สายลมที่พัดผ่าน : 8 ชาติหัวแถวยุโรป ควรปรับเปลี่ยนอะไร หรือเปลี่ยนแปลงตรงไหนไปบ้างแล้ว หลังจบ ยูโร 2024 - FEATURE

• ยูโร 2024 สิ้นสุดลงแล้วอย่างสมบูรณ์
• ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะกลายเป็นเรื่องเล่า
• ที่น่าจับตาคือเรื่องต่อจากนี้ กับ 8 ชาติหัวแถวยุโรป ว่าควรปรับเปลี่ยนอะไร หรือเปลี่ยนแปลงตรงไหนไปแล้วบ้าง
Spain EURO 2024 Trophy Parade
Spain EURO 2024 Trophy Parade / Gonzalo Arroyo Moreno/GettyImages
facebooktwitterreddit

ยูโร 2024 ที่เยอรมนี สิ้นสุดลงแล้วอย่างสมบูรณ์ กับฉากจบที่ สเปน ขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์ได้อีกครั้ง ทิ้งให้ อังกฤษ น้ำตานองอาบสองแก้มตามเดิม ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะกลายเป็นเรื่องเล่า เป็นตะกอนตกค้างในลิ้นชักความทรงจำ ฉะนั้น ที่น่าจับตาคือเรื่องต่อจากนี้ กับบรรดา 8 ชาติหัวแถวยุโรป ว่าควรปรับเปลี่ยนอะไรเป็นลำดับถัดไป หรือเกิดความเปลี่ยนแปลงตรงไหนไปแล้วบ้าง

สเปน

ไม่แน่ชัดว่าจนป่านนี้ บรรดาดาวเตะกระทิงดุจะ "เดินสาย" ฉลอง 7 วัน 7 คืน เสร็จสิ้นแล้วหรือยัง ให้หลังจากชัยชนะเหนือ อังกฤษ 2-1 เมื่อวันอาทิตย์

แต่แม้จะยังเมาได้ไม่สิ้นสุด ความเปลี่ยนแปลงก็เริ่มมาเยือน สเปน บ้างแล้วทีละจุด

เบื้องต้น เป็นการย้ายค่ายของหัวหอกกัปตันทีมอย่าง อัลบาโร่ โมราต้า ที่ยืนยันจากปากตัวเองแล้วว่าจะย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด ไปสู่ เอซี มิลาน

ส่วนในสถานการณ์ทีมชาติ ด้วยวัย 31 ก็นับว่ายังไม่สูงวัยเกินกว่าที่ โมราต้า จะไปต่อ โดยเฉพาะกับ ฟุตบอลโลก 2026

แต่คนที่เข้าข่ายจะไม่ได้ไปต่อ คือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีทั้ง โฆเซลู (34), นาโช่ เฟร์นานเดซ (34) และ เฆซุส นาบาส (38) ในขณะที่ ดานี่ การ์บาฆัล (32) ดูยังฟิตปั๋ง ไปต่อไหวกับทัวร์นาเมนต์ถัดไป

กระนั้น ที่กำลังเป็นที่จับตา คือกระแสข่าวที่ว่า หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ยอดกุนซือวัย 63 ผู้พา สเปน ขึ้นบัลลังก์แชมป์งวดนี้นั้น อาจตัดสินใจ "ลงจากหลังกระทิง" สละเก้าอี้ไปอย่างช็อควงการ

เรื่องของเรื่องมาจากสื่ออเมริกันอย่าง Washington Post ที่อ้างว่า ตัวแทนของ เด ลา ฟวนเต้ มีการติดต่อกับ สหพันธ์ฟุตบอลลุงแซม เพื่อยืนยัน "ความสนใจ" ในงานคุมทีมชาติ สหรัฐอเมริกา ที่เก้าอี้กำลังว่างอยู่ ภายหลังทีมพญาอินทรีสั่งปลด เกร็ก เบอร์ฮัลเตอร์ พ้นตำแหน่งไปจากการทำทีมตกรอบแรก โคปา อเมริกา 2024

แม้ เด ลา ฟวนเต้ จะยังเหลือสัญญาคุม สเปน จนถึง ฟุตบอลโลก 2026 แต่รายงานก็อ้างว่า เจ้าตัวอาจเลือกชอยส์ลาออกด้วยตัวเอง เมื่อพาทีมประสบความสำเร็จสูงสุดไปเรียบร้อย และทาง USA เองก็อยากได้โค้ชระดับท็อปไปกุมบังเหียน เพื่อนำทีมลุย ฟุตบอลโลก 2026 ในฐานะหนึ่งในชาติเจ้าภาพด้วย

แน่นอนว่าเรื่องของขุมกำลัง การนำโดยปีกดาวรุ่งสองฝั่งอย่าง ลามีน ยามัล & นิโก้ วิลเลี่ยมส์ อาจจะทำให้ สเปน ไปต่อได้ยาวๆ โดยไม่เปลี่ยนโฉมนัก แต่ถ้า เด ลา ฟวนเต้ สละเก้าอี้ตามข่าวขึ้นมา ก็น่าจับตาว่าใครกันจะเข้ามาแทน และก้าวเดินของกระทิงตัวนี้จะเป็นไปแบบไหนอย่างไร

Spanish football team celebrates in Madrid after Spain wins Euro 2024 against England
Spanish football team celebrates in Madrid after Spain wins Euro 2024 against England / Anadolu/GettyImages

อังกฤษ

เรียบร้อยโรงเรียนสิงโต กับความเปลี่ยนแปลงหลักใหญ่ใจความ ที่มาถึงในเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังอัพโหลดงานเขียนเรื่อง "อีกนานไหม" ลงเว็บไซต์ไปวานนี้

ห่างกันเพียงเส้นยาแดง ระหว่าง "เซอร์ แกเร็ธ เซาธ์เกต" กับการเป็น "อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ"

ที่สุดแล้ว ประตูของ มิเกล โอยาร์ซาบัล ก็ขีดเส้นชีวิตให้ เซาธ์เกต ตกไปสู่ตัวเลือกที่ 2

เท่ากับแน่นอนที่สุดว่า ประเด็นที่ต้องจับตากันต่อ ก็คือ "ใครกัน" จะขึ้นขี่หลังสิงโต

สารพัดรายชื่อถูกพูดถึง ทั้งที่ดูเป็นไปได้และไม่น่าเป็นไปได้

เอาเป็นว่าไปเช็คอัตราพูลล่าสุดกันหน่อย เมื่อเรตเหล่านี้เองก็เป็นตัวที่บอกว่า โค้ชรายไหนมีโอกาสถูก เอฟเอ เลือกจิ้มเข้ามา มากที่สุด

  • เรตกุนซือใหม่ อังกฤษ จาก วิลเลี่ยม ฮิลล์
    2/1 - เอ๊ดดี้ ฮาว
    5/2 - เกรแฮม พ็อตเตอร์
    3/1 - ลี คาร์สลี่ย์
    7/1 - เยอร์เก้น คล็อปป์
    10/1 - เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
    10/1 - แฟร้งค์ แลมพาร์ด
    16/1 - โธมัส ทูเคิ่ล
    25/1 - เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
    33/1 - โชเซ่ มูรินโญ่
    33/1 - โยอัคคิม เลิฟ
    40/1 - ไมเคิ่ล คาร์ริค
    50/1 - สตีเว่น เจอร์ราร์ด
    50/1 - เวย์น รูนี่ย์
    50/1 - มาร์เซโล่ บิเอลซ่า

อันที่จริง ก็คงตัด "ชอยส์ล่อแมงเม่า" ตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลงไป ได้เลย เมื่อพิจารณาชื่อแต่ละคน ถ้าไม่ติดงานเก่าของตัวเองอยู่แล้ว ก็ "ด๋อย" เกินไปที่ อังกฤษ จะพึ่งพา

เพราะฉะนั้น ที่พอจะเป็นไปได้ ก็คงอยู่ที่ตัวเต็ง 4-5 คนแรก

และงานนี้ "วงใน" ท่านว่า เอฟเอ มีสิทธิ์เลือกคนใกล้ตัว ผลักดันทีมงานจากชุดเยาวชน ยู-21 ขึ้นมา เหมือนที่เคยทำกับ เซาธ์เกต และก็เหมือนที่ สเปน ประสบความสำเร็จด้วยดีกับ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้

ถ้ามาทรงนี้ หวยก็จะออกที่ ลี คาร์สลี่ย์

ลี คาร์สลี่ย์ : อดีตมิดฟิลด์หัวเหม่งของ เอฟเวอร์ตัน (2002-2008) วัย 50 เกิดที่เบอร์มิงแฮม เป็นอังกฤษทั้งดุ้น แต่เลือกเล่นทีมชาติไอร์แลนด์ (40 นัด) ส่วนเมื่อเลิกเล่นแล้วก็ผ่านประสบการณ์โค้ชของหลายที่ กระทั่งถูกดึงมาคุม อังกฤษ ยู-20 ตามด้วย ยู-21 ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา

คาร์สลี่ย์ ยัง "มีดีกรี" รับรองเสียด้วย กับการพาทัพสิงโตน้อยชุดที่มี โคล พาลเมอร์, แอนโธนี่ กอร์ดอน, เคอร์ติส โจนส์, ลีวาย โคลวิลล์ ครองแชมป์ ยูโร ยู-21 ในช่วงกลางปีที่แล้ว จากชัยชนะเหนือ สเปน 1-0

นี่คือตัวเลือกเพลย์เซฟที่สุดแล้วของ เอฟเอ

จับตาดูกันต่อไปว่าท้ายที่สุดพวกเขาจะเลือกทางไหน ซึ่งเชื่อว่าไม่นานแน่ เนื่องจากคิวเตะ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก คอยท่าอยู่ในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้เท่านั้น

Lee Carsley
England v Spain - UEFA Under-21 Euro 2023 Final / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

ฝรั่งเศส

เริ่มมีการผลัดใบแล้วสำหรับ ฝรั่งเศส โดยคนที่ยืนยันการเลิกเล่นทีมชาติเป็นทางการ คือ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ดาวยิงสูงสุดของชาติ เจ้าของ 57 ประตูจากการรับใช้ชาติ 137 นัด อำลาไปในวัย 37

ที่ยังไม่มีการบอกลา แต่ก็น่าจะอีกไม่ช้า คือคนคู่วัย 33 อย่าง อองตวน กรีซมันน์ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เว้นเสียแต่ว่า ก็องเต้ จะยังไม่อิ่มหนำ พร้อมลุยต่อกับ ฟุตบอลโลก อีกสักสมัย

ขุมกำลังเริ่มเปลี่ยนไปตามกาล

แต่ที่ "อยู่ยันลูกบวช" คือตัวกุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์

แอฟแอฟแอฟ ประกาศชัดในเพียงแทบจะรุ่งขึ้นหลังจากตกรอบตัดเชือกยูโร ว่า เดส์ชองส์ จะได้อยู่ทำทีมต่อไปจนถึง ฟุตบอลโลก 2026 แม้ในตอนนี้จะถือเป็นกุนซือระดับนานาชาติ ที่อยู่คุมทีมยาวนานที่สุดคนหนึ่ง แล้วก็ตาม

เริ่มต้นตั้งแต่กลางปี 2012 และ เดส์ชองส์ คุมทีมลงสนามแล้ว 159 เกม ชนะ 101 เสมอ 33 แพ้ 25 ได้แชมป์โลก 1 สมัย (2018) รองแชมป์ 1 หน (2022) และรองแชมป์ ยูโร 1 หนเช่นกัน (2016)

ส่วนการตกรอบตัดเชือก ยูโร ที่เมืองเบียร์นี่ แอฟแอฟแอฟ ถือว่าให้อภัยได้

ปีที่ 14 และ 15 บนเก้าอี้ตราไก่ของ เดส์ชองส์ จะเป็นไปอย่างไร เชิญรับชมไปพร้อมๆ กัน...

FBL-EURO-2024-ESP-FRA-DEPARTURE
FBL-EURO-2024-ESP-FRA-DEPARTURE / FRANCK FIFE/GettyImages

เนเธอร์แลนด์

"ดีแล้ว แต่ยังดีไม่พอ" คงเป็นนิยามของ เนเธอร์แลนด์ ที่ร่วงตกรอบตัดเชือกจากการแพ้ อังกฤษ ช่วงทดเจ็บ ซึ่งก็อาจถือได้ว่ามาไกลเกินคาดแล้ว เมื่อดูจากความคาดหวังในตอนตั้งต้น

เพราะฉะนั้น โปรเจ็กต์ของทีมกังหันที่มีร่วมกับ โรนัลด์ คูมัน ก็คงไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน

เช่นเดียวกับเรื่องขุมกำลังนักเตะ ที่สำคัญๆ และน่าต้องเปลี่ยนเร็วๆ นี้ มีแค่แนวรับ คู่เซนเตอร์อย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ - สเตฟาน เดอ ฟราย ที่รายแรก 33 รายหลัง 32

ส่วนภาพรวม จัดเป็นทีมอายุน้อยที่ยังมีอนาคตอีกไกล รวมถึงพวกที่เดี้ยงอดไปยูโรอย่าง เฟรงกี้ เดอ ยอง หรือ เทน ค็อปไมเนอร์ส เมื่อถึงเวลาที่พร้อม ก็จะกลับมาสมทบ

อย่างไรก็ตาม จุดหนึ่งที่ เนเธอร์แลนด์ คงต้องหวังให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้นหน่อย ก็คือกองหน้าตัวเป้า ที่ชุดนี้ เมมฟิส เดอปาย ทื่อไปหน่อย และตัวสลับอย่าง วู้ท เวกฮอร์สท์ ก็ฝากความหวังได้ไม่เต็มที่ (ในขณะที่ โคดี้ กัคโป หนึ่งในดาวซัลโวยูโร เวิร์คแล้วกับการยืนทางซ้าย)

บางที อาจต้องรอเวลาให้ "โยชัว เซิร์คเซ" เบ่งบานขึ้นมาเป็นเบอร์ 9 ของพวกเขา

ซึ่งแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คงยินดีเป็นอย่างยิ่ง ถ้าการณ์จะเกิดขึ้นตามนี้จริง

เยอรมนี

เห็นเพิ่งคว้าแชมป์โลกมาเมื่อปี 2014 แต่เผลอแวบเดียว มันก็ผ่านมาสิบปีแล้ว

ส่วน ยูโร ไม่ต้องพูดถึง เมื่อแชมป์ล่าสุดถูกแช่แข็งไว้ตั้งแต่ 1996 โน่นเลย

การตกรอบครั้งนี้ในบ้านตัวเอง มองมุมหนึ่งคือเป็นเรื่องโชคร้าย ที่โดนทีเด็ดของ มิเกล เมริโน่ เข้าให้ตอน น.119 แต่อีกมุมหนึ่ง ก็คือความล้มเหลว กับการไปได้แค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ เพิ่งเข้าทำทีมก่อนหน้า ยูโร หนนี้แค่ 7-8 เดือน ดังนั้นจึงยังจะไปต่อกับงานนี้อีกยาวๆ

ที่น่าสนใจคือนักเตะ ใครจะเข้าใครจะออกจากทัพอินทรีเหล็กบ้าง

ณ ตอนนี้ โธมัส มุลเลอร์ ประกาศรีไทร์เป็นทางการแล้วในวัย 34 ตามหลัง โทนี่ โครส (34 เช่นกัน) ที่เล่นเกมสุดท้ายของตัวเองไปแล้วในเกมแพ้ สเปน

ที่อยู่ในข่ายพิจารณาตัวเอง ยังมีทั้ง มานูเอล นอยเออร์ ในวัย 38, อิลคาย กุนโดกัน 33, ปาสกาล โกรสส์ 33 หรือประตูมือสาม โอลิเวอร์ เบามันน์ 34

ส่วนที่แฟนๆ อยากให้มีการพิจารณาอย่างจริงจัง คือการใช้งาน ไค ฮาแวร์ตซ์ ในตำแหน่งหน้าเป้า ที่ชัดเสียยิ่งกว่าชัด ว่าไม่เวิร์ค

แต่จะมีการปรับเปลี่ยนเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ดูกันต่อไปใน เนชั่นส์ ลีก อีก 2 เดือนข้างหน้า

Toni Kroos, Joshua Kimmich
Spain v Germany: Quarter-Final - UEFA EURO 2024 / Markus Gilliar - GES Sportfoto/GettyImages

โปรตุเกส

ประเด็นอยู่ที่ 2 ผู้เฒ่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ & เปเป้

คุณปู่ เปเป้ เข้าใจว่าเดี๋ยวก็คงมีประกาศ คงไม่ฝืนไปต่อ ภายหลังทำสถิติแข้งสูงวัยสุดแห่งยูโร 41 ปีกับ 113 วัน เอาไว้

แต่สำหรับ โรนัลโด้ แม้ร่างกายจะฟิตเหนือมนุษย์ ยังสามารถไปต่อได้อีกอย่างน้อยกับ ฟุตบอลโลก 2026

แต่เรื่อง "คุณภาพการเล่น" ต่างหากที่เป็นปัญหา

เพราะบทสรุปของ ยูโร 2024 สำหรับ CR7 คือการยิงไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว จากโอกาสจบทั้งหมด 23 ครั้ง...ที่ตรงกรอบแค่ 9 หนเท่านั้น

ชัดเจนว่า โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ไว้วางใจในตัวดาวยิงวัย 39 เกินไปหน่อย จนทำให้ตัวเลือกกองหน้าดีๆ ที่มีอยู่ มีโอกาสลงเล่นน้อยมากในยูโรหนนี้

  • เทียบกับ โรนัลโด้ ที่ได้เล่นรวม 486 นาที...
    เปโดร เนโต้ 121 นาที
    ชูเอา เฟลิกซ์ 105 นาที
    ดีโอโก้ โชต้า 97 นาที
    กอนซาโล่ รามอส 24 นาที

อันที่จริง ถ้าจะให้ดีที่สุด โรนัลโด้ ควรต้องเปิดหมวกอำลาไปเองได้แล้ว

กับทุกความสำเร็จที่ผ่านมา แม้อาจยังขาดแชมป์โลก แต่ โรนัลโด้ ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าอะไรเพิ่มอีกแล้ว ฝืนไปก็มีแต่จะโดนด่าเปล่าๆ

Portugal v France: Quarter-Final - UEFA EURO 2024
Portugal v France: Quarter-Final - UEFA EURO 2024 / Anadolu/GettyImages

เบลเยียม

เข้าสู่ช่วงผลัดใบตั้งแต่จบ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ร่วงแค่รอบแรก

ก็ไม่น่าแปลกใจที่ เบลเยียม จะดีดตัวเองหลุดจาก ยูโร 2024 แค่รอบ 16 ทีม เมื่อโชคชะตาขีดให้มาเจอของแข็งอย่าง ฝรั่งเศส ตั้งแต่เนิ่นๆ

ณ ตอนนี้ ยังไม่มีการยืนยันอะไรจากขุนพลของพวกเขา แต่ก็พอคาดเดาได้ว่าอีกไม่นานหรอก...

  • อักเซล วิตเซล - 35
    เควิน เดอ บรอยน์ - 32
    โธมัส มูนิเยร์ - 32
    มัตซ์ เซลซ์ - 32
    โคเอน คาสตีลส์ - 32

แม้กระทั่ง โรเมลู ลูกากู อาจยังใช้งานได้ต่อกับอายุอานาม 31 แต่เรื่องคุณภาพฝีเท้านั่นต่างหากที่เป็นปัญหา

ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นแน่ ก็ขอให้จับตาดูพวกเขาไปพร้อมกัน

พร้อมทำใจยอมรับว่า โกลเด้น เจเนอเรชั่น ผ่านพ้นไปแล้ว ที่เหลืออยู่อาจมีแค่ "ทรง" กับ "ทรุด" เท่านั้นเอง

France v Belgium: Round of 16 - UEFA EURO 2024
France v Belgium: Round of 16 - UEFA EURO 2024 / Qian Jun/MB Media/GettyImages

อิตาลี

ปิดท้ายกับทีมที่ทำตัวได้น่าผิดหวังที่สุดใน ยูโร 2024 อย่าง อิตาลี ซึ่งตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างไม่ใยดี แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ แบบสู้ไม่ได้ 0-2

ที่กลับปรากฏว่า...

ขอบคุณครับ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ยังได้ไปต่อ!

กาบริเอเล่ กราวิน่า ประธานเอฟไอจีซี ยืนยันจากปากตัวเอง "ภายหลังการคุยกับเขาเป็นเวลานาน ผมคิดว่ามันไม่มีเหตุผลที่เราจะเลือกแก้ปัญหาด้วยการรื้อแผนการระยะยาว หลังจากผ่านไปแค่ 8-9 เดือน"

และแม้เจ้าตัว สปัลเล็ตติ จะยอมรับต่อข้อผิดพลาดในการตกรอบเร็ว ก็ยังอ้างว่าตัวเขา "ไม่มีเวลามากพอ" ในการเตรียมความพร้อมลุยรายการใหญ่ -- แม้ข้อเท็จจริงคือการได้เข้านั่งเก้าอี้ก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่มต้นถึง 9 เดือน (เริ่มงาน 1 ก.ย. 2023) ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟนๆ บอลเลี่ยนที่ไม่ต้องการ สปัลเล็ตติ อีกแล้ว ก็คงต้องขอให้รอต่อไปอีกแค่ "ไม่นานนัก" ด้วยสัญญาที่ทำไว้จนถึง ฟุตบอลโลก 2026 ก็หมายความว่าถ้า อิตาลี ยังคงล้มเหลวขึ้นมาอีก ไม่ต้องสงสัยว่าได้มีการเปลี่ยนตัวกุนซือชัวร์ๆ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องของขุมกำลัง ก็พอมองได้ว่าน่าจะมีการสลับปรับเปลี่ยนในหลายๆ จุด เมื่อคนที่สอบผ่านใน ยูโร 2024 สำหรับทัพอัซซูร์รี่ มีแค่หยิบมือเท่านั้น

แต่ก็อีกนั่นแหละ ปัญหาของ อิตาลี นาทีนี้เป็นเสมือนแผลลุกลามและเรื้อรัง กับการที่ไม่สามารถสร้าง "ยอดดาวเตะ" ขึ้นมาได้เหมือนในยุคก่อนๆ ส่งผลโดยตรงถึงทีมชาติ ที่ไม่มีตัวเก่งๆ ให้พึ่งพานั่นเอง

การสางปัญหาเรื่องนี้ คงต้องใช้เวลา แต่จะต้องรอนานแค่ไหน ใครเล่าจะรู้...

Luciano Spalletti
Switzerland v Italy: Round of 16 - UEFA EURO 2024 / Masashi Hara/GettyImages

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในศึก ยูโร 2024 ได้ที่นี่

feed