ทีมชาติเยอรมนี - ยูโร 2024 : โปรแกรมการแข่งขัน รายนามนักเตะ วิเคราะห์แนวทางการเล่น และแข้งที่น่าจับตามอง

ดูเหมือนว่าการรับบทเป็นเจ้าภาพของ เยอรมนี ในศึก ยูโร 2024 กลางปีนี้ยิ่งดูจะเพิ่มความคาดหวังรวมถึงความกดดันให้กับ ทัพอินทรีเหล็ก มากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

แถมผลงานในช่วงปีที่ผ่านมาของพวกเขาก็ทำเอาแฟน ๆ ต้องกุมขมับ แม้จะผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายโดยไม่ต้องเข้าแข่งขันรอบคัดเลือก แต่ฟอร์มของพวกเขาก็มีช่วงอาการหนักเหมือนกันช่วงปี 2023 หลังจากที่อกหักตกรอบแรกใน ฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา

เริ่มจากการแพ้ 4 จาก 5 นัดติดต่อกัน ทั้งการโดน เบลเยี่ยม บุกมาอัด 2-3, เสมอ ยูเครน 3-3, พ่าย โปแลนด์ 1-0, โดน โคลอมเบีย บุกมาอัดคาบ้าน 0-2 และแพ้ ญีปุ่น ยับเยิน 1-4 แม้จะเป็นเพียงเกมอุ่นเครื่องแต่นั่นก็สร้างความหวาดหวั่นให้กับแฟนบอล อินทรีเหล็ก ได้มากโขเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามในระดับสโมสรทีมจาก เยอรมนี กลับทำผลงานได้น่าประทับใจทั้ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และสู้กับยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด ได้อย่างคู่คี่สูสี อีกทั้งยังมีแชมป์ลีกหน้าใหม่อย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ที่สร้างประวัติศาสตร์แพ้เกมเดียวในฤดูกาลนี้กับเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรปาลีก ต่อ อตาลันต้า

ขณะที่ขุมกำลังส่วนใหญ่ที่ นาเกลส์มันน์ เรียกมาจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ผสมกับตัวเก๋ามากประสบการณ์ ซึ่งนั่นแม้อาจจะถูกแฟนบอลตั้งคำถาม แต่เรื่องแรงจูงใจของเหล่าเด็กใหม่ย่อมมีมากกว่าผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างแน่นอน

วันนี้เราจึงจะมาล้วงลึกถึงรายละเอียดของ ทีมชาติเยอรมนี ในศึก ยูโร 2024 หนนี้ให้แฟน ๆ ได้ชมกัน

รายชื่อ 26 ขุนพล ทีมชาติเยอรมนี ในศึก ยูโร 2024 นี้

ผู้รักษาประตู

• โอลิเวอร์ เบามันน์ (ฮอฟเฟนไฮม์)
• มานูเอล นอยเออร์ (บาเยิร์น มิวนิค)
• มาร์ค อังเดร แทร์ สเตเก้น (บาร์เซโลนา)

กองหลัง

• วัลเดมาร์ แอนตอน (สตุ๊ตการ์ท)
• เบนจามิน เฮนริชส์ (แอร์เบ ไลป์ซิก)
• โจชัว คิมมิช (บาเยิร์น มิวนิค)
• โรบิน คอช (แฟรงค์เฟิร์ต)
• แม็กซ์ มิตเทลสตัดต์ (สตุ๊ตการ์ท)
• ดาวิด รัม (แอร์เบ ไลป์ซิก)
• อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (เรอัล มาดริด)
• นิโก้ ชลอตเตอร์เบ็ค (ดอร์ทมุนด์)
• โจนาธาน ทาห์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน)

กองกลาง

• โรเบิร์ต อันดริช (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน)
• คริส ฟูห์ริช (สตุ๊ตการ์ท)
• ปาสกัล กรอสส์ (ไบรท์ตัน)
• อิลคาย กุนโดกัน (บาร์เซโลนา)
• โทนี โครส (เรอัล มาดริด)
• จามาล มูเซียลา (บาเยิร์น มิวนิค)
• เอมเร ชาน (ดอร์ทมุนด์)
• ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน)
• ลีรอย ซาเน (บาเยิร์น มิวนิค)

กองหน้า

• แม็กซ์ เบเออร์ (ฮอฟเฟนไฮม์)
• นิคลาส ฟูลล์ครุก (ดอร์ทมุนด์)
• ไค ฮาเวิร์ตซ์ (อาร์เซนอล)
• โธมัส มึลเลอร์ (บาเยิร์น มิวนิค)
• เดนิซ อุนดาฟ (สตุ๊ตการ์ท)

โปรแกรมการแข่งขัน

เยอรมนี อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ สกอตแลนด์ ฮังการี และ สวิตเซอร์แลนด์ แม้ชื่อชั้นจะดูเหนือกว่าทั้งหมดแต่ พลพรรคอินทรีเหล็ก จะประมาทไม่ได้เลย เพราะทีมอย่าง "สวิสส์" ก็มักจะเป็นขาประจำที่เข้าถึงรอบน็อคเอาท์ได้เสมอ ขณะที่ ฮังการี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่ สกอตแลนด์ นักเตะส่วนใหญ่ก็ค้าแข้งอยู่ในลีกสูงสุดของยุโรปทั้งสิ้น

สถิติที่ ทีมชาติเยอรมนี เคยพบคู่แแข่งร่วมกลุ่ม

• เยอรมนี ชนะ 8 / เสมอ 5 / สกอตแลนด์ ชนะ 4
• เยอรมนี ชนะ 13 / เสมอ 12 / ฮังการี ชนะ 12
• เยอรมนี ชนะ 35 / เสมอ 8 / สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ 9

ความเป็นไปได้ในรอบน็อคเอาท์

หากเยอรมนีผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้ในฐานะแชมป์กลุ่ม พวกเขาจะไปเจออันดับที่ 2 ของกลุ่ม ซี ที่มีทีมอย่าง อังกฤษ แต่คาดว่าด้วยชื่อชั้นแล้ว สิงโตคำราม น่าจะเป็นแชมป์ของกลุ่มเช่นกัน ดังนั้นจะเหลือทีมอย่าง เซอร์เบีย สโลวิเนีย และ เดนมาร์ก ที่อาจเป็นคู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

แต่หากพลาดท่าจบในฐานะอันดับที่ 2 ของกลุ่ม พวกเขาจะเจอกับอันดับ 2 ของกลุ่ม บี ที่เป็น "กรุ๊บออฟเดท" โดยมีทีมอย่าง สเปน อิตาลี และ โครเอเชีย ที่น่าจะเบียดแย่งกันเข้ารอบ ซึ่งเส้นทางนี้ พลพรรคอินทรีเหล็ก ควรจะหลีกเลี่ยงไว้ก่อนหากจะมองถึงโอกาสที่ดีกว่าในการเข้ารอบลึก ๆ สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้

ว่าด้วยเรื่อง "แทคติค"

ยูเลียน นาเกลส์มันน์ กุนซือหนุ่มรายนี้ถูกยกย่องอย่างมากว่าไม่ธรรมดาในเรื่องการวางแทคติค โดยเจ้าตัวกำลังนำระบบการทำทีมแบบสโมสรเข้ามาปลูกฝั่งกับระดับทีมชาติ

หลังจากช่วงแรกที่เข้ามารับไม้ต่อจาก ฮันซี ฟลิค อาจมีช่วงเวลาที่ติด ๆ ขัด ๆ อยู่บ้าง แต่ชัยชนะเหนือ ฝรั่งเศส และ เนเธอร์แลนด์ส ในการอุ่นเครื่องล่าสุดทำให้เริ่มเห็นพัฒนาการในทิศทางที่ดีขึ้นก่อน ยูโร จะเริ่มต้นซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี

เขาเน้นไปที่การครอบครองบอล คุมเกม บิ้วอัพ รวมถึงพยายามชิงบอลกลับมาอยู่ในการครอบครองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เดิมที่จะเน้นหนักไปที่การเข้าเพลสกดดันคู่ต่อสู้อย่างหนักหน่วง แต่สำหรับทีมชาติมันค่อนข้างยากที่จะฝึกซ้อมให้ไล่กดดันเป็นทีมอย่างเข้าขาเพราะมีเวลาเตรียมทีมค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาพยายามทำมาตั้งแต่รับงานในปี 2023 ดูเริ่มจะออกดอกออกผลบ้างแล้ว ณ เวลานี้

แน่นอนว่าแผนการเล่นหลักจะเป็น 4-2-3-1 ที่ครอบคลุมทั้งรุกและรับจากตัวปั้นเกม 3 คนคอยทำเกมรุกอยู่หลังกองหน้า และมีฟูลแบ็คคอยเติมขึ้นลงสนับสนุนเพื่อนร่วมทีม โดยตัวชูโรงคงหนีไม่พ้น 2 ดาวเตะสายเลือดใหม่อย่าง จามาล มูเซียลา และ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เป็นหัวใจสำคัญในการทะลุทะลวงแนวรับคู่แข่ง

คีย์แมน อินทรีเหล็ก

แน่นอนว่า 2 สตาร์ที่กล่าวไปคงจับถูกจับตามองมากเป็นพิเศษทั้ง จามาล มูเซียลา และ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ 2 ตัวรุกเชิงสูงที่คาดว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นคนแบกเกมรุกในทีมชุดนี้ของ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ซึ่งทั้งสองคนนี้คงไม่มีใครสงสัยเรื่องฝีเท้าหลังจากประสบความสำเร็จในระดับสโมสร แต่สำหรับในนามทีมชาติพวกเขายังใช้เวลาและความสำเร็จของชาติจะเป็นเครื่องสะท้อนว่าพวกเขามีดีมากพอจะก้าวขึ้นมาเป็นตำนานของทีมได้หรือไม่

นอกจากนี้ยังมีรุ่นใหญ่อย่าง โทนี โครส ที่เตรียมจะแขวนสตั๊ดหลังจบ ยูโร 2024 กลับใจหันมารับใช้ชาติอีกครั้ง ซึ่งประสบการณ์ของเขาจะช่วยให้สร้างมิติที่หลากหลายในแดนกลางให้ทีมได้อย่างแน่นอนเช่นเดียวกับ อิลคาย กุนโดกัน ที่เป็นอีกหนึ่งคนที่ครบเครื่องในแดนกลางมีดีทั้งรุกและรับแถมยังเล่นบอลฉลาดมีวิสัยทัศน์ที่ดีไม่แพ้ โครส อีกด้วย