สวัสดี ยูโร 2024 ใครเจอใคร ใหญ่ฟัดใหญ่ขนาดไหน ตลอด 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ - FEATURE
อาจขัดใจหลายแฟนบอลหน่อยที่คิวทีมชาติ โผล่มาขัดจังหวะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มของลีกยุโรป จนทำให้ในช่วงสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า เป็นเหมือนการได้พักร้อนกลายๆ ของบางแฟนบอล ที่ปกตินิยมเสพเฉพาะ พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือลีกแถวหน้าอีก 2-3 แห่ง เท่านั้น
แต่ก็ต้องบอกว่า นี่คือคิว "สำคัญยิ่ง" ของบรรดาชาติในทวีปยุโรป เมื่อเสียงนกหวีดแรกแห่งการค้นหาตัวแทนผู้เข้าสู่ "ยูโร 2024" รอบสุดท้าย จะเริ่มต้นดังขึ้นแล้วในสัปดาห์นี้
ฉะนั้นเมื่อ ยูโร 2024 มาเคาะประตูบ้านท่านแล้วขนาดนี้ ก็ลองไปสำรวจตรวจตรากันหน่อย โดยเฉพาะว่าในช่วง 2 สัปดาห์นี้ที่ร้างราจากบอลสโมสร จะมีใครเจอใคร ใหญ่ฟัดใหญ่ขนาดไหน คู่ควรแก่การตั้งตารอชมหรือไม่ ประการใด...
ยูโร 2024 พอสังเขป
ภายหลังจากผ่านศึกชิงแชมป์ทวีปยุโรปครั้งพิเศษ ยูโร 2020 (ที่จัดขึ้นในปี 2021) ซึ่งร่วมมือกันจัดในหลายประเทศทั่วทวีป มาแบบที่ความทรงจำยังไม่เป็นสีจาง ก็เข้าสู่การเริ่มต้นนับหนึ่งของเวอร์ชั่นใหม่ "ยูโร 2024" กันแล้ว
ศึกชิงเจ้ายุโรปครั้งที่ 17 หนนี้ รอบสุดท้ายจะถูกจัดขึ้นที่ประเทศเยอรมนี ในช่วงซัมเมอร์ของปีหน้า 14 มิ.ย. - 14 ก.ค. 2024 ซึ่งนับเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ทัวร์นาเมนต์จะห่างจากครั้งก่อนแค่ 3 ปี อันเนื่องมาจากสถานการณ์ของไวรัสวายร้าย โควิด-19 อย่างที่ทราบกัน
โดยในการลงคะแนนโหวตคัดเลือกเจ้าภาพเมื่อปี 2018 เยอรมนี ชนะอย่างขาดลอยด้วยคะแนนเสียง 12 โหวต เหนือ ตุรกี ที่ได้แค่ 4 เสียงเท่านั้น
กับเจ้าภาพอย่าง เยอรมนี แม้ในความรู้สึกอาจเป็นว่า พวกเขาก็เพิ่งได้สิทธิ์จัดรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก ไปเมื่อปี 2006 นี่เอง กระนั้นในส่วนของ ยูโร แล้ว เมืองเบียร์ว่างเว้นการเป็นเจ้าภาพมาตั้งแต่ 1988 หรือ 36 ปีก่อนโน่นแล้ว ถ้าไม่นับรวมหนล่าสุดที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า นครมิวนิค มีเอี่ยวจัดอยู่สี่ซ้าห้าเกมด้วยกัน
ที่สำคัญ ในแง่ของฟุตบอล มหาอำนาจเจ้าของแชมป์โลก 4 สมัยอย่าง เยอรมนี ได้แชมป์ยูโรครั้งสุดท้ายก็ที่อังกฤษ ปี 1996 ทัวร์นาเมนต์ที่หลายแฟนบอลเพิ่งได้เริ่มดูฟุตบอลเป็นครั้งแรกๆ นั่นมาแล้วทีเดียว จึงไม่ต้องสงสัยว่า อินทรีเหล็ก หมายมั่นปั้นมือเต็มที่แน่ในเป้าหมายครองแชมป์ทวีปต่อหน้าแฟนๆ ของตัวเอง
สำหรับในรอบสุดท้าย จะยังเป็นการโรมรันของ 24 ชาติผู้เข้ารอบ เหมือนครั้งที่ผ่านมา โดยจะใช้สนามทั้งหมดถึง 10 แห่ง ซึ่งก็คือสังเวียนแถวหน้าที่เราคุ้นตากันดีจาก บุนเดสลีกา ทั้งสิ้น
ในส่วนของคิวเตะรอบคัดเลือกที่เริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้แล้ว จะแบ่งเตะเดือนละ 2 แมตช์เดย์ (แต่ละทีมอาจลงสนาม 1 หรือ 2 นัด ไม่เท่ากัน) ออกสตาร์ทกันในเดือนนี้ จากนั้นเป็นช่วง มิ.ย. แล้วข้ามไป ก.ย., ต.ค., พ.ย. จึงจบรอบปกติ--ที่จะคัดเอา แชมป์กับรองแชมป์กลุ่ม เข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ขณะที่รอบเพลย์ออฟ จะใช้วิธีซับซ้อนเล็กน้อยโดยยึดโยงจากผลของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022/23 ที่จบไปแล้ว เพื่อคัดเอา 12 ทีมมาชี้ขาดกัน (แบ่งเป็น Path A-B-C) หาเพียง 3 โควตาสุดท้าย ไปแอ่วเมืองเบียร์
ถึงตรงนี้ คงไม่ต้องถามว่าพร้อมหรือไม่ เอาเป็นว่าไปดูกันเลยว่า รอบคัดเลือก ยูโร 2024 มีหน้าตาแบบไหนอย่างไรกันบ้าง (หมายเหตุ * เครื่องหมาย X ในชื่อทีมแต่ละกลุ่ม คือทีมที่มีการันตีเพลย์ออฟล่วงหน้าแล้ว)
รอบคัดเลือก กลุ่ม A
สเปน (X), สกอตแลนด์ (X), นอร์เวย์, จอร์เจีย (X), ไซปรัส
แน่นอนว่า สเปน นำมาเป็นตัวเต็งและทีมใหญ่สุดประจำกลุ่มนี้ แต่ก็ถือเป็นความท้าทายของทัพกระทิงดุไม่น้อยเมื่อพวกเขาต้องอยู่ในการดูแลของโค้ชใหม่อย่าง หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ โค้ชวัยแซยิดผู้ซึ่งไม่เคยจับงานใหญ่มาก่อน แต่ได้รับไม้ต่อจาก หลุยส์ เอ็นริเก้ ด้วยเพราะคลุกคลีกับทีมชาติสเปนเรื่อยมาและไล่มาตั้งแต่ ยู-19, ยู-21 และยู-23 จากปี 2013 เป็นต้นมา
ซึ่งในการประกาศรายชื่อชุดลงเตะกับ นอร์เวย์ และ สกอตแลนด์ งวดนี้ เด ลา ฟวนเต้ ก็เรียกใช้หน้าใหม่ๆ เยอะทีเดียว เช่น เปโดร ปอร์โร่ (สเปอร์ส), โฆเซลู (เอสปันญ่อล), ไบรอัน กิล (เซบีย่า), เยเรมี่ ปิโน่ (บียาร์เรอัล) จนทำให้ซีเนียร์สุดกลายเป็น อัลบาโร่ โมราต้า ที่เล่นทีมชาติ 61 เกม สูงสุดในทีมชุดนี้
สิ่งน่าสนใจคือ ดาบิด เด เคอา ยังคงไม่ถูกเรียกคืนธง โดย 3 นายทวารกระทิงประกอบด้วยตัวพรีเมียร์ลีกล้วนอย่าง เคปา อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี), ดาบิด ราย่า (เบรนท์ฟอร์ด) และ โรเบิร์ต ซานเชซ (ไบรท์ตัน)
ด้านคู่แข่งที่น่าจะยากที่สุดของ สเปน คงหนีไม่พ้น นอร์เวย์ ยุคน่าจับตา ที่นำมาโดย เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์, มาร์ติน โอเดการ์ด, อเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ, ซานเดอร์ เบิร์ก และ เลโอ ออสติการ์ด
อย่างไรก็ตาม ยอดดาวยิงจอมปีศาจอย่าง ฮาแลนด์ ที่กดให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้ว 42 ประตูในซีซั่นนี้ ก็ดันโชคร้าย ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวออกจากคิวเตะเดือนนี้ไปเสีย
เท่ากับกองหลังทั้ง สเปน และ จอร์เจีย ได้ปาดเหงื่อหายใจโล่งคอเลยเมื่อไม่ต้องรับมือกับ ฮาแลนด์
โปรแกรมเดือนนี้
25 มีนาคม สกอตแลนด์ v ไซปรัส, สเปน v นอร์เวย์
28 มีนาคม จอร์เจีย v นอร์เวย์, สกอตแลนด์ v สเปน
รอบคัดเลือก กลุ่ม B
เนเธอร์แลนด์ (X), ฝรั่งเศส, ไอร์แลนด์, กรีซ (X), ยิบรอลตาร์
ควรต้องนับเป็นโชคร้ายของ ไอร์แลนด์ ที่ต้องตกมาอยู่กลุ่มเดียวกับทั้ง ฝรั่งเศส รองแชมป์โลกหนล่า และ เนเธอร์แลนด์ ผู้เข้าถึงรอบ 8 ทีมเวิลด์ คัพ 2022 ในระบบที่คัดเอาแค่แชมป์กับรองแชมป์กลุ่มเข้ารอบสุดท้ายอัตโนมัติ แถม กรีซ ยังการันตีตั๋วเพลย์ออฟไว้แล้วอีกจากผลงานใน เนชั่นส์ ลีก
ในส่วนของทัพกังหัน เนเธอร์แลนด์ พวกเขาเวียนกลับไปใช้โค้ชใหม่หน้าเก่าอย่าง โรนัลด์ คูมัน อีกครั้งแล้ว พร้อมกับขุมกำลังที่ก็เปลี่ยนไปบางจุดจากบอลโลก แต่แนวรุกยังคงเดิมที่ โคดี้ กัคโป, เมมฟิส เดอปาย, เว้าท์ เวกฮอร์สท์ หรือ ดอนเยลล์ มาเลน
ฝั่งตราไก่ ฝรั่งเศส ที่ยังคงปักหลักอยู่กับ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ (est.2012) ต่อไปตามเดิม เสียตัวเจ็บไปหลายรายจนไม่อยู่ในทีมชุดนี้ เพียงแต่แทบทั้งหมดก็ยังเป็นขุนพลชุดรองแชมป์โลกอยู่นั่นเอง โดยมีการตั้งกัปตันทีมคนใหม่แล้วด้วยเป็นตัวจี๊ดอย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงวัย 24 (จนเกิดดราม่าขึ้นเล็กๆ มีข่าวว่า อองตวน กรีซมันน์ ไม่พอใจหนัก)
น่าสนใจสุดคือ เกมประเดิมสนามคืนศุกร์ 24 นี้ ฝรั่งเศส จะพะบู๊กับ เนเธอร์แลนด์ ทันทีเลย ที่ สต๊าด เดอ ฟร้องซ์
โปรแกรมเดือนนี้
24 มีนาคม ฝรั่งเศส v เนเธอร์แลนด์, ยิบรอลตาร์ v กรีซ
27 มีนาคม เนเธอร์แลนด์ v ยิบรอลตาร์, ไอร์แลนด์ v ฝรั่งเศส
รอบคัดเลือก กลุ่ม C
อิตาลี (X), อังกฤษ, ยูเครน, มาซิโดเนียเหนือ, มอลต้า
กลุ่มที่อยู่ในการจับตาของคอบอลทั่วทั้งโลก เมื่อนอกจากจะเป็นการรีแมตช์นัดชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 ระหว่าง อิตาลี กับ อังกฤษ แล้ว ยังน่าลุ้นน่าเชียร์ว่าแชมป์เก่าอย่าง อิตาลี จะเข้ารอบสุดท้ายงวดนี้ได้หรือไม่ ภายหลังพลัดตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกมาถึง 2 ทัวร์นาเมนต์ติดจนแฟนๆ อึ้งไปตามๆ กัน
โรแบร์โต้ มันชินี่ ยังคงนั่งเก้าอี้กุนซืออัซซูร์รี่ต่อเนื่องมาจากปี 2018 และขุมกำลังส่วนใหญ่ก็ยังมาเดิมๆ จากชุดตกคัดบอลโลก เมื่อต้องถือว่าตัวเลือกดีๆ ของอิตาลีชุดนี้มีจำกัด ในสถานการณ์ที่ตัวเด็ดอย่าง เฟเดริโก้ เคียซ่า หรือ มอยเซ่ คีน ต่างบาดเจ็บไม่พร้อมรับใช้ชาติ
ฝั่งสิงโตคำราม อังกฤษ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่ยังคงต้องตามหาแชมป์เมเจอร์แรกถัดจาก 1966 ต่อไป เตรียมประเดิมสนามคืนพฤหัสบดีนี้ด้วยการเจอของแข็งสุดอย่าง อิตาลี ซึ่งต้องถือว่าแบบรวมของขุมกำลัง อังกฤษ ดูเหนือกว่า ด้วยนักเตะพรีเมียร์ลีกที่คุ้นหูคุ้นตาทั้งหมด ขาดไปเพียง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เมสัน เมาท์ ที่บาดเจ็บ และ/หรือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ไม่ถูกเรียกติดธง
โปรแกรมเดือนนี้
23 มีนาคม อิตาลี v อังกฤษ, มาซิโดเนียเหนือ v มอลต้า
26 มีนาคม อังกฤษ v ยูเครน, มอลต้า v อิตาลี
รอบคัดเลือก กลุ่ม D
โครเอเชีย (X), เวลส์, อาร์เมเนีย, ตุรกี (X), ลัตเวีย
กลุ่มที่อาจอยู่นอกสายตาแฟนๆ สักหน่อย เมื่อดูเหมือนว่า โครเอเชีย (ที่ 3 บอลโลก 2022) จะไม่มีคู่ต่อสู้สมน้ำสมเนื้อสักเท่าใด โดยเฉพาะเมื่อ เวลส์ มาถึงเวลาที่ต้องผลัดใบอีกครั้ง เมื่อพระเอกอย่าง แกเร็ธ เบล แขวนสตั๊ดเลิกเล่นแล้ว ส่วน โจ อัลเลน กับ คริส กันเตอร์ ก็รีไทร์ตัวจากทีมชาติ
แล้วก็ไม่รู้บังเอิญหรือไม่ กับโปรแกรมที่กำหนดให้ โครเอเชีย ฟัดกับ เวลส์ เป็นเกมแรกพอดี คืนเสาร์นี้ 25 มี.ค.
สำหรับกลุ่มนี้ โครเอเชีย กับ ตุรกี มีการันตีเพลย์ออฟ ไม่ว่าจะจบอันดับใดก็ตาม
โปรแกรมเดือนนี้
25 มีนาคม อาร์เมเนีย v ตุรกี, โครเอเชีย v เวลส์
28 มีนาคม ตุรกี v โครเอเชีย, เวลส์ v ลัตเวีย
รอบคัดเลือก กลุ่ม E
โปแลนด์, สาธารณรัฐเช็ก, อัลเบเนีย, หมู่เกาะแฟโร, มอลโดวา
กลุ่มนี้ เล่นกันอย่างแฟร์ๆ ไม่มีใครการันตีเพลย์ออฟไว้ล่วงหน้า แต่ก็หมายถึงว่า 2 อันดับแรกเท่านั้นจะได้เข้ารอบสุดท้าย ส่วนที่ 3 ตกรอบตายสนิท
ความเปลี่ยนแปลงน่าสนใจเกิดขึ้นกับ โปแลนด์ ที่คว้าตัว แฟร์นานโด ซานโตส อดีตนายใหญ่ทีมชาติโปรตุเกส เข้ามาทำทีม และพวกเขายังคงมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ นำขบวนเกมรุกต่อไป ในฐานะกัปตันทีมจอมเก๋าวัย 34
โปรแกรมเดือนนี้
24 มีนาคม สาธารณรัฐเช็ก v โปแลนด์, มอลโดวา v หมู่เกาะแฟโร
27 มีนาคม มอลโดวา v สาธารณรัฐเช็ก, โปแลนด์ v อัลเบเนีย
รอบคัดเลือก กลุ่ม F
เบลเยียม, ออสเตรีย, สวีเดน, อาเซอร์ไบจาน, เอสโตเนีย
อีกหนึ่งกลุ่มที่อันดับ 3 จะไม่ได้ไปต่อ แต่ก็ค่อนข้างชัดว่า 2 โควตาเข้ารอบสุดท้าย มี เบลเยียม กับ สวีเดน ที่จับจองอยู่แล้ว ทีมอื่นถือเป็นแค่ตัวสอดแทรก
เบลเยียม มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังล้มเหลวหนักกับฟุตบอลโลก 2022 ชนิดตกรอบแรก โดยได้กุนซือใหม่เป็น โดเมนิโก้ เทเดสโก้ โค้ชอิตาเลียนที่เคยคุม ชาลเก้, สปาร์ตัก มอสโก และ แอร์เบ ไลป์ซิก มาก่อน ขณะที่ขุมกำลังก็เปลี่ยนไม่น้อยเลย เอแด็น อาซาร์ รีไทร์แล้ว, ธอร์แกน อาซาร์ - ดิว็อค โอริกี - ดรีส เมอร์เทนส์ - อักเซล วิตเซล - ยูรี่ ตีเลอมันส์ ไม่ติดทั้งหมด โดยรายหลังสุดหลุดเพราะเจ็บ
ปีศาจแดงแห่งยุโรป จะนำโดย เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู, เลอันโดร ทรอสซาร์ ต่อไป
ด้าน สวีเดน ก็สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย กับการอัญเชิญพ่อปู่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ในวัย 41 พรรษา (เล่นทีมชาติ 121 นัดซัด 62 ประตู) กลับมาสู่ทำเนียบทีมชาติอีกครั้ง ภายหลังกลับมาฟิตสมบูรณ์ดีแล้วกับ เอซี มิลาน ในช่วงหลัง
เรียกว่า อิบราฮิโมวิช สามารถถูกเรียกว่า "พ่อจ๋า" ได้เลย จากนักเตะอย่าง แอนโธนี่ อีลันก้า (20) หรือ เดยัน คูลูเซฟสกี้ (22) ที่อยู่ในทีมชุดนี้เช่นกัน
โปรแกรมเดือนนี้
24 มีนาคม ออสเตรีย v อาเซอร์ไบจาน, สวีเดน v เบลเยียม
27 มีนาคม ออสเตรีย v เอสโตเนีย, สวีเดน v อาเซอร์ไบจาน
รอบคัดเลือก กลุ่ม G
ฮังการี, เซอร์เบีย (X), มอนเตเนโกร, บัลแกเรีย, ลิธัวเนีย
กลุ่มที่น่ามองข้ามที่สุดกลุ่มหนึ่ง แต่ก็มีความคลาสสิกในตัวเองอยู่กับการดวลกันเองในกลุ่มชาติยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะ เซอร์เบีย กับ มอนเตเนโกร ที่จะได้ฟัดกันอีกหนหลังแยกตัวออกจากกัน (2007)
สำหรับพี่ใหญ่สุดอย่าง เซอร์เบีย เป็นชุดคล้ายๆ เดิมจากฟุตบอลโลก 2022 นำโดย อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช, ดูซาน วลาโฮวิช, ดูซาน ทาดิช และ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช เช่นเคย
โปรแกรมเดือนนี้
24 มีนาคม บัลแกเรีย v มอนเตเนโกร, เซอร์เบีย v ลิธัวเนีย
27 มีนาคม ฮังการี v บัลแกเรีย, มอนเตเนโกร v เซอร์เบีย
รอบคัดเลือก กลุ่ม H
เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, สโลวีเนีย, คาซัคสถาน (X), ไอร์แลนด์เหนือ, ซาน มารีโน่
หนึ่งใน 3 กลุ่มสุดท้ายที่มีสมาชิก 6 ชาติ แย่งกันเพื่อตั๋วเข้ารอบ 2 ใบ โดยกลายเป็นว่าทีมอย่าง คาซัคสถาน มีการันตีเพลย์ออฟในมือ ต่อให้จบที่บ๊วยก็ยังได้ไปต่อ
ค่อนข้างชัดว่า เดนมาร์ก ยืนนำหน้าแบบเดี่ยวๆ ในกลุ่มนี้ โดยไม่มีคู่แข่งรายใดน่าหนักใจนัก โดยทีมโคนมของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ เปลี่ยนทีมพอควรจากชุดลุยบอลโลก โดยต้องขาดทั้ง คริสเตียน เอริคเซ่น, แคสเปอร์ โดลเบิร์ก และ เจสเปอร์ ลินด์สตรอม ที่บาดเจ็บ แต่พวก ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, มาร์ติน เบรธเวท, มิคเคล ดัมส์การ์ด รวมถึง ซิมอน เคียร์ กับ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ก็ยังอยู่ตามเดิม
อย่างไรก็ตาม ถ้าฟอร์มยังฟุบเหมือนที่เตะ 3 นัดชนะใครไม่ได้ (เสมอ 1 แพ้ 2) ในบอลโลกที่กาตาร์ เดนมาร์ก ก็เสียวจะร่วงคัดเลือกเอาได้เหมือนกัน
โปรแกรมเดือนนี้
23 มีนาคม คาซัคสถาน v สโลวีเนีย, เดนมาร์ก v ฟินแลนด์, ซาน มารีโน่ v ไอร์แลนด์เหนือ
26 มีนาคม คาซัคสถาน v เดนมาร์ก, สโลวีเนีย v ซาน มารีโน่, ไอร์แลนด์เหนือ v ฟินแลนด์
รอบคัดเลือก กลุ่ม I
สวิตเซอร์แลนด์, อิสราเอล (X), โรมาเนีย, โคโซโว, เบลารุส, อันดอร์ร่า
สถานการณ์ดูคล้ายกลุ่ม H ว่า สวิตเซอร์แลนด์ เด่นกว่าใครเพื่อน และถ้าไม่เตะหลุดกันไปเองก็น่าจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ในที่สุด
ทัพนาฬิกาเวลานี้ยังคุมโดย มูรัต ยาคิน และขุมกำลังก็แทบไม่เปลี่ยนจากชุดตกรอบ 2 บอลโลก เว้นแค่ เซอร์ดาน ชากิรี่ กับ ฟาเบียน ชาร์ ที่บาดเจ็บพอดี
โปรแกรมเดือนนี้
25 มีนาคม เบลารุส v สวิตเซอร์แลนด์, อิสราเอล v โคโซโว, อันดอร์รา v โรมาเนีย
28 มีนาคม โคโซโว v อันดอร์รา, โรมาเนีย v เบลารุส, สวิตเซอร์แลนด์ v อิสราเอล
รอบคัดเลือก กลุ่ม J
โปรตุเกส, บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า (X), ไอซ์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, สโลวาเกีย, ลิกเตนสไตน์
กลุ่มสุดท้าย และเป็นกลุ่มที่มี 6 ทีมเช่นกัน โดยมีเพียง บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า ที่การันตีเพลย์ออฟไว้ในมือ
ตัวเต็งอย่าง โปรตุเกส (แชมป์ยูโร 2016) อาจต้องเจอแรงเสียดทานจาก บอสเนียฯ, ไอซ์แลนด์ หรือ สโลวาเกีย อยู่บ้าง แต่โดยมาตรฐานแล้ว ถ้าไม่แชมป์กลุ่มก็ถือว่าน่าผิดหวัง
ทัพฝอยทองมีการเปลี่ยนแปลงเยอะทีเดียว ตั้งแต่ตัวกุนซือที่ แฟร์นานโด ซานโตส สละเก้าอี้ไป และเป็น โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ โค้ชสแปนิช อดีตนายใหญ่ทีมชาติเบลเยียม มารับช่วงต่อ ขณะที่ขุมกำลังก็มีปรับอย่างน้อย 5-6 จุดจากบอลโลก
กระนั้น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เล่นทีมชาติ 196 นัดซัด 118 ประตู) ที่ผละจากลีกยุโรปไปเปิดโลกใหม่ที่ซาอุฯ ในวัย 38 นั้น ยังคงนำทีมมาในฐานะกัปตัน...ส่วนจะได้เป็นตัวจริงเกมไหนไหม ก็ค่อยว่ากันอีกที