ยังฟื้น! เลสเตอร์ เบียดกำชัย 2-1 ขึ้นจ่าฝูง แชมเปี้ยนชิพ อีกรอบ
เลสเตอร์ ซิตี้ อดีตแชมป์ พรีเมียร์ลีก 1 สมัย ยังไม่ปล่อยให้ตัวเองแกว่งไกวไปกว่านี้ ฮึดเอาชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 เกมเมื่อวันเสาร์ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา จนกลับคืนสู่ตำแหน่งจ่าฝูง อีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ ได้อีกครั้ง ขณะเหลือโปรแกรม 3 นัดสุดท้ายเท่านั้น
ทัพจิ้งจอกของ เอ็นโซ มาเรสก้า เคยอยู่ในสถานการณ์ดีต่อการกลับเลื่อนชั้น ด้วยการทิ้งห่างผู้ตามเกินกว่า 10 แต้ม กระนั้นผลงานของพวกเขาตกต่ำลงอย่างชัดเจนในช่วงหลัง โดยที่ระยะ 10 นัดหลังชนะได้แค่ 3 เกม ที่เหลือเสมอ 1 และแพ้ไปถึง 6 นัดด้วยกัน
ผลที่เกิดขึ้นทำให้การแย่งแชมป์และแย่ง 2 อันดับแรก เพื่อเลื่อนชั้นอัตโนมัติขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก เปลี่ยนโฉมไปทันทีด้วยการที่มีทั้ง อิปสวิช ทาวน์ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด แทรกแทรงเข้ามาลุ้นพื้นที่อย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม เกมวันเสาร์ที่ผ่านมาซึ่ง เลสเตอร์ ลงสนามเป็นคู่เร็วสุด ยังสามารถเกิดรังเหย้า คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เบียดชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ได้สำเร็จ 2-1 จากประตูของ วิลเฟรด เอ็นดิดี้ น.22 และ เจมี่ วาร์ดี้ เจ้าเก่า น.65 ซึ่งเป็นการแก้ตัวของ วาร์ดี้ หลังจากหัวหอกวัย 37 ยิงจุดโทษพลาดไปในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก
ชัยชนะทำให้ เลสเตอร์ กลับคืนสู่ตำแหน่งจ่าฝูงหลังจากผ่าน 43 นัดเท่ากันทั้งหมด ด้วยการมี 91 คะแนน นำหน้า อิปสวิช ทาวน์ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่ที่ 2 กับ 4 คะแนน ตามลำดับ
ชปช. เข้าสู่ 3 เกมสุดท้ายในบรรดากลุ่มลุ้นแชมป์ (และ 2 เกมสุดท้ายสำหรับบางทีม) โดย เลสเตอร์ เหลือโปรแกรมพบกับ เซาแธมป์ตัน, เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ และ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
ในส่วนของโซนท้ายตาราง ร็อตเตอร์แฮม ยูไนเต็ด ตกชั้นไปก่อนแล้ว 1 ทีม เหลือ 2 โควตาที่ต้องดิ้นหนีตายกันระหว่าง แบล็คเบิร์น (49 แต้ม), พลีมัธ (48), เบอร์มิงแฮม (46), ฮัดเดอร์สฟิลด์ (44) และ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ (44)