สังคมผู้สูงวัย : เตรียมกรี๊ดกร๊าดกับ 'ฟุตบอลโลกของตำนาน' อดีตดาวเตะแชมป์โลก 8 ชาติ ร่วมชิงชัยซัมเมอร์นี้ - FEATURE

• แม้ไทม์แมชีนจะไม่มีอยู่จริง แต่โลกแห่งฟุตบอล ยินดี 'ย้อนอดีต' ให้คุณเสมอ
• เตรียมพบกับ 'ฟุตบอลโลกของตำนาน' กลางปีนี้
• ดาวเตะสูงวัยในตำนานของ 8 ชาติแชมป์โลก จะระเบิดศึก มินิ ทัวร์นาเมนต์ กันที่เมืองผู้ดีอังกฤษ
International Friendly: England v Brazil
International Friendly: England v Brazil / Shaun Botterill/GettyImages
facebooktwitterreddit

ในขณะที่ ฟุตบอลโลก ภาคปกติ กำลังเริ่มต้นเส้นทางการคัดสรรผู้เข้าร่วม ทัวร์นาเมนต์ปี 2026 ล่าสุดมีการยืนยันแล้วถึงการเกิดใหม่ของ "ฟุตบอลโลกภาคพิเศษ" ที่จะเป็นฟุตบอลโลกของตำนาน ดาวเตะสูงอายุที่คุณคิดถึง ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, เชลซี หรือทีมไหนๆ ก็ล้วนแต่ต้องตื่นตาตื่นใจไปกับรายการนี้


บอลโลกภาคปกติ

เพิ่งผ่านไปแบบความทรงจำยังไม่ทันจาง สำหรับ ฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งที่จริงเริ่มต้นอย่างเลวร้าย (ตอนยังไม่แข่ง) แต่ลงท้ายด้วยการถูกยกย่องว่าเป็น เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่ง...ถ้าไม่ดีที่สุดตลอดกาล

เผลอแผลบแวบเดียว บอลโลกคราวนั้นก็ผ่านมาแล้วเกิน 1 ปีเต็ม และกำลังมุ่งหน้าสู่ทัวร์นาเมนต์เวอร์ชั่นใหม่ในปี 2026 เมื่อรอบคัดเลือกของโซนต่างๆ ได้เริ่มต้นไปแล้วเกือบทั้งหมด

ฟุตบอลโลก 2026 จะเป็นรอบสุดท้ายครั้งที่ 23 แต่จะเป็นหนแรกสุดที่ร่วมมือจัดกันถึง "3 ประเทศ" สหรัฐอเมริกา - แคนาดา - เม็กซิโก รวมถึงจะถูกขยายขึ้นเป็นมีถึง 48 ทีมในรอบสุดท้าย อันจะทำให้ระยะเวลาของการโรมรัน เพิ่มขึ้นเกิน 1 เดือนเต็ม ไปเป็น 5 สัปดาห์ ช่วงกลางปี 2026

การอัพเดตล่าสุด (ที่จำเป็นให้เอ่ยถึงในพื้นที่นี้) คือการระบุ "วันและสถานที่แข่งขัน" ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะเริ่มเปิดสนาม 11 มิ.ย. 2026 ที่ เอสตาดิโอ อัซเตก้า กรุงเม็กซิโก ซิตี้ อันหมายถึงว่าหนึ่งในเจ้าภาพอย่าง เม็กซิโก ได้สิทธิ์ลงเตะนัดเปิดรายการไปโดยปริยาย อยู่ที่ว่าจะเจอใครเท่านั้น

ด้วยการกำหนดวันและสถานที่ จาก ฟีฟ่า ล่าสุดนี้ ยังทำให้เกิดภาพคร่าวๆ ของรายการออกมาด้วยเช่นกัน ว่าแต่ละวันของรอบแรก จะมีลงสนามกันมากถึง 4 แมตช์ (ยกเว้น 2 วันแรก ที่เตะวันละ 2 คู่) จากนั้นเมื่อเข้าสู่นัดปิดกลุ่มที่จำเป็นต้องลงเตะในเวลาเดียวกัน ก็จะมีลงสนามกันเยอะขึ้นไปอีกถึง 6 เกมต่อวันเลยทีเดียว

เปิดสนามที่ อัซเตก้า จากนั้นทั้ง เม็กซิโก และ แคนาดา จะแบ่งสรรปันส่วนรับหน้าเสื่อกันจนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เท่านั้น พอเข้าสู่ 8 ทีมสุดท้ายเป็นต้นไปจะมีเพียง สหรัฐอเมริกา ที่ "รับเหมา" ลากยาวไปจนกระทั่งนัดชิงชนะเลิศ ที่ เมทไลฟ์ สเตเดี้ยม รังเหย้าของทีม NFL อย่าง นิวยอร์ค ไจแอนท์ส กับ นิวยอร์ค เจ๊ตส์ ใน อีสต์ รูเธอร์ฟอร์ด รัฐนิวเจอร์ซี่ย์

(ผลคือ สหรัฐฯ ได้จัดมากถึง 78 แมตช์ ส่วน แคนาดา กับ เม็กซิโก รับไปชาติละ 13 เกมเท่าๆ กัน)

เคาะแล้วในส่วนของวันและสถานที่ ดังกล่าว ส่วนกระบวนการแข่งขันเฟ้นหาทีมเข้าสู่รอบสุดท้าย ก็จะดำเนินไปตามที่กำหนดไว้ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีกนานเป็นปีๆ ทีเดียวกว่าที่จะคัดได้ครบถ้วน 48 ทีม

ทั้งนี้ ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย จะลงสนามเหย้าเยือนกับ เกาหลีใต้ ช่วงปลายเดือนหน้า 21 - 26 มี.ค. ซึ่งเมื่อผ่านสองนัดนี้ก็จะเริ่มชัดแล้วว่า เรายังจะได้ไปต่อที่รอบคัดเลือกรอบ 3 ไหม หรือจะต้องร้องเพลงรอบอลโลกรอบสุดท้าย ต่อไปอีกอย่างน้อย 6 ปี

FIFA World Cup 2026 Host City Announcement
FIFA World Cup 2026 Host City Announcement / Howard Smith/ISI Photos/GettyImages

บอลโลกของตำนาน

ฟุตบอลโลก ภาคปกติ กำลังดำเนินขั้นตอนคัดเลือกไปอย่างที่ว่า ส่วน "ฟุตบอลโลกภาคพิเศษ" ได้ถูกเคาะแล้วว่า จะมีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ในอีกไม่นานเกินรอ

ฟุตบอลโลก ภาคพิเศษที่ว่า ก็คือ "ฟุตบอลโลก ของนักเตะระดับตำนาน" คนที่คุณแค่เห็นปลายติ่งหูก็รู้แล้วว่าใคร ผ่านฉากชีวิตแบบไหนมา และเป็นขวัญใจของแฟนบอลมากมายขนาดไหนอย่างไร

รายงานล่าสุดไว้โดยสื่อหลายเจ้าของเมืองผู้ดี ว่า ฟุตบอลโลก ภาคพิเศษของแข้งในตำนาน จะเป็นทัวร์นาเมนต์สำหรับดาวดัง อายุ 35 ปีขึ้นไป จัดการแข่งขันโดย Elite Players Group (EPG) ที่มาจากการร่วมมือกันของอดีตดาวเตะชื่อดัง อาทิ สตีฟ แม็คมานามาน, มาร์โก มาเตราซซี่, เควิน คูรานยี่, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ฯลฯ และจะถูกเรียกชื่อรายการว่า "อีพีจี คัพ" มากกว่าจะเป็น Legendary World Cup หรืออย่างอื่น

สำคัญคือ นักเตะที่เข้าร่วม จะต้องมาจากชาติที่ "เคยครองแชมป์โลก" มาก่อนแล้ว เท่านั้น นั่นหมายถึงจะมีแค่ 8 ชาติเท่านั้น ที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน

  • 1. บราซิล : 5 สมัย (1958, 1962, 1970, 1994, 2002)

    2. เยอรมนี : 4 สมัย (1954, 1974, 1990, 2014)

    3. อิตาลี : 4 สมัย (1934, 1938, 1982, 2006)

    4. อาร์เจนติน่า : 3 สมัย (1978, 1986, 2022)

    5. ฝรั่งเศส : 2 สมัย (1998, 2018)

    6. อุรุกวัย : 2 สมัย (1930, 1950)

    7. อังกฤษ : 1 สมัย (1966)

    8. สเปน : 1 สมัย (2010)
Foot : Final / Germany - Brazil / Wc 2002
Foot : Final / Germany - Brazil / Wc 2002 / Tim de Waele/GettyImages

มินิทัวร์นาเมนต์ กลางปีนี้

ไม่ต้องรอนาน ก็ซัมเมอร์ที่จะถึง กลางปี 2024 นี้เองที่บอลโลกภาคพิเศษ "อีพีจี คัพ" สมัยแรก จะเกิดขึ้นในเมืองผู้ดี อังกฤษ

ความคืบหน้าล่าสุดคือ ฝ่ายจัดฯ กำลังอยู่ในขั้นตอนหาข้อสรุป โดยที่แหล่งข่าววงในบอกใบ้ว่าพวกเขากำลังเจรจาอยู่กับหนึ่งใน "ทีมที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือ" ของระดับ พรีเมียร์ลีก

ตามคำบอกใบ้ ก็พอเดาได้ว่าถ้าไม่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็ถอยลงมาหน่อยเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด หรือ แมนฯ ซิตี้ หรือไม่ก็ ลิเวอร์พูล หรือ เอฟเวอร์ตัน

ยังมีการเผยรายละเอียดว่า ก็ด้วยการที่นักเตะแต่ละคนเข้าสู่ช่วงสูงวัย 35 อัพกันหมด แก่ๆ กันแล้วว่าซั่น เรื่องจะให้วิ่งรอก 90 นาที บวกต่อเวลาครึ่งชั่วโมงเหมือนเด็กๆ รุ่นๆ ก็คงไม่ไหว ทำให้จะเป็นเกม 70 นาที สนามใหญ่ 11 คน ซึ่งสามารถเปลี่ยนตัวได้เต็มที่ จากโควตา squad 18 คน (ที่บางทีมอาจมาไม่ครบ)

ทัวร์นาเมนต์จะไม่ยืดเยื้อ เป็นลักษณะน็อกเอาต์ "มินิทัวร์นาเมนต์" จำนวน 7 เกม ที่ชาติผู้เข้าร่วม 8 ทีมจะลงสาดแข้งในระบบของรอบ 8 ทีมสุดท้าย เตะกัน 2 วัน วันที่ 4 และ 5 มิ.ย. จากนั้นรอบตัดเชือก 8 มิ.ย. และนัดชิงชนะเลิศ 11 มิ.ย. โดยไม่มีเกมชิงอันดับ 3

ตามกรอบเวลานี้ แสดงให้เห็นว่า อีพีจี คัพ ตั้งใจจะเซิ้งแข้งกันหลังจากนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (1 มิ.ย.) และก่อนหน้า ยูโร 2024 มาถึงแค่ไม่กี่วัน (เปิดสนาม 14 มิ.ย.) เท่านั้น และด้วยการที่ประเดิมกันที่อังกฤษ ทำให้ไม่ต้องห่วงเลยถึงเรื่องสาธารณูปโภคและการคมนาคม

ทัวร์นาเมนต์ระยะสั้น 7 เกมใน 8 วัน ง่ายๆ สบายๆ ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล

French midfielder Olivier Dacourt (2nd R
French midfielder Olivier Dacourt (2nd R / PHILIPPE DESMAZES/GettyImages

ตำนานมาเพียบ

นอกจากการกำหนดให้นักเตะที่เข้าร่วม ต้องมีอายุ 35 ปีขึ้นไป (ไม่มีลิมิตเพดานอายุ ถ้ายังวิ่งไหว ไม่มีปัญหาสุขภาพ ก็เชิญได้) แล้ว คนๆ นั้นก็ต้องผ่านการรับใช้ชาติมาก่อน หรือไม่เช่นนั้น ก็ต้องผ่านเกมระดับลีกสูงสุดมาไม่ต่ำกว่า 100 นัด

ตามคุณสมบัตินี้ ก็มีการเปิดเผยแล้วถึงรายชื่อซูเปอร์สตาร์ ชาติแชมป์โลกที่น่าจะเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ อีพีจี คัพ กลางปีนี้ (แต่ยังมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงได้) นำโดยบรรดากัปตันทีมทั้ง 8 ซึ่งคือผู้ร่วมก่อตั้ง Elite Players Group (EPG) นั่นเอง

อังกฤษ : สตีฟ แม็คมานามาน (กัปตันทีม), ไมเคิ่ล โอเว่น, แอชลี่ย์ โคล, โจ โคล, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เดวิด เจมส์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

อาร์เจนติน่า : เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ (กัปตันทีม), เอร์นาน เครสโป, ปาโบล ซาบาเลต้า

บราซิล : อีเมอร์สัน (กัปตันทีม : อดีตมิดฟิลด์ เรอัล มาดริด-โรม่า-ยูเว่), ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่, กาก้า, โรแบร์โต้ คาร์ลอส, มาร์กอส คาฟู

ฝรั่งเศส : คริสติยอง การอมเบอ (กัปตันทีม), เธียร์รี่ อองรี, มาร์กแซล เดอไซญี่

เยอรมนี : เควิน คูรานยี่ (กัปตันทีม), เมซุต โอซิล, ซามี่ เคดิร่า

อิตาลี : มาร์โก มาเตราซซี่ (กัปตันทีม), ฟาบิโอ คันนาวาโร่, ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ

สเปน : มิเชล ซัลกาโด้ (กัปตันทีม), การ์เลส ปูโยล, ดาบิด บีย่า

อุรุกวัย : ดีเอโก้ ลูกาโน่ (กัปตันทีม), ดีเอโก้ ฟอร์ลัน

ในจำนวนรายชื่อที่ เดลี่ เมล แอบแง้มให้ทราบเหล่านี้ มีอย่างน้อย 5 รายที่เป็นเจ้าของรางวัล บัลลง ดอร์ ในตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ก็คือ ไมเคิ่ล โอเว่น, ฟาบิโอ คันนาวาโร่ และ 3 ซุปตาร์แซมบ้า - ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่, กาก้า

ย้ำอีกทีว่า อีพีจี คัพ ตั้งใจจะชิงชัยกันหลังจากนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก (1 มิ.ย.) และก่อนหน้า ยูโร 2024 มาถึงแค่ไม่กี่วัน (เปิดสนาม 14 มิ.ย.) เท่านั้น ซึ่งก็ถือเป็นรายการเรียกน้ำย่อยชั้นยอด ก่อนเชียร์กันให้สนุกสนานกันตามเคยกับศึกชิงแชมป์ยุโรปที่รอคอย

แม้อาจพอนึกภาพได้ว่าคงไม่ใช่เกมซีเรียสเคร่งเครียด และแต่ละดาวเตะก็สีผมเปลี่ยน รูปร่างบางคนตุ้ยนุ้ยตามกาลเวลา แต่ด้วยชื่อชั้นและสิ่งที่แต่ละคนได้ฝากไว้ในความคิดถึง

ดูไปดูมา อาจซาบซึ้งถึงขั้นน้ำตาซึมไม่รู้ตัว...

Kaka, Fabio Cannavaro
Italy v Brazil - FIFA Confederations Cup / Claudio Villa/GettyImages