สารพัดสถิติจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดหงส์สยายปีกจิกสาลิกา รับปีใหม่ ลิเวอร์พูล กะซวก นิวคาสเซิ่ล 4-2 : FEATURE

• ยิงกันสนั่นหวั่นไหวเหมือนเช่นเคย สำหรับศึกสองสัตว์ปีก
• แต่ชัดเจนว่าที่นี่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล อาจเจอปัญหาพอตัว แต่ก็ข้ามผ่านได้ด้วยชัยชนะ
• และนี่คือสารพัดสถิติจากเกม พรีเมียร์ลีก ที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านขยี้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-2
TOPSHOT-FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-NEWCASTLE
TOPSHOT-FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-NEWCASTLE / PETER POWELL/GettyImages
facebooktwitterreddit

6 ประตู, 2 จุดโทษ, 1 พลาดโทษ, 8 ใบเหลือง และ 3 แต้มเต็มที่ตกเป็นของ ลิเวอร์พูล ถ้าจะมีอะไรขาดหายไปจากเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันขึ้นปีใหม่ 1 ม.ค. 2024 ก็คงแค่ใบแดงที่ไม่ถูกชูให้ใครเท่านั้น และนี่คือสถิติตัวเลขหลากหลายประการที่หยิบจับได้จากเกมสุดมันส์นัดนี้

34 : 5

แม้สกอร์อาจไม่ได้ห่างมากมาย โดยเฉพาะในตอนที่ นิวคาสเซิ่ล ตีเสมอ 1-1 รวมถึงไล่บี้มาเป็น 2-3 สิบนาทีท้าย แต่อันที่จริง จะบอกว่าเป็นเกมแบบ "เอาต์คลาส" ก็อาจไม่ผิดนัก

เมื่อสถิติเมื่อจบเกมบอกว่า ลิเวอร์พูล สร้างโอกาสจบสกอร์ได้มากถึง 34 ครั้ง ในขณะที่ นิวคาสเซิ่ล มีลุ้นแค่ 5 หนเท่านั้นเอง (ตรงกรอบ หงส์ 15 สาลิกา 3)

34 โอกาสจบ พร้อมค่า xG (expected goals) 7.72 ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดเท่าที่ทีมใดจะสร้างสรรค์ได้ใน 1 เกม นับแต่เคยมีการบันทึกมาในปี 2010

และสำหรับ 34 โอกาสจบนั้น เป็นของ...

  • ดาร์วิน นูนเยซ 8

    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 6

    เคอร์ติส โจนส์ 5

    เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 3

    โดมินิค โซบอสซ์ไล 3

    วาตารุ เอ็นโด 2

    โคดี้ กัคโป 2

    เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ 1

    อิบราฮิมา โกนาเต้ 1

    ไรอัน กราเฟนแบร์ก 1

    หลุยส์ ดิอาซ 1

    ดีโอโก้ โชต้า 1
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-NEWCASTLE
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-NEWCASTLE / PETER POWELL/GettyImages

8 = 0

ในความน่าเป็นกังวลเล็กๆ ของโอกาสจบ 34 ครั้งนั้น ก็อยู่ที่ฟอร์มของ ดาร์วิน นูนเยซ นั่นเอง

ว่าอันที่จริง จากจังหวะสับไกทั้งหมด 8 ครั้งในตลอด 1 ชั่วโมงเศษที่อยู่ในสนาม (โคดี้ กัคโป ลงไปแทน น.64) นั้น

...ไม่มีประตูเป็นผลตอบแทนสักเม็ด

และจากบันทึกสถิติทางการของ พรีเมียร์ลีก พบว่า กองหน้าอุรุกวัยใช้โอกาสจบไปแล้วถึง 58 ครั้ง...เพื่อแลกมาด้วยประตูจุ๋มจิ๋มเพียง 5 ลูก!

  • นี่คือ ดาร์วิน นูนเยซ ใน พรีเมียร์ลีก 2023/24

    19 เกม (12 ตัวจริง 7 สำรอง)

    5 ประตู (4 เท้าขวา 1 เท้าซ้าย 0 โหม่ง)

    6 แอสซิสต์

    58 โอกาสยิง

    24 ยิงตรงกรอบ

    5 ชนเสา

    18 พลาดโอกาสทอง

สถิติตัวเลขไม่เคยโกหกใคร... ดาร์วิน นูนเยซ พลาดโอกาสทอง (Big Chances Missed) แล้ว 18 ครั้ง นับเป็น "เบอร์ 1 ของลีก" ในแง่นี้ โดยมี เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ (17), โอลลี่ วัตกิ้นส์ (13) และ นิโคลัส แจ๊คสัน (12) ไล่หลังตามมา

Darwin Nunez, Anthony Gordon, Tino Livramento
Liverpool FC v Newcastle United - Premier League / Jan Kruger/GettyImages

ขึ้นดาวซัลโว

ในทางตรงกันข้าม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กดไป 2 เม็ดจากโอกาสจบ 6 ครั้ง

นี่คือประตูที่ 18 ในทุกรายการของซีซั่นนี้ และเป็นลูกที่ 14 ใน พรีเมียร์ลีก -- ขึ้นนำดาวซัลโวร่วมกับ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์

นั่นคงหมายความว่า จากที่รางวัลรองเท้าทองคำ ดาวซัลโวพรีเมียร์ เป็นทาง ฮาแลนด์ ที่เข้าเส้นชัยแบบไร้คู่แข่งในซีซั่นที่แล้ว (36 ประตู, แฮร์รี่ เคน เร่งช่วงท้ายก็ยังสุดที่ 30) มาปีนี้ การช่วงชิงตำแหน่งคงไม่มองออกง่ายๆ อีกแล้ว

ครึ่งซีซั่นแรกผ่านไปด้วยการยืนเคียงข้างกันบนแท่นผู้นำ ฉะนั้น จับตาดูกันต่อไปว่าใครจะคว้ารองเท้าทองคำไปหนุนต่างหมอน

  • ออ... นี่คือ ซาลาห์ ในลีกซีซั่นนี้ จนถึงตอนนี้

    20 เกม (ตัวจริงทั้งสิ้น)

    14 ประตู (2 เท้าขวา 11 เท้าซ้าย 1 โหม่ง / 4 จุดโทษ)

    8 แอสซิสต์

    65 โอกาสยิง

    33 ยิงตรงกรอบ

    2 ชนเสา

    8 พลาดโอกาสทอง
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-NEWCASTLE
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-NEWCASTLE / PETER POWELL/GettyImages

เม็ดที่ 153

เวลาเดียวกัน โม ซาลาห์ ยังทำสถิติกดประตูที่ 151 ใน พรีเมียร์ลีก ให้กับ ลิเวอร์พูล โดยนับเป็นนักเตะรายที่ 5 ที่สามารถยิงประตูทะลุหลัก 150 ลูกให้กับต้นสังกัดเดียวในพรีเมียร์ลีก ถัดจาก เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล 175), เวย์น รูนี่ย์ (แมนฯ ยูไนเต็ด 183), เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้ 184) และ แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส 213)

อย่างไรก็ตาม ถ้านับรวมช่วงเวลากับ เชลซี เมื่อสิบปีก่อนแล้ว สองลูกล่าสุดนี้ของ ซาลาห์ คือประตูที่ 153 แล้วใน พรีเมียร์ลีก เหลือไม่ถึงสิบลูกจะแซงหน้าตำนานอย่าง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และ เจอร์เมน เดโฟ ขึ้นไป

  • อันดับดาวซัลโวตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก

    260 ประตู - อลัน เชียเรอร์

    213 ประตู - แฮร์รี่ เคน

    208 ประตู - เวย์น รูนี่ย์

    188 ประตู - แอนดี้ โคล

    184 ประตู - เซร์คิโอ อเกวโร่

    176 ประตู - แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เธียร์รี่ อองรี

    162 ประตู - ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, เจอร์เมน เดโฟ

    153 ประตู - โมฮาเหม็ด ซาลาห์
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-NEWCASTLE
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-NEWCASTLE / PETER POWELL/GettyImages

จุดโทษ...ไม่ชัวร์

กระนั้นในบางแง่ลบของ โม ซาลาห์ กับเกมล่าสุดนี้ คือการที่เขาไม่สามารถเช็คบิลประตูจาก "จุดโทษ" ได้อีกครั้งแล้ว สำหรับจุดโทษลูกแรกในนาที 22 ที่กดไม่ผ่านเซฟ มาร์ติน ดูบราฟก้า

พบว่านับตั้งแต่ย้ายมาในปี 2017 ซาลาห์ พลาดจุดโทษไปมากกว่านักเตะทุกรายใน พรีเมียร์ลีก คือพลาดแล้วถึง 6 ครั้งจากโอกาสสังหารทั้งหมด 30 รอบ อีกทั้งยังมีเพียง สตีเว่น เจอร์ราร์ด (9) กับ ไมเคิ่ล โอเว่น (7) เท่านั้นที่ยิงพลาดมากกว่า ในฐานะนักเตะลิเวอร์พูล

FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-NEWCASTLE
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-NEWCASTLE / PETER POWELL/GettyImages

28 ปีซ้อน

หนสุดท้ายที่ นิวคาสเซิ่ล บุกเอาชนะได้ถึง แอนฟิลด์ ในเกมพรีเมียร์ลีก ต้องย้อนไปไกลลิบถึง 1993/94 ที่ประตูจาก โรเบิร์ต ลี กับ แอนดี้ โคล ช่วยให้สาลิกาบุกมาหักปีกหงส์ยุค รอย อีแวนส์ (เอียน รัช, ไนเจล คลัฟ, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, เจมี่ เร้ดแน็ปป์, นีล รัดด็อค, จอห์น บาร์นส์) ลงได้ 2-0

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...ถัดมาอีก 28 ปี เต็มที่ นิวคาสเซิ่ล ก็ได้แค่ 1 แต้มกลับออกไป

ลิเวอร์พูล ชนะ 23 เสมอ 5

28 ปี ยังนับเป็นช่วงเวลายาวนานสุดเป็นสถิติ เทียบเท่ากับที่ เชลซี มีต่อ เอฟเวอร์ตัน ใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยเช่นกัน

Curtis Jones
Liverpool FC v Newcastle United - Premier League / Jan Kruger/GettyImages

ที่นี่แอนฟิลด์

แม้หากวัดสถิติ "เกมเหย้า" ซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล จะเป็นรอง แอสตัน วิลล่า อยู่เล็กน้อย เมื่อเด็กๆ ของ อูไน เอเมรี่ ผ่าน 10 เกมในบ้านด้วยผลงานชนะ 9 เสมอ 1 (28 คะแนน)

ลิเวอร์พูล ในแอนฟิลด์ ซีซั่นนี้ ผ่าน 10 เกมไปด้วยชัยชนะ 8 และเสมออีก 2 (26 แต้ม)

2 ทีมที่ได้รับเกียรติให้มีคะแนนกลับออกไป มีเพียง แมนฯ ยูไนเต็ด (0-0) และ อาร์เซน่อล (1-1) เท่านั้น

สำคัญกว่าภาพแคบของซีซั่นนี้ คือภาพที่ "กว้างกว่า" ของการเล่นในแอนฟิลด์

จากซีซั่นก่อน ลิเวอร์พูล แพ้คาบ้านนัดเดียวเท่านั้น คือโดน ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกกำราบอย่างเซอร์ไพรส์ 2-1 ช่วงสิ้นเดือน ต.ค. เท่ากับหลังจากนั้นเป็นต้นมา นับเป็นระยะ 22 เกมเข้าไปแล้วที่ลูกทีม เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่พลาดท่าแพ้ใครในรัง แบ่งออกเป็นชนะ 17 และเสมอ 5

Liverpool FC v Manchester United - Premier League
Liverpool FC v Manchester United - Premier League / Clive Brunskill/GettyImages

สาลิกา บู่นอกบ้าน

แล้วในภาพขั้วตรงข้ามกับ ลิเวอร์พูล ในแอนฟิลด์ ก็คือความช้ำเลือดช้ำหนองที่ นิวคาสเซิ่ล มี เมื่อต้องก้าวเท้าพ้นไปจาก เซนต์ เจมส์ พาร์ค

พบว่า มีเพียง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมเดียวเท่านั้นที่ทำได้แย่กว่า สำหรับผลงานเกมเยือน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ที่ส่วนใหญ่ผ่านนัดเยือนแล้ว 10 นัด

ทีม

ผลงาน

แต้ม

ฟูแล่ม

1-3-6

6

นิวคาสเซิ่ล

1-2-7

5

เชฟยู

0-2-8

2

แพ้กระจาย 7 จาก 10 นัด และสามารถบุกชนะชาวบ้านเขาได้แค่ทีมเดียวเท่านั้น แบบที่คงต้องเป็น "แฟนพันธุ์แท้" เท่านั้นถึงจะตอบได้ว่า เกมเดียวถ้วนๆ นั้นคือนัดไหน

เฉลยให้ไม่ต้องคิดเยอะ - ก็ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด นั่นแหละ ที่แพ้ นิวคาสเซิ่ล ขาดลอยเป็นสถิติถึง 0-8 เมื่อต้นซีซั่น

เอ... หรือสาลิกาจะโดน "อาถรรพ์บรามอลล์เลน" เข้าให้แล้ว?!?

Dan Burn
Liverpool FC v Newcastle United - Premier League / Jan Kruger/GettyImages

และแน่นอนว่า 'น่าเป็นห่วง'

  • นี่คือ นิวคาสเซิ่ล 8 เกมหลังในทุกถ้วย

    แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-3

    แพ้ สเปอร์ส 1-4

    แพ้ เอซี มิลาน 1-2 (ชปล.)

    ชนะ ฟูแล่ม 3-0

    แพ้จุดโทษ เชลซี (บาวคัพ)

    แพ้ ลูตัน ทาวน์ 0-1

    แพ้ ฟอเรสต์ 1-3

    แพ้ ลิเวอร์พูล 2-4

แพ้ 7 จาก 8 เกมหลังในทุกถ้วย และแพ้ 5 จาก 6 นัดหลังใน พรีเมียร์ลีก จนอันดับถอยลงมาอยู่ที่ 9 แล้ว

ชัดเจนว่านี่คือคนละทีมกับที่สร้างผลงานมาสเตอร์พีซ จนตีตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ด้วยการจบอันดับ 4

แน่นอนว่าในทางหนึ่งอาจกล่าวโทษ เอ๊ดดี้ ฮาว ได้ลำบาก กับ "วิบากกรรม" ปัญหาตัวเจ็บล้นทะลักครึ่งค่อนทีม ซึ่งต้องเผชิญมาตลอด 2-3 เดือนหลัง ที่ก็ยังต้องบวกด้วยการติดโทษแบนของคีย์แมนแดนกลางอย่าง ซานโดร โตรนาลี่ อีกคน

ในทางทฤษฎีอาจยังมีลุ้น แต่ในทางปฏิบัติ มองไม่เห็นเลยจริงๆ ว่า นิวคาสเซิ่ล จะกลับสู่ ชปล. อีกครั้งได้ด้วยวิธีไหนและอย่างไร

Eddie Howe
Newcastle United v Nottingham Forest - Premier League / Stu Forster/GettyImages