เปิดจุดอ่อน-จุดแข็ง ! ทำความรู้จัก เลนี่ โยโร่ กองหลังป้ายแดงคนใหม่ของ แมนยู - FEATURE
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิดดีลคว้า เลนี่ โยโร่ กองหลังดาวรุ่งจาก ลีลล์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 62 ล้านยูโร
- โยโร่ แสดงเจตนารมณ์อยากจะย้ายไป เรอัล มาดริด แต่เข้าร่วมทีม แมนยู ที่พร้อมจ่ายให้ ลีลล์ มากกว่า
- กองหลังวัย 18 ปี ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ ลีลล์ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา จนได้รับความสนใจจาก ลิเวอร์พูล ด้วย
โดย Asree Samuyae
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้บอร์ดบริหารทำงานกันอย่างว่องไวเมื่อสามารถปิดดีลคว้า เลนี่ โยโร่ กองหลังดาวรุ่งจาก ลีลล์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการเซ็นสัญญารายที่สองของสโมสรซัมเมอร์นี้
แม้แสดงเจตนารมณ์อยากจะย้ายไป เรอัล มาดริด แต่ด้วยการที่ แมนยู พร้อมจ่ายให้ ลีลล์ มากกว่า สุดท้าย โยโร่ ก็เลือกย้ายมาร่วมถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แทนด้วยค่าตัวเบื้องต้น 62 ล้านยูโร และอาจขึ้นไปได้สูงถึง 70 ล้านยูโร ตามเงื่อนไข
เซ็นเตอร์แบ็คดาวรุ่งรายนี้ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับคู่ปรับอย่าง ลิเวอร์พูล ด้วย หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับ ลีลล์ เมื่อฤดูกาล 2023/24 ทำให้แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด รู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสที่จะได้เห็นแข้งมากพรสวรรค์จะปรากฏตัวในโรงละครแห่งความฝันไปอีกหลายปีข้างหน้า
ว่าแต่กองเชียร์แมนยูรู้อะไรเกี่ยวกับ โยโร่ บ้าง ต่อไปนี้คือข้อมูลเบื้องต้นของแนวรับวัย 18 ปี
เลนี่ โยโร่ คือใคร?
โยโร่ เป็นกองหลังที่น่าจับตามอง เซ็นเตอร์แบ็คเจ้าของส่วนสูง 190 ซม. รายนี้เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับ ลีลล์ เมื่อต้นปี 2022 และได้รับโอกาสประเดิมสนามให้ทีมในอีกไม่กี่เดือนต่อมาระหว่างเกมชนะ นีซ 3-1 ด้วยวัยเพียง 16 ปี ทำลายสถิติของ เอแด็ง อาซาร์ จนกลายเป็นแข้งอายุน้อยสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของสโมสร
โยโร่ ค่อย ๆ ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ โดยในฤดูกาล 2022/23 เขาได้ลงเล่นเพียง 15 นัด แบ่งเป็นตัวจริง 10 นัด
เด็กคนนี้มีความพิเศษนิดหน่อย เขาแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับวัย ก่อนจะเป็นกำลังหลักของ ลีลล์ ทันทีเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
ผลงานของ โยโร่ กับลีลล์เมื่อฤดูกาลที่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
ฤดูกาล 2023/24 เพิ่งจะเป็นซีซั่นแรกที่ โยโร่ ได้เล่นเต็มฤดูกาล เขาลงเล่น 32 นัด และเป็นตัวจริง 30 นัดในลีกเอิง เขายกระดับตัวเองอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีม
ภายใต้ผู้จัดการทีม เปาโล ฟอนเซก้า ซึ่งเพิ่งย้ายไปคุมทีม เอซี มิลาน ในซัมเมอร์นี้ ลีลล์ มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมโดยจบอันดับ 4 และผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย ความสำเร็จส่วนหนึ่งของพวกเขามาจากแนวรับที่แข็งแกร่ง โดยมีเพียงสองทีมเท่านั้นที่เสียประตูน้อยกว่า 34 ประตูของพวกเขา หนึ่งในนั้นคือแชมป์อย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่เสีย 33 ประตู
ในการแข่งขันที่ โยโร่ ลงเล่น 60 นาทีหรือมากกว่านั้นในลีกเอิงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ลีลล์ เก็บคลีนชีตได้ 13 ครั้ง และเขายังทำได้อีก 2 ประตูด้วย
โยโร่ ยังเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากฟุตบอลยุโรปในศึกคอนเฟอเรนซ์ลีกอีกด้วย เขาลงเล่น 7 เกม โดยที่ ลีลล์ ผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนแพ้ แอสตัน วิลล่า จากการดวลจุดโทษ
โยโร่ ติดทีมชาติฝรั่งเศสหรือยัง?
โยโร่ มีเวลาเหลือล้นที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกให้ทีมชุดใหญ่ของ ฝรั่งเศส แม้ว่าพวกเขาจะมีตัวเลือกกองหลังที่มีคุณภาพมากมายก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่ได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เลย อย่างไรก็ตาม โยโร่ เป็นขาประจำให้กับทีมเยาวชนของ "ตราไก่" โดยลงเล่นให้ทีมชุด ยู-21 ไปแล้ว 4 นัด
ในตอนแรก โยโร่ ถูกเรียกตัวเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2024 โดย เธียร์รี่ อองรี แต่ถูกปฏิเสธไป เพราะ ลีลล์ อยากให้ช่วยลงแข่งรอบคัดเลือกแชมเปี้ยนส์ลีก
จุดแข็งของเขาคืออะไร?
การเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คในพรีเมียร์ลีก กองหลังจะต้องเล่นกับบอลได้ นี่คือจุดแข็งของ โยโร่ โดยเขามีทักษะการจ่ายบอลที่น่าทึ่งและความแม่นยำ
ในบรรดาเซ็นเตอร์แบ็คลีกเอิงทั้งหมดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โยโร่ ติดอันดับ 5 ในด้านความแม่นยำของการจ่ายบอล (92.1%) และอันดับ 2 สำหรับการจ่ายบอลสั้นสำเร็จ (95.6%) เขาโดนคู่ต่อสู้แย่งบอลเฉลี่ยเพียง 0.03 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งเป็นบ่งบอกว่า โยโร่ เก่งในการเอาชนะสถานการณ์เพรสซิ่งมากขนาดไหน
แม้จะมีรูปร่างสูงใหญ่ แต่ โยโร่ ก็ยังรวดเร็วพอ ขาที่ยาวของเขาช่วยให้แข้งรายนี้ได้เปรียบในการสปรินท์สู้กับคู่แข่ง และเขาอ่านเกมได้ยอดเยี่ยมเมื่อคาดการณ์การโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ความเฉลียวฉลาดนี้ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องใช้ร่างกายปะทะบ่อยขนาดนั้น ซึ่งอาจชวนให้นึกถึง ริโอ เฟอร์ดินานด์
จุดอ่อนของเขาคืออะไร?
โยโร่ อายุเพียง 18 ปี ทำให้เขายังมีเวลาอีกมากมายให้พัฒนาต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามเมื่อมุ่งหน้าเข้าสู่พรีเมียร์ลีก กองหลังชาวฝรั่งเศสอาจต้องปรับตัวไม่น้อย
ในลีกเอิงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาอยู่อันดับท้ายเลยของเซ็นเตอร์แบ็คที่เข้าแท็คเกิ้ลต่อนัด อยู่ที่ 25% โดยเฉลี่ยแล้วจะชนะการเข้าแท็คเกิ้ลได้น้อยกว่า 1 ครั้งเท่านั้น
เปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์การเข้าแท็คเกิ้ลของ โยโร่ (54.8%) กับ จาร์ราด แบรนธ์เวต (72.6%) อีกหนึ่งเป้าหมายของ แมนยู ซึ่งชัดเจนว่าเขาจะต้องปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษ
โยโร่ คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนหรือไม่?
ในตลาดยุคใหม่ การเซ็นสัญญากับกองหลังดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูงด้วยราคาเบื้องต้น 62 ล้านยูโรนั้นไม่ใช่ธุรกิจที่แย่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพิจารณาว่า แมนยู ใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายในช่วงอดีต
โยโร่ มีศักยภาพมหาศาลและเขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คระดับแถวหน้าของโลกได้ภายใน 4-5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม การเซ็นสัญญากับนักเตะอายุน้อยที่มีประสบการณ์ค่อนข้างน้อยถือเป็นความเสี่ยงสูงเสมอ เมื่อพิจารณาถึงสัญญาของเขากับ ลีลล์ ที่จะหมดลงเพียงปีเดียวเท่านั้น เพราะงั้นมันคือเหรียญสองด้านที่อาจนำไปสู่แรงกดดันให้กับเจ้าตัวได้เช่นกัน