"โทรฟี้" อาจไม่จำเป็นสำหรับ แฮร์รี เคน ในการสถาปนาตัวเองขึ้นเป็น "ตำนาน" - FEATURE

Tottenham Hotspur v Manchester City - Premier League
Tottenham Hotspur v Manchester City - Premier League / Chloe Knott - Danehouse/GettyImages
facebooktwitterreddit

แฮร์รี่ เคน จารึกชื่อของตัวเองลงในประวัติศาสตร์อีกครั้งให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ด้วยการก้าวมาเป็นดาวซัลโวตลอดกาลคนใหม่ของสโมสร ทำลายสถิติเดิมที่ยืนยงคงกระพันมายาวนานกว่า 50 ปี

หลังจากยิงประตูชัยพา สเปอร์ส เฉือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เคน ทำประตูให้ไก่เดือยทองไปแล้วถึง 267 ลูก แซงหน้าสถิติอันยาวนานของ จิมมี่ กรีฟส์ ตำนานผู้ล่วงลับที่ครองสถิตินี้มาตั้งแต่ฤดูกาล 1969-70 ได้สำเร็จ

ประตูล่าสุดของ เคน เกิดขึ้นจากการลงสนามนัดที่ 304 ในพรีเมียร์ลีก ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนที่ 3 ต่อจาก อลัน เชียเรอร์ (260 ประตูจาก 441 เกม) และ เวย์น รูนี่ย์ (208 ประตูจาก 491 เกม) ที่ยิงได้แตะหลัก 200 ประตูในลีก

สำหรับ เคน ที่ทำลายสถิติของตำนานอย่าง กรีฟส์ ได้นั้นเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง เมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาเจอมาในช่วงต้นเส้นทางค้าแข้ง มันยากที่จะจินตนาการได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ คงไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะบินสูงขนาดนี้หลังจากเขาเข้าร่วมอะคาเดมี่ของ สเปอร์ส ในปี 2009

มันกินเวลานานเกือบ 2 ปีกว่า เคน จะทำประตูแรกให้ สเปอร์ส ในเกมที่เจอกับ แชมร็อค โรเวอร์ส ในปี 2011 และประตูต่อมาก็มาเกิดขึ้นในแมตช์เจอ ฮัลล์ ซิตี้ ในปี 2013

เขาถูกปล่อยไปเก็บประสบการณ์กับ เลย์ตัน โอเรียนท์ และ มิลล์วอลล์ ซึ่งผ่านไปแบบทรง ๆ แต่กลับมีช่วงเวลาที่ยากลำบากสมัยเล่นแบบยืมตัวให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ และ นอริช ซิตี้ ในฤดูกาล 2012-13

เคน ทำประตูให้ นอริช ไม่ได้เลย และยิงได้แค่ 2 ลูกให้ เลสเตอร์ ที่ตอนนั้นอยู่ดิวิชั่น 2

เคน กล่าวถึงช่วงเวลานั้นว่า "นั่นคือช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุด ผมอายุ 19 ปี ต้องห่างจากบ้านและแทบไม่ได้ลงเล่นเลย คุณมักจะตั้งคำถามอยู่เสมอ ถ้าหากไม่ได้ลงเล่นที่นั่น แล้วคุณจะเล่นให้ท็อตแน่มได้อย่างไร?"

แม้ว่าเขาจะต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่อุปสรรคที่เขาพบเจอในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ นั้นมีความสำคัญต่อการเติบโตของ เคน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"มันเกิดขึ้นบ่อยตอนที่ผมถูกยืมตัว มีกองหลังคนหนึ่งพูดว่า 'ฉันยังไม่ได้ใบเหลืองเลย งั้นฉันขอใช้กับนายละกันนะ' " เคน กล่าว

ที่จริงต้องขอบคุณ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ด้วยเช่นกันที่มอบความไว้วางใจและอดทนปั้นให้ เคน ขึ้นมาเล่นให้ชุดใหญ่ของ สเปอร์ส จนมันเกิดผล

เคน ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของ สเปอร์ส แบบเต็มพิกัดคือเมื่อฤดูกาล 2014/15 และตัวเลขประตูนั้นก็น่าประทับใจไม่น้อยเมื่อเขาซัดไป 21 ลูกจาก 34 นัด

ตั้งแต่นั้นมา เคน คือคีย์แมนของไก่เดือยทองมาโดยตลอด ผ่านประวัติศาสตร์ที่เข้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่หนึ่งสิ่งที่ยังเป็นเครื่องหมายคำถามต่อเส้นทางการค้าแข้งของเขาคือ "แชมป์"

ด้วยวัยล่วงมาถึง 29 ปี เคน ยังไม่เคยสัมผัสกับแชมป์เลย นอกจากรางวัลส่วนตัว ซึ่งนี่ทำให้เกิดข่าวเรื่องย้ายทีมตลอดช่วงหลัง โดยยักษ์ใหญ่มากมายต่างพร้อมยื่นข้อเสนอเพื่อดึงหัวหอกรายนี้ไปเสริมทัพ

เขาเกือบได้ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบสุด ๆ เมื่อซัมเมอร์ปี 2021 แต่เพราะสองสโมสรตกลงค่าตัวไม่ได้ ทำให้ เคน ยังอยู่กับ สเปอร์ส และในฤดูกาลนั้นเรือใบสีฟ้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ส่วน เคน ก็ยังไร้แชมป์ตามเคย

เคน เหลือสัญญากับ สเปอร์ส จนถึงปี 2024 เท่านั้น แต่มีรายงานว่าเขาเปิดกว้างสำหรับการต่อสัญญา แม้ว่า บาเยิร์น มิวนิค คือทีมเต็งที่จะเซ็นสัญญาหากว่าหัวหอกเลือดผู้ดีอำลาทีมก็ตาม

ทำไม เคน ถึงอยากต่อสัญญาในเมื่อเขาอาจไม่ได้แชมป์กับ สเปอร์ส? คำตอบคือ สถิติดาวซัลโวตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกไงล่ะ

เคน ต้องการทำลายสถิติดาวซัลโวตลอดกาลในพรีเมียร์ลีกของ เชียเรอร์ เป็นอย่างมาก เพราะงั้นเขาอาจยังไม่ย้ายทีมใน 1-2 ปีนี้จนกว่าจะทำลายสถิติดังกล่าวได้ก่อน ซึ่งตอนนี้เขาขออีก 60 ประตูเท่านั้น

คำถามคือแล้วเมื่อเขาทำลายลงได้แล้วล่ะ? เขาจะย้ายไหม? มันก็เป็นไปได้ ถ้าสภาพร่างกายของเขายังดีพอ แต่นักเตะอังกฤษมักจะมีสภาพร่างกายโรยราก่อนวัยอันควร

ถ้ามองในแง่ร้ายตอนนั้น เคน อาจมีสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนเดิม ทีมใหญ่ ๆ อาจมีตัวเลือกที่ดีกว่าแล้ว เพราะงั้นเขาอาจต้องอยู่กับ สเปอร์ส ต่อไป แล้วคงรอโอกาสคว้าแชมป์ต่อไปเรื่อย ๆ และอย่างแย่ที่สุดคือไม่ได้แชมป์เลย

แต่นั่นก็เป็นเรื่องสมมุติ อนาคตไม่มีใครคาดเดาได้ ซึ่งหากมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็เชื่อว่า แฮร์รี่ เคน จะยังถูกมองเป็นตำนานได้อยู่ดี

นอกจากโทรฟี้เขาอาจเป็นตำนานเพราะดาวซัลโวตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก หรือดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสร หรือดาวซัลโวตลอดของทีมชาติอังกฤษ หรือดาวซัลโวตลอดกาลได้โดยไม่จะเป็นมีแชมป์ติดมือ

แถมผลงานที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ไม่ว่าคุณจะมองเขาในฐานะอะไรก็ตาม ตอนนี้อาจมีการตั้งคำถามอยู่มากมาย แต่เมื่อเขาแขวนสตั๊ด คำว่า "ตำนาน" จะโผล่ออกมานำหน้าชื่อของ แฮร์รี่ เคน อย่างแน่นอน


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด