มาร์เซโล กับการจากลาที่งดงาม - FEATURES

Liverpool FC v Real Madrid - UEFA Champions League Final 2021/22
Liverpool FC v Real Madrid - UEFA Champions League Final 2021/22 / Marc Atkins/GettyImages
facebooktwitterreddit

มาร์เซโล ฟูลแบ็คบราซิเลี่ยนถึงเวลาอำลาเรอัล มาดริด แล้วเมื่อสัญญาของเขากำลังจะหมดลงในเดือนหน้า และไม่ได้รับการต่อสัญญาใหม่จากทีมแน่นอนแล้ว

ฟูลแบ็คทีมชาติบราซิลวัย 34 ปีคือนักเตะที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเรอัล มาดริด อย่างน่าทึ่ง มองจากวันแรกในช่วงเดือนมกราคม 2007 ที่เขาย้ายมาเล่นในสเปนเป็นครั้งแรก เรอัล มาดริด มองเขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีอนาคตน่าสนใจจากสโมสรฟลูมิเนเซ่ การเซ็นสัญญาของเขาเข้าสู่ทีมไม่ใชข่าวใหญ่อะไรมากนัก แม้กระทั่งข่าวที่ว่าเขาจะเป็นตัวแทนของ โรเบร์โต้ คาร์ลอส ในตำแหน่งแบ็คซ้ายก็ดูจะเป็นเรื่อง “เกินไป ไกลตัว” ของเขาในเวลานั้น เพราะอย่างที่เราทราบ เรอัล มาดริด ก็ไม่ต่างจากสโมสรทั่วไปที่การเซ็นสัญญาก็เหมือนการเสี่ยงลอตเตอรี่ คุณไม่มีวันรู้ว่าจะถูกหรือเปล่าจนกว่าเวลาจะมาถึง

15 ปีผ่านไป เรอัล มาดริด มีนักเตะในตำแหน่งฟูลแบ็คมากมายเข้ามาสู่ทีม บางคนก็เข้ามาพร้อมกับคาดหวังสูงลิบลิ่ว บางคนมาพร้อมโปรไฟล์ที่ดี ราคาค่าตัวแพง แต่สุดท้ายคนที่ยังคงอยู่คือ มาร์เซโล แน่นอน แต่แน่นอนที่สุด จากเด็กหนุ่มวัย 18 ในวันนั้นกลายมาเป็นหนุ่มใหญ่วัย 30 กลาง ๆ วันนี้ เขาคือกัปตันทีมของสโมสร ที่มีตัวตายตัวแทนของเขามาถึงอย่างเป็นเรื่องเป็นราว 

เฟร์ลอน เมนดี้ (26 ปี สัญญาถึงกลางปี 2025) อาจไม่ใช่บราซิเลี่ยนแบบเขา แต่มาทดแทนเขาในตำแหน่งตัวจริงด้วยพลังหนุ่ม ด้วยความสามารถที่กำลังไปได้ดี บทบาทในสนามของ มาร์เซโล ก็ลดลงไปตามกาลเวลา เหลือเพียง “ความเป็นผู้นำในทีม” ที่ยังคงอยู่ เขาได้รับความเคารพจากในห้องแต่งตัวในฐานะของรุ่นพี่ที่มีความเป็นมืออาชีพ แต่นั่นก็ไม่มากพอต่อความต้องการของเรอัล มาดริด และแน่นอนไม่มากพอสำหรับมาร์เซโล และเลือกที่จะจากลาบนพื้นหลังวันอำลาคืองานฉลองแชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 14 ของสโมสร สมัยที่ 5 ของเขาเอง ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในสนามตลอดเกม แต่ในวินาทีแห่งการชูถ้วย คาริม เบนเซม่า รุ่นน้องในทีมที่รับบทบาทกัปตันทีม ยื่นปลอกแขนให้กับเขาในฐานะคนสุดท้ายที่จะได้รับเหรียญและคนแรกที่จะได้ชูถ้วยบิ๊กเอียร์ ทำให้เขาเป็น บราซิเลี่ยนคนแรกในเรอัล มาดริด ที่ชูถ้วยแชมป์นี้ในฐานะของกัปตันทีม

“ใช่แล้ว! นี่คือเกมสุดท้ายของผมกับ เรอัล มาดริด” คำกล่าวสั้น ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของเขา

25 แชมป์ที่คว้ามาได้ตลอด 15 ปี ส่งให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่คว้าแชมป์กับเรอัล มาดริด มากที่สุดในประวัติศาสตร์ [6 ลา ลีกา / 5 แชมเปี้ยนส์ ลีก / 4 โคปา เดล เรย์  / 2 สแปนิช คัพ / 3 ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ 5 สแปนิช ซูเปอร์ คัพ] มันเต็มอิ่มเหลือเกิน และถึงเวลาต้องจากกันแล้ว

546 เกม 38 ประตู 103 แอตซิสต์ จบชีวิตการเป็นนักเตะของสโมสรที่ตนเองรับใช้มาตลอด 15 ปีด้วยการคว้าแชมป์ที่ใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง…ไม่มีซีนจากลาใดจะสวยงามไปกว่านี้อีกแล้ว


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด