ลิเวอร์พูล 2-1 นอริช: เก็บตกทุกประเด็นหลังเกม หงส์ เบียด นกขมิ้น เข้ารอบ เอฟเอ คัพ - Match Report

การแข่งขัน: ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันแข่งขัน: วันพุธที่ 2 มีนาคม 2022
เวลาแข่งขัน: 03:15 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน: ลิเวอร์พูล 2-1 นอริช
สนาม: แอนฟิลด์

เยอร์เกน คล็อปป์ โรเตชั่นค่อนทีมจากเกม คาราบาว คัพ รอบชิง แต่ก็ยังทะลุเข้าสู่รอบต่อไปของ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ แม้จะมีให้แอบเสียวอยู่บ้างในช่วงท้ายเกม

นอริช เปิดเกมด้วยการเพรสซิ่งเข้าใส่เจ้าบ้านแบบไม่เกรงกลัวชื่อชั้น ทว่าโอกาสจะแจ้งหนแรกก็ยังเป็นของ ลิเวอร์พูล จากลูกยิงของ เคอร์ติส โจนส์ ที่บริเวณนอกกรอบเขตโทษที่พุ่งไปเกือบเสียบมุมเข้าประตู

ขณะที่ นอริช เองก็พอมีให้ได้ลุ้นอยู่บ้างกับจังหวะสวนกลับที่เป็น ตีมู ปุ๊กกี้ ได้ลองสับไกดูบ้าง

หลังจากนั้นเป็น ซิมิกาส และ มินามิโนะ ที่ได้โอกาสซัดไปติดบล็อคคนละหน ก่อนที่ในนาทีที่ 27 จะเป็นรายหลังที่ทำประตูช่วยทีมออกนำ 1-0 โดยการเติมมาเปิดของแบ็คชาว กรีซ ให้กับ โอริกี ที่แม้จะหันหลังให้โกล์แต่ก็ยังตวัดบอลให้ตัวรุกชาว ญี่ปุ่น แบบรู้ใจยิงเต็มข้อจ่อๆเข้าไปตุงตาข่าย

ท้ายครึ่งแรก มินามิโนะ มาบวกอีกตุงหลัง กิ๊บสัน เคลียร์บอลจากลูกเตะมุมไม่ขาดมาเข้าทางปืนให้เขาได้สับไกสวนทาง ทิม ครูล ประตูพร้อมทิ้งห่าง 2-0

เริ่มครึ่งหลังมาครู่เดียว โจ โกเมซ จ่ายพลาดให้ ราชิกา ได้ฉกไปยิงหลุดกรอบไปเอง กับอีกหนึ่งลูกยิงของ จอช ซาร์เจนท์ ที่ตามมาติดๆแต่ก็ยังหลุดกรอบออกไปเช่นเคย

นาทีที่ 60 จิอานนูลิส เติมมาเปิดให้หอกชาว อเมริกัน ได้โขก แต่ก็ยังไม่เข้ากรอบเช่นเคย จนกระทั่งเมื่อเกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ลูคัส รัปป์ ก็มายิงตีไข่แตกได้สำเร็จ

คล็อปป์ ดูจะเริ่มหวั่นใจจนต้องส่ง ซาดิโอ มาเน และ หลุยส์ ดิอาซ ลงมาช่วยไล่บี้เกมรุกของ นอริช ที่กำลังคึกได้ที่

ท้ายเกมอดีตแข้ง ปอร์โต้ เกือบซัดเม็ดที่สามของ ลิเวอร์พูล ฝังทีมของ ดีน สมิธ ได้ แต่ก็เฉี่ยวหลุดกรอบไปพร้อมกับเสียงนกหวีดที่ตามมาในไม่ช้า

คะแนนผู้เล่น ลิเวอร์พูล

อลิสซง (6), มิลเนอร์ (7), โกเมซ (5), โคนาเต้ (7), ซิมิกาส (7)
เฮนเดอร์สัน (7), ออกซ์เลด-เชมเบอร์เลน (6), โจนส์ (8)
มินามิโนะ (9), โอริกี (7), โชต้า (7)

ผู้เล่นสำรอง
เอลเลียต (7), มอร์ตัน (6), มาเน (N/A), ดิอาซ (N/A)

ประเด็นหลังเกม - มินามิโนะ ตัวสำรองอดทน

ทาคุมิ มินามิโนะ ยิงไปแล้ว 9 ประตูจากทุกรายการในฤดูกาลนี้ ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ธรรมดาเลยเมื่อพิจารณาว่าเป็นเพียงแข้งสำรองของทีมเท่านั้น

นอกจากนี้จากประตูทั้งหมดที่เขาทำได้ 7 ลูก ยังเป็นการยิงในรายการฟุตบอลถ้วยภายในประเทศอีกด้วย โดยแบ่งเป็น 4 ประตูกับ 1 แอสซิสต์จากสามเกมใน คาราบาว คัพ ที่เจ้าตัวเป็นแค่ผู้ชมในรอบชิงกับ เชลซี

โดยอีกหนึ่งลูกมาจากในเกมรอบก่อนหน้ากับ คาร์ดิฟฟ์ และลูกที่ 6 และ 7 ก็มาเอาในเกมนี้ ที่ เยอร์เกน คล็อปป์ ถึงกับซูฮกว่าฟอร์มของแข้งวัย 27 น่าจะแจ่มสุดนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นใน อังกฤษ เลยก็ว่าได้

ต้องรอดูกันว่า มินามิโนะ จะถูกเลือกใช้งานในเกมรอบถัดไปหรือไม่ แล้วหาก ลิเวอร์พูล ไปได้ถึงอีกหนึ่งรอบชิง - โอกาสของเขาจะมาถึงหรือยัง หรือท้ายที่สุดแล้วเขาก็จะเป็นเพียงผู้ปิดทองหลังพระที่กรุยทางให้แข้งชุดใหญ่ไปลงโม่แข้งในเกมนัดตัดสินชะตาเช่นเคย

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด