ลิเวอร์พูล 0-0 (PK. 3-2) ดาร์บี้ เคาน์ตี้: ตัดเกรดแข้ง หงส์แดง และบทสรุปหลังเกม คาราบาว คัพ
โดย โตมร นวลประเสริฐ
รายการ: ฟุตบอล คาราบาว คัพ 2022/23
วันแข่งขัน: คืนวันพุธที่ 9 พฤศจิกายน 2022
ผลการแข่งขัน: ลิเวอร์พูล 0-0 ดาร์บี้ เคาน์ตี้ (PK 3-2)
สนาม: แอนฟิลด์
ลิเวอร์พูล ชุดสำรองผสมกับเหล่าแข้งเยาวชนต้องลุ้นเหนื่อยจนถึงการดวลลูกจุดโทษเบียดเข้าป้ายหลังเสมอกันในเวลาปกติ 90 นาทีแบบไร้สกอร์
หงส์แดง ที่นำโดย อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ, คอสตาส ซิมิคาส และ โจ โกเมซ เป็นฝ่ายครอบครองบอลบุกเข้าใส่แทบตลอดทั้งเกม สร้างโอกาสทำประตู 19 ครั้ง ตรงกรอบ 6 ครั้ง ขณะที่ทัพ แกะเขาเหล็ก ได้สับไกยิงเพียง 6 ครั้งเท่านั้น
โดยช่วงท้ายเกม เยอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนตัวส่งเหล่าแข้งชุดใหญ่อย่าง โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน, ดาร์วิน นูนเญซ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ลงสนาม แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่อาจจะประตูทีมเยือนได้
รายชื่อผู้รับหน้าที่ยิงลูกจุดโทษ (ดาร์บี้ เป็นฝ่ายยิงก่อน):
ดาร์บี้ - แม็คโกลดริค (เข้า), อูริฮาน (ไม่เข้า), ฟอร์ซิธ (ไม่เข้า), ซิบลีย์ (เข้า), ด็อบบิน (ไม่เข้า)
ลิเวอร์พูล - บายเซติช (ไม่เข้า), อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน (เข้า),ฟิร์มิโน (ไม่เข้า), นูนเญซ (เข้า), เอลเลียตต์ (เข้า)
คะแนนนักเตะ ลิเวอร์พูล
11 ผู้เล่นตัวจริง: เคลเลเฮอร์ (9/10); แรมซีย์ (7/10), ฟิลลิปส์ (6/10), โกเมซ (6/10), ซิมิคาส (7/10); บายเซติช (6/10), อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน (7/10), คลาร์ค (6/10); เฟราเอนดอร์ฟ (6/10), สจ๊วร์ต (6/10), คาร์วัลโญ (5/10)
ผู้เล่นสำรอง: ฟิร์มิโน (7/10), คลาร์ค (7/10), สจ๊วร์ต (6/10), โดค (7/10)
คีย์แมน ลิเวอร์พูล - อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์แลน
ดิอ็อกซ์ รีเทิร์นจากอาการบาดเจ็บกลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ เร้ดแมชีน เป็นนัดแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีส่วนร่วมในเกมพ่าย น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ กับ สเปอร์ส ในฐานะตัวสำรอง เจ้าตัวมีช็อตลุ้นทำประตูจากลูกวอลเลย์ รวมไปถึงการสร้างโอกาสจากการครอสที่ริมเส้น มิดฟิลด์ชาว อังกฤษ ค่อยๆ มีบทบาทกับเกมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป รักษาความนิ่งของทีมที่กลางสนามเมื่อเต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่งในทีมชุดตัวจริง
ประเด็นหลังเกม ลิเวอร์พูล
ควิวีน เคลเลเฮอร์ ไม่ได้ออกแรงเซฟมากนักในเวลาปกติ กระทั่งเกมยืดเยื้อสู่การดวลลูกจุดโทษหลังเสมอกันในเวลาปกติ 0-0 เจ้าตัวงัดเซฟป้องกันลูกจุดโทษของ คอเนอร์ อูริฮาน, เคร็ก ฟอร์ซิธ และ ลูอิส ด็อบบิน ก่อนที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ จะสังหารจุดโทษตัดสิน
ขณะที่ โจ โกเมซ ในบทบาทกัปตันทีมของ หงส์แดง ในเกมนี้กลายเป็นผู้นำที่แดนหลัง โดดเด่นกับการเป็นจุดเริ่มต้นเซ็ตบอลจากหน้าปากประตูตัวเองอย่างเยือกเย็นโดยเฉพาะการประสานงานกับ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ที่กราบซ้าย
นอกจากนั้นยังเป็นโอกาสของ คัลวิน แรมซีย์ ฉายแววที่บทบาทแบ็คขวา เขาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้หลังจากที่เพิ่งเดบิวต์กับ เร้ดแมชีน ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ นาโปลี ฐานะตัวสำรอง