ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023/24 มาแล้ว : กาลาตาซาราย ลงทุนตั้งมากตั้งมาย...เสียวจะไม่ได้ไปต่อ! - FEATURE

ในนาทีนี้ที่ปรีซีซั่นงวดลงทุกขณะ และดำเนินผ่านหลายเกมน่าจับตาไปแล้ว (ขายหน้าขาวบ้านเขาไปแล้วด้วย!) แต่ที่จริง แฟนๆ ก็ยังต้องรอกันอีกพักหนึ่งกว่าที่เมนคอร์สอย่าง พรีเมียร์ลีก หรือลีกใหญ่ของยุโรปที่รอคอย จะกลับมาเสิร์ฟให้ได้เอร็ดอร่อยกัน ในช่วงกลางเดือนหน้า หรืออีกประมาณครึ่งเดือนนับจากนี้

แต่ที่ไม่ต้องให้รอแล้ว เริ่มต้นกันไปเรียบร้อยแล้ว ก็คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำซีซั่นใหม่ 2023/24 ที่การเตะรอบคัดเลือกกำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะวานนี้ ที่ทีมใหญ่อย่าง กาลาตาซาราย ลงประเดิมสนามไปแล้วด้วย

แต่งานนี้ บอกเลยว่า "ไม่ง่าย" สำหรับต้นสังกัดใหม่ของ วิลฟรีด ซาฮา...

2023/24 ที่น่าจับตาของ กาลาตาซาราย

เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ กาลาตาซาราย ไปแล้ว สำหรับ วิลฟรีด ซาฮา ปีกตัวเก่งที่เราท่านต่างคุ้นเคยกันดี ด้วยเห็นการเติบโตกันมาตั้งแต่ที่ตั้งไข่ล้ม ต้มไข่ไม่ลุกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด จนต้องระเห็จกลับไปยัง คริสตัล พาเลซ อีกครั้ง แล้วค่อยแจ้งเกิดระเบิดฟอร์มได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ตั้งแต่ 2014/15 จน 2022/23 ซาฮา ซึ่งอันที่จริงก็ได้เล่นให้ ทีมชาติอังกฤษ ไปแล้ว 2 นัด แต่สุดท้ายเลือกรับใช้ทีมชาติบ้านเกิดอย่าง ไอวอรี่ โคสต์ นั้น อยู่โยงรับใช้ คริสตัล พาเลซ ด้วยดีเสมอมา พร้อมกับมีชื่อถูกโยงกับทีมใหญ่เช่น อาร์เซน่อล หรือ เชลซี เป็นระยะ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นจริงจัง

2014/15 จน 2022/23 รวมระยะ 9 ปี และที่จริงก็ต้องบวกเพิ่มไปอีก 3 ปีตอนที่เทิร์นโปรขึ้นมาใหม่ๆ ซึ่งตอนนั้น พาเลซ ยังอยู่ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ นั่นทำให้ ซาฮา ลงเล่นให้กับต้นสังกัดในละแวกลอนดอนตอนใต้ทีมนี้ มากถึง 458 นัด ซัดไป 90 ประตู

458 นัด สูงที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 3 ของสโมสร ตามหลังแค่ เทอร์รี่ ลอง (480) และ จิม แคนน่อน (660) ขณะที่การซัด 90 ประตู นับเป็นอันดับ 10 ดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสร (เบอร์ 1 ปีเตอร์ ซิมป์สัน 165 ประตู, ยุค 1930)

อาจโชคไม่ดีสักหน่อยที่การเข้าใกล้โทรฟี่แชมป์ที่สุด อย่างที่เข้าถึงนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ 2016 (ซาฮา ลงตัวจริง) จบลงด้วยความพ่ายแพ้ฉิวเฉียดต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งที่ พาเลซ อุตส่าห์ขึ้นนำได้ในช่วงท้ายเกม น.78 เข้าไปแล้ว (เจสัน ปันเชียน และจังหวะออกสเต็ปแดนซ์ของ อลัน พาร์ดิว ข้างสนาม) แต่ก็ดันตรึงสกอร์นำเอาไว้ไม่อยู่

เมื่ออยู่โยงรับใช้ทีมมาเป็นสิบปีขนาดนี้ การจาก เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ไปเมื่อหมดสัญญาฉบับล่าสุด 30 มิ.ย. เพื่อที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับตัวเองในวัย 30 นั้น จึงไม่มีแม้แต่เสียงเดียวจากแฟนๆ พาเลซ ที่จะกล้าวิจารณ์ ซาฮา ในแง่ลบ -- ตรงกันข้าม มีแต่จะส่งออกด้วยเสียงปรบมือ

และหลังจากใช้เวลาเสาะหาต้นสังกัดใหม่อยู่พักใหญ่, พร้อมกับที่ พาเลซ เองก็ยื่นข้อเสนอสัญญาใหม่มูลค่าประวัติศาสตร์ 2 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ให้พิจารณา, ซาฮา ก็ไปลงเอยกับ กาลาตาซาราย ทีมแชมป์ ซูเปอร์ลีก ตุรกี ซีซั่นล่าสุด

ก็เข้าเปิดตัวเป็นทางการไปเมื่อ 24 ก.ค. ภายใต้สัญญายาว 3 ปี ซึ่งว่ากันว่า กาลาตาซาราย เอาอกเอาใจสตาร์วัย 30 เป็นที่สุด ด้วยโบนัสพิเศษ signing-on fee มูลค่า 2.35 ล้านยูโร รับเข้ากระเป๋าไปเลยแค่เซ็นแกรกเดียว ขณะที่ค่าจ้างอยู่ที่ 4.35 ล้านยูโรต่อปี ตีเฉลี่ยได้สัปดาห์ละประมาณ 8 หมื่นยูโร หรือ 68,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์

ซาฮา จะเริ่มต้นการผจญภัยใหม่ที่ แรมส์ โกลบัล สเตเดี้ยม (อาลี ซามี เยน เก่านั่นแหละ) ในซีซั่นใหม่ ด้วยภารกิจไล่ล่าแชมป์ลีก, บอลถ้วย และการเข้าร่วมชิงชัยในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเขาก็จะไม่ใช่ "ซูเปอร์สตาร์" เพียงคนเดียวในชุดเหลืองแดงแรงฤทธิ์ เมื่อ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ยืนยันว่า กาลาฯ เตรียมที่จะซื้อขาด เมาโร อิคาร์ดี้ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ มาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยอีกคน ภายหลังประทับใจผลงานที่ยืมใช้ตลอดซีซั่นก่อน ซึ่ง อิคาร์ดี้ กระหน่ำไป 23 ประตูจากการเล่นแค่ 26 นัด

ซาฮา กับ อิคาร์ดี้ แล้วก็ยังมีดาวดังอย่าง ดรีส เมอร์เท่นส์, นิโกโล่ ซานิโอโล่, ยูซุฟ เดมีร์, ลูคัส ตอร์เรย์ร่า, เซดริก บาคัมบู และ อังเคลินโญ่ ที่อดีตแข้ง แมนฯ ซิตี้ รายหลังสุดนี้ เพิ่งถูกเซ็นยืมตัวมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก พ่วงออปชั่นซื้อขาด 6 ล้านยูโร

นอกจากนั้น ก็ยังมีความเป็นไปได้ด้วยที่ ดาบิด เด เคอา จะถูกดึงเข้าไปแทนตัวเก๋าวัย 37 แฟร์นานโด มุสเลร่า เมื่อจนถึงตอนนี้ อดีตจอมหนึบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังไม่ได้ลงเอยกับใครจริงจังเสียที

เริ่มต้นไม่สวยอย่างที่คิด

อัดแน่นไปด้วยดาวเตะชื่อคุ้นหู และอยู่ในสถานะของแชมป์ ซูเปอร์ลีก ตุรกี รายล่าสุด อันเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 23 สูงสุดของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ตัวแทนของ ตุรกี ไปได้ไม่ถึงไหนใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ตลอดหลายปีหลัง -- 2012/13 คือปีสุดท้ายที่ตัวแทนตุรกี อย่าง กาลาฯ เองนี่แหละ เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย แถมยังตกรอบแบ่งกลุ่มเป็นเรื่องปกติ ส่งผลให้ค่าสัมประสิทธิ์ถ้วยยุโรปของพวกเขาตกต่ำอย่างหนัก ถอยจากอันดับ 13 ลงไปเป็นถึงอันดับ 20 สำหรับการคัดโควตาประจำซีซั่นใหม่ 2023/24

(1. พรีเมียร์ลีก 2. ลา ลีกา 3. กัลโช่ เซเรีย อา 4. บุนเดสลีกา พวกนี้ได้โควตาเต็มเหยียด ลีกละ 4 ทีม ถัดไป 5. ลีก เอิง กับ 6. ปรีเมร่า ลีกา โปรตุเกส ลีกละ 3)

สิ่งที่ตามมาก็คือ ซูเปอร์ลีก ได้โควตาส่วนแบ่งตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ แค่ "ที่เดียว" ถ้วนๆ เท่านั้นเอง ซึ่งก็คือแชมป์อย่าง กาลาตาซาราย ไม่มีเพิ่มเติมจากนี้

ที่สำคัญ โควตาเดียวจาก ซูเปอร์ลีก นั่น ยังต้องไปเริ่มต้นที่ "รอบคัดเลือก รอบ 2" เสียด้วย ไม่ได้มีที่ในรอบแบ่งกลุ่ม หรือแม้แต่เพลย์ออฟ ให้แต่อย่างใด

และการออกสตาร์ทรอบคัดเลือก รอบ 2 แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023/24 ของ กาลาตาซาราย ก็เริ่มต้นไปแล้วด้วย เมื่อคืนอังคารที่ผ่านมา

ภายใต้การทำทีมของ โอคาน บูรุค อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติตุรกี (ฟุตบอลโลก 2002) น่าเสียดายไม่น้อยที่ตัวใหม่อย่าง วิลฟรีด ซาฮา มาร่วมทีมล่าช้าเกินกว่าที่จะมีเอี่ยวลงสนามเกมนี้ เช่นเดียวกับ เมาโร อิคาร์ดี้ ที่ดีลก็เรียบร้อยไม่ทันเวลา อีกทั้ง ลูคัส ตอร์เรย์ร่า บาดเจ็บ และ เซดริก บาคัมบู ยังไม่พร้อม

นั่นทำให้ทริปเยือนแชมป์ลีกลิธัวเนียอย่าง ซัลกิริส เมื่อวันอังคาร กาลาฯ ต้องฝากความหวังไว้กับพวก ซานิโอโล่, แซร์โจ้ โอลิเวร่า, อังเคลินโญ่ และตัวตุรกี ในขณะที่ ดรีส เมอร์เท่นส์ เป็นแค่สำรอง (ก่อนถูกส่งลงครึ่งชั่วโมงท้าย)

หนึ่งคือเป็นคิวจริงจังที่มาเร็วมาก หลังจาก กาลาตาซาราย เริ่มต้นเตะปรีซีซั่นไปไม่ครบเดือน และอีกหนึ่งก็คือ ซัลกิริส ไม่ใช่ทีมที่สามารถประมาทได้ โดยเฉพาะการเล่นในบ้าน

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ "งานหนัก" ที่ กาลาฯ ต้องเจอ และไม่มีชัยชนะสวยๆ เป็นผลตอบแทนเมื่อสิ้นสุด 90 นาทีแรกของการศึกครั้งนี้

เส้นทาง แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ไม่ง่าย

ที่จริง กาลาตาซาราย ก็ทำดีพอสมควรแล้วที่พลิกจากการตามหลัง 0-1 ต้นครึ่งหลัง มาแซงนำ 2-1 ใน 15 นาทีสุดท้าย ด้วยการจบสกอร์ของ อับดุลเคริม บาร์ดัคซี น.75 และหอกสำรอง ฮาลิล เดอร์วิโซกลู น.78

กระนั้น การตั้งรับจัดระเบียบหลังบ้านอันหละหลวม ก็ทำให้ ซัลกิริส ตามทวงคืนเป็น 2-2 ได้เหมือนกันในช่วงทดเจ็บ 90+2 จังหวะทิ้งบอมบ์ไปให้ยิงโล่งๆ

จบที่ 2-2 กาลาตาซาราย ไม่อาจคว้าชัยชนะได้ที่ลิธัวเนีย

อาจใช่ว่าคิวแก้มือ เลก 2 ที่ แรมส์ โกลบัล สเตเดี้ยม พุธหน้า 2 ส.ค. กาลาตาซาราย คงอยู่ในสถานะ "เป็นต่อ" ด้วยการเล่นในบ้านตัวเอง และขุมกำลังก็น่าจะดีขึ้นกว่าเมื่อวาน โดยเฉพาะว่าก็มีลุ้นที่ วิลฟรีด ซาฮา จะพร้อมลงสนามในเกมสำคัญนัดนี้ด้วย

แต่ก็ไม่มีการันตีอะไรอยู่ดีกว่า กาลาฯ จะผ่านได้แน่ๆ

เช่นกัน ต่อให้ผ่าน ซัลกิริส ไปได้ กาลาฯ ก็ยังต้องลุยต่อกับรอบคัดเลือกรอบ 3 ต่อด้วยรอบเพลย์ออฟ กว่าที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้จริงๆ

นั่นหมายถึงว่า "การมาเพื่อร่วมเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก" ภายใต้เครื่องแบบ กาลาตาซาราย ของ ซาฮา ไม่อาจเกิดขึ้นได้โดยง่าย ดีไม่ดีเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา จะถูกยุติความฝันเอาในรอบคัดเลือกหรือเพลย์ออฟ

เอาเป็นว่า พุธหน้า ส่งใจเชียร์ กาลาตาซาราย ไปด้วยกันหน่อย

เพราะไหนจะ ซาฮา ไหนจะ อิคาร์ดี้ และคนอื่นๆ ขุมกำลังดีๆ ที่มาจากการลงทุนสูงแบบนี้ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ควรถูกเขี่ยร่วง ชปล. ตั้งแต่คัดเลือกรอบสอง!