เยอรมนี 1-2 ญี่ปุ่น: เก็บตกทุกประเด็นหลังเกม ซามูไรบลู คว่ำ อินทรีเหล็ก ฟุตบอลโลก 2022

Germany v Japan: Group E - FIFA World Cup Qatar 2022
Germany v Japan: Group E - FIFA World Cup Qatar 2022 / BSR Agency/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ: ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม
วันแข่งขัน: วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2022
ผลการแข่งขัน: เยอรมนี 1-2 ญี่ปุ่น
สนาม: คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นนัล สเตเดี้ยม


ทีมชาติ ญี่ปุ่น สร้างเซอร์ไพรส์พลิกจากการเป็นฝ่ายตามหลังกลับมาเอาชนะ เยอรมนี 2-1 จากประตูของ ริตสึ โดอัน และ ทาคูมะ อาซาโนะ หลังจากตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนในครึ่งแรกจากลูกจุดโทษของ อิลคาย กุนโดกัน


คะแนนนักเตะทีมชาติ เยอรมนี

11 ผู้เล่นตัวจริง: นอยเออร์ (4/10); ซือเล (3/10), รูดิเกอร์, (6/10), ชล็อตเตอร์เบ็ค (3/10), รอม (7/10); คิมมิช (6/10), กุนโดกัน (7/10); กนาบรี (5/10), มึลเลอร์ (4/10), มูเซียลา (8/10; ฮาแวร์ตซ์ (5/10)

ผู้เล่นสำรอง: โกเร็ตซ์ก้า (5/10), ฮอฟมันน์ (4/10), ฟัลครุก (N/A), เกิตเซ (N/A), มูโกโก้ (N/A)

คะแนนนักเตะทีมชาติ ญี่ปุ่น

11 ผู้เล่นตัวจริง: กอนดะ (7/10); ซากาอิ (2/10), อิตาคุระ (7/10), โยชิดะ (7/10), นากาโตโมะ (5/10); ทานากะ (7/10), เอ็นโดะ (8/10); จ. อิโต้ (7/10), คามาดะ (5/10), คุโบะ (5/10); มาเอดะ (3/10)

ผู้เล่นสำรอง: โทมิยาสึ (6/10), อาซาโนะ (9/10), มิโตมะ (6/10), โดอาย (8/10), มินามิโนะ (6/10)


คีย์แมน - ทาคูมะ อาซาโนะ

Takuma Asano
Germany v Japan: Group E - FIFA World Cup Qatar 2022 / Koji Watanabe/GettyImages

ทัพ ซามูไรบลู ดูวูบวาบกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดเมื่อ ทาคูมะ อาซาโนะ ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 57 จมูกในการหาพื้นที่และการเคลื่อนที่สู่แดนอันตรายของเจ้าตัวก่อนที่หัวหอกจาก โบคุ่ม จะกลายเป็นคีย์แมนคนสำคัญพังประตูชัยให้กับทีมในช่วงท้ายเกมในที่สุดจากทักษะสัมผัสบอลแรกและการจบสกอร์ที่เด็ดขาด


ประเด็นหลังเกม

Germany v Japan: FIFA World Cup 2022
Germany v Japan: FIFA World Cup 2022 / Anadolu Agency/GettyImages

แน่นอนว่าเป็นการออกสตาร์ท ฟุตบอลโลก อย่างสวยหรูของทีมชาติ ญี่ปุ่น ขณะที่ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ของ เยอรมนี นับเป็นการปราชัยเกมแรกของ เวิลด์คัพ ครั้งที่ 2 ติดต่อกันหลังจากที่ก่อนหน้านี้ทัพ อินทรีเหล็ก เคยถูก เม็กซิโก คว่ำมาในเกมเปิดหัว รัสเซีย 2018

เยอรมนี เป็นฝ่ายครอบครองเกมอยู่ฝ่ายเดียวในครึ่งแรกชนิดที่พวกเขาน่าจะได้มากกว่า 1 ประตูด้วยซ้ำและโมเมนตัมดังกล่าวลากยาวจากไปจนถึงช่วงต้นครึ่งหลังที่ทีมของ ฮันซี ฟลิค ควรจะผลิตสกอร์หนีห่างแต่พวกเขาไม่เด็ดขาดพอ เมื่อรวมกับความเหนียบหนึบของ ชูอิจิ กอนดะ ทำให้ยังเหลือที่ว่างให้ทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสึ คัมแบ็คกลับมาได้

นายใหญ่ ซามูไรบลู ค่อยทิ้งไพ่จากบนม้านั่งสำรองลงสู่สนาม จากนั้นโมเมนตัมของเกมค่อยๆ พลิกกลับไปอยู่บนเงื้อมมือพวกเขา แนวรุกของ ญี่ปุ่น ดูกระชุ่มกระชวยมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่จะมาได้ประตูตีเสมอและแซงขึ้นนำ 2 ประตูรวดในขณะที่เหลืออีก 15 นาทีสุดท้าย นับเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของทีมชาติ ญี่ปุ่น เมื่อพวกเขาล้มหนึ่งในทีมเต็งของกลุ่มได้ ส่งให้งานยากในอีก 2 เกมที่เหลือของรอบแบ่งกลุ่มตกไปอยู่กับพลพรรค ดิมานชาฟท์