะว่า แบร์นาร์โด้ ซิลวา จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมาที่นี่ และเราต้องเริ่มทำงานกันเพื่อจะเซ็นสัญญากับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เนื่องจากเขาได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นในโลกอาหรับและในยุโรป"
"ผมคิดว่า ซาลาห์ ยังคงมีสถิติที่ต้องการจะทำลายกับทาง ลิเวอร์พูล ดังนั้นผมหวังว่าหากเขายังไม่มาตอนนี้ ก็จะมาในอนาคต"