แมนยู - ลิเวอร์พูล และทีมใหญ่ พรีเมียร์ลีก ออกทัวร์ปรีซีซั่น ซัมเมอร์ 2024 ที่ไหน และเจอกับใครบ้าง - FEATURE
• ลิเวอร์พูล ก็เริ่มแล้วเช่นกัน แต่ยังถือเป็นเกม 0.5
• โปรแกรมปรีซีซั่นของทั้งผีและหงส์ รวมถึงทีมใหญ่ พรีเมียร์ลีก เป็นแบบไหน ไปชม
แม้ว่ากลางสัปดาห์นี้ มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ อย่าง โอลิมปิก เกมส์ "ปารีส 2024" จะถึงคราวเริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่โฟกัสของคอบอล คงอยู่ในระดับสโมสรกันเสียมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการทยอยเริ่มต้นคิวเตะปรีซีซั่นของบรรดาทีมแม่เหล็ก ไม่ว่าจะ แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้ หรือทีมใดก็ตาม โอกาสนี้ ไปสำรวจโปรแกรมปรีซีซั่นของบรรดาทีมใหญ่ พรีเมียร์ลีก กันหน่อย ว่าเป็นแบบไหนอย่างไร
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- 15/07 แพ้ โรเซนบอร์ก 0-1 (นอร์เวย์)
20/07 ชนะ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 2-0 (สกอตแลนด์)
27/07 พบ อาร์เซน่อล (สหรัฐอเมริกา)
31/07 พบ เรอัล เบติส (สหรัฐอเมริกา)
03/08 พบ ลิเวอร์พูล (สหรัฐอเมริกา)
10/08 พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (คอมมิวนิตี้ ชิลด์)
ปีศาจแดงยุคคิดใหม่ทำใหม่ (แม้ยังเป็นกุนซือเก่า เอริค เทน ฮาก) ภายใต้ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ เริ่มต้นเร็วกว่าใคร และวางโปรแกรมเอาไว้พอเหงื่อออกที่ 5 นัด ในการตระเวนออกทัวร์ที่ นอร์เวย์, สกอตแลนด์ และ สหรัฐอเมริกา
ถัดจากการเปิดหัวแพ้ โรเซนบอร์ก (ด้วยทีมสำรองและเด็กๆ) 0-1 แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งลงเล่นเกมที่ 2 ด้วยการเอาชนะ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส จากประตูของ อาหมัด ดิยัลโล่ และ จอร์แดน ฮูกิลล์ ที่อาจก้าวขึ้นมาแทนที่ เมสัน กรีนวู้ด ในฐานะเด็กปั้นตัวจบสกอร์คนใหม่
ที่แฟนๆ คงอยากเห็น คือทริปทัวร์แดนลุงแซม ซึ่งเป็นโปรแกรมเด็ด "พรีเมียร์ลีกนอกรอบ" อย่างการดวลเดือด อาร์เซน่อล ที่แคลิฟอร์เนีย ช่วงเช้าวันอาทิตย์ 28 ส.ค. ตามเวลาไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "แดงเดือด" อเมริกันเวอร์ชั่นกับ ลิเวอร์พูล ที่ เซาธ์ แคโรไลน่า อาทิตย์หน้าโน้น 4 ส.ค.
ที่สำคัญ และต้องนับเป็นหนึ่งในคิวปรีซีซั่นด้วย ก็คือ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2024 ที่ปีศาจแดงในฐานะแชมป์ เอฟเอ คัพ จะดวลกับแชมป์ พรีเมียร์ลีก 4 สมัย และอริตลอดกาลอย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่เวมบลีย์ ตามธรรมเนียม 1 สัปดาห์ก่อนเปิด พรีเมียร์ลีก ซีซั่นใหม่
รอดูกันว่าเมื่อถึงวันนั้น เอริค เทน ฮาก จะมีสมาชิกใหม่มาเพิ่มเติมอีกไหม นอกเหนือจาก โยชัว เซิร์คซี และ เลนี่ โยโร่
และยังน่าสนใจดีเหมือนกันว่า ตลอด 5 ปีหลัง ทีมที่คว้าแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ต่างก็ได้บทสรุปไปไม่ถึงแชมป์ พรีเมียร์ลีก เลยทั้งสิ้น อันรวมถึงปีก่อนที่แชมป์โล่การกุศลชิ้นนี้ตกเป็นของ อาร์เซน่อล ด้วย
ลิเวอร์พูล
- 19/07 แพ้ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ 0-1 (ลิเวอร์พูล)
26/07 พบ เรอัล เบติส (สหรัฐอเมริกา)
31/07 พบ อาร์เซน่อล (สหรัฐอเมริกา)
03/08 พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (สหรัฐอเมริกา)
11/08 พบ เซบีย่า (ลิเวอร์พูล)
ลิเวอร์พูล อยู่ในการจับตาจากทุกฝ่าย ภายใต้กุนซือใหม่ อาร์เน่อ สล็อต ที่มาพร้อมความเสี่ยง กับการที่โค้ชใหม่ของพวกเขา ไม่เคยผ่านประสบการณ์คุมทีมใหญ่รายใดมาก่อนเลย (คัมบูร์ > อาแซด อัล์คมาร์ > เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม)
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในช่วงแรก สล็อต จะเน้นการ "เก็บตัว" ทำความรู้จักกับทุกคนเป็นอย่างแรก และแม้จะเริ่มต้นปรีซีซั่นนัดแรกไปแล้ว แต่ก็ตีเป็นเกม 0.5 ก็ได้ เพราะเป็นแมตช์แบบปิดสนาม ลงเล่นกันในแคมป์ซ้อม และพ่ายต่อ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ 0-1
กลางสัปดาห์นี้ ลิเวอร์พูล จะยกพลออกทริปที่ สหรัฐอเมริกา เพื่อลงเล่นเกมปรีซีซั่น 3 นัด โดยจะเริ่มต้นกับ เรอัล เบติส แล้วตามด้วยเกมใหญ่น่าสนใจกับทั้ง อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล จะปิดท้ายปรีซีซั่น พบ เซบีย่า ในแอนฟิลด์ 1 สัปดาห์ก่อนเปิดสนาม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นใหม่
ที่น่าสนใจอย่างยิ่งนอกเหนือจากการเริ่มต้นยุคใหม่ไปกับ อาร์เน่อ สล็อต แล้ว ก็คือใครกันจะเป็น "ตัวใหม่" ที่ถูกคัดสรรเข้าสู่ แอนฟิลด์ เมื่อถึงตรงนี้ยังคงนิ่ง มีแต่ขาออก ไม่มีขาเข้าแม้แต่รายเดียว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- 23/07 พบ กลาสโกว์ เซลติก (สหรัฐอเมริกา)
27/07 พบ เอซี มิลาน (สหรัฐอเมริกา)
30/07 พบ บาร์เซโลน่า (สหรัฐอเมริกา)
03/08 พบ พบ เชลซี (สหรัฐอเมริกา)
10/08 พบ แมนฯ ยูไนเต็ด (คอมมิวนิตี้ ชิลด์)
เตะน้อยต่อยหนัก เป็นสิ่งที่ แมนฯ ซิตี้ ยุค เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยึดถือมาตลอด และก็ประสบความสำเร็จด้วยดี การันตีด้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก 6 สมัย และ "ทริปเปิ้ลแชมป์" ครั้งประวัติศาสตร์ 1 รอบ
ซีซั่นก่อน เตะปรีซีซั่นแค่ 3 นัด บวก คอมมิวนิตี้ ชิลด์ อีก 1
มาซีซั่นนี้ ก็เตะปรีซีซั่นแค่ 4 เกม บวก คอมมิวนิตี้ ชิลด์ อีก 1 เช่นเคย
ทุกอย่างจะไปเริ่มต้นกันที่สหรัฐอเมริกา พบกับทีมชื่อชั้นน่าสนใจทั้ง เซลติก, เอซี มิลาน และ บาร์เซโลน่า
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเทสต์ระบบกับ เชลซี ยุคใหม่ของ เอ็นโซ มาเรสก้า ต้นเดือนหน้า
ถัดจากเกมใหญ่กับ เชลซี แล้ว ทัพเรือจะมุ่งตรงกลับบ้าน เพื่อลงเล่น คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2024 พบกับคู่อริตลอดกาล แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เวมบลีย์
น่าจับตาอย่างแรกคือฟอร์มในระยะเตรียมพร้อม และอย่างที่สองก็คือการปรับทัพ ว่า เป๊ป จะปรับเปลี่ยนหมากของเขาอย่างไร ภายหลังครองบัลลังก์ พรีเมียร์ลีก มาตลอด 4 ปีหลัง และ ณ ตอนนี้ยังคงไม่มีนักเตะแกนหลักสำคัญรายใดทั้งสิ้นที่ก้าวออกจาก เอติฮัด สเตเดี้ยม
อาร์เซน่อล
- 24/07 พบ บอร์นมัธ (สหรัฐอเมริกา)
27/07 พบ แมนฯ ยูไนเต็ด (สหรัฐอเมริกา)
31/07 พบ ลิเวอร์พูล (สหรัฐอเมริกา)
07/08 พบ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (ลอนดอน)
11/08 พบ โอลิมปิก ลียง (เอมิเรตส์ คัพ)
ทำดีมากแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอให้ก้าวไปถึงแชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่รอคอยมา 20 ปี สำหรับ อาร์เซน่อล ภายใต้การทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า
ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตา, คล้ายกับทางฝั่ง แมนฯ ซิตี้, ก็คือ อาร์เตต้า จะเติมภาพของเขาด้วยจิ๊กซอว์ตัวไหน เพื่อให้พร้อมแย่งชิงบัลลังก์กับทัพเรืออย่างต่อเนื่อง ไม่ตกไปจากระดับที่ได้สร้างไว้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
และเพื่อทดสอบทีมให้พร้อมสำหรับลุยซีซั่นใหม่ อาร์เซน่อล จึงวางคิวปรีซีซั่นเอาไว้ 5 เกม และแต่ละนัดก็ถือเป็นบททดสอบน่าสนใจ โดยเฉพาะการเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ที่สหรัฐอเมริกา
ส่วน เอมิเรตส์ คัพ ประจำปีนี้ ถูกจำกัดไว้แค่เกมเดียว เตะกันพอขำๆ เท่านั้น อาร์เซน่อล จะพบกับ โอลิมปิก ลียง อาทิตย์ 11 ส.ค. ใครชนะก็เอาแชมป์ไป
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
- 17/07 ชนะ ฮาร์ทส์ 5-1 (สกอตแลนด์)
20/07 ชนะ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส 2-0 (ลอนดอน)
27/07 พบ วิสเซิล โกเบ (ญี่ปุ่น)
31/07 พบ รวมดารา เค-ลีก (เกาหลีใต้)
03/08 พบ บาเยิร์น มิวนิค (เกาหลีใต้)
10/08 พบ บาเยิร์น มิวนิค (ลอนดอน)
เริ่มต้นเร็วพอๆ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และเตะผ่าน 2 นัดไปแล้ว ฟอร์มสวยดีทีเดียว ชนะ ฮาร์ทส์ 5-1 และต่อด้วยตบ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส 2-0
ถือว่า สเปอร์ส มีคิวเตะปรีซีซั่นงวดนี้ที่น่าสนใจดีทีเดียว โดยเฉพาะการมาเยือนเอเชีย เตะที่ญี่ปุ่น ที่เกาหลีใต้ และยังจะมีการ "เตะเบิ้ล" เจอกับ บาเยิร์น มิวนิค 2 เกมซ้อน ทั้งที่เกาหลีใต้ และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม
แต่ก็อีกนั่นแหละ สิ่งที่แฟนๆ ไก่เดือยทองอยากเห็น ไม่ใช่ความดีงามในตอนเตรียมความพร้อม แต่เป็นการยืนระยะ สร้างมาตรฐานไปยาวๆ ให้พร้อมสำหรับการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก จริงๆ จังๆ ต่างหาก
หรือไม่ ก็ให้ได้สู้เพื่อติดกลุ่มท็อป 4 ตีตั๋ว ชปล. ก็ยังดี
ภายหลังจากซีซั่นก่อนที่ครองตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ช่วงออกตัว สุดท้าย อันเก้ ปอสเตโคกลู ทำดีที่สุดแค่เข็นเข้าที่ 5 เท่านั้น ดังนั้น ซีซั่นนี้ สิ่งสำคัญสุดก็คือก้าวเดิน "ระยะยาว" นั่นเอง
เชลซี
- 24/07 พบ เร็กซ์แฮม (สหรัฐอเมริกา)
27/07 พบ กลาสโกว์ เซลติก (สหรัฐอเมริกา)
31/07 พบ คลับ อเมริกา (สหรัฐอเมริกา)
03/08 พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (สหรัฐอเมริกา)
06/08 พบ เรอัล มาดริด (สหรัฐอเมริกา)
11/08 พบ อินเตอร์ มิลาน (ลอนดอน)
เชลซี ยุคโค้ชใหม่ (อีกครั้งและอีกครั้ง) เอ็นโซ มาเรสก้า กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ว่าจะกลายไปเป็น "ทีมระดับกลาง" อย่างสมบูรณ์เลยรึเปล่า ให้หลังจากการจบอันดับ 12 และ 6 ในสองซีซั่นหลังสุด
เพราะแม้ว่าปลายซีซั่นก่อน จะฮึดชนะ 5 เกมรวดจนเด้งตัวมาจบที่ 6 แต่ผู้คุมอย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ไม่รอดสันดอนอยู่ดี
เชลซี จะเริ่มปรีซีซั่นครั้งนี้ ที่สหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมลีกอีกหลายราย โดยจะพบกับทีมหลากหลายสายพันธุ์และสารพัดคุณภาพ ไม่ว่าจะลีกเล็กอย่าง เร็กซ์แฮม (ของ DEADPOOL), เซลติก, ทีมเม็กซิโกอย่าง คลับ อเมริกา หรือของแข็งแถวหน้าอย่าง แมนฯ ซิตี้ และ เรอัล มาดริด
ถัดจากการออกทัวร์แดนลุงแซมแล้ว เชลซี จะกลับมาเฝ้าบ้าน เตะกับ อินเตอร์ มิลาน เป็นการเตรียมความพร้อมนัดสุดท้าย ก่อนเปิดสนาม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นใหม่ด้วยการดวล แมนฯ ซิตี้ ในอีก 7 วันให้หลัง