ลิเวอร์พูล 1-0 เวสต์แฮม: ชำแหละทุกประเด็นสำคัญหลัง หงส์แดง ตีปีกจิก ขุนค้อน
โดย โตมร นวลประเสริฐ
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022/23
วันแข่งขัน: คืนวันพุธที่ 19 ตุลาคม 2022
ผลการแข่งขัน: ลิเวอร์พูล 1-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
สนาม: แอนฟิลด์
1. ลิเวอร์พูล กับ 4-4-2
ด้วยทรัพยากรในทีมที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ มีให้เลือกอย่างจำกัดจากปัญหาแข้งบาดเจ็บำให้นายใหญ่ชาว เยอรมัน จัดทัพด้วยรูปแบบ 4-4-2 ดังนี้
อลิสซอน; อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดค์, ซิมิคาส (โรเบิร์ตสัน 81'); ซาลาห์, เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้, คาร์วัลโญ; ฟิร์มิโน, นูนเญซ
ฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้างสลับกันเติมเกมโดยมีคู่กลาง เฮนโด้-ติอาโก้ ปักหลักหน้าแผงแบ็คโฟร์เป็นเกราะกำบังโดยมี ซาลาห์ ลอยสูงที่ฝั่งขวา คาร์วัลโญ เคลื่อนที่ตัดเข้าในเพื่อรักษาสมดุล และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน ถอยลงต่ำเชื่อมกับ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ยืนค้ำแดนบน
โดยการขึ้นเกมที่ริมเส้นโดย ซิมิคาส ที่ได้โอกาสครอสให้ นูนเญซ ขึ้นโขกกลายเป็นที่มาของประตูโทนในเกมนี้ตั้งแต่ก่อนถึงช่วงกลางครึ่งแรก
2. ติอาโก้ โดดเด่นที่กลางสนาม
ติอาโก้ อัลคันทารา กลายเป็นจุดศูนย์กลางในการขึ้นเกมรุกของ ลิเวอร์พูล เจ้าตัวคอยเคลื่อนที่สอดส่ายประคองเพื่อรับบอลจากเพื่อนร่วมทีม เอาชนะการบีบพื้นที่แดนบนของ เวสต์แฮม ก่อนออกบอลสู่แดนบน
ผลจากการมี ติอาโก้ ที่กลางสนามทำให้เขาเป็นคนเซ็ตจังหวะตั้งต้นอันนำมาสู่ประตูโทนของเกมนี้เมื่อเจ้าตัวเป็นคนพลิกวางบอลให้ ซิมิคาส ที่กราบซ้ายก่อนแบ็คซ้ายชาว กรีซ จะได้ครอสเป็นลูกแอสซิสต์ให้ นูนเญซ โขกตุงตาข่าย
มิดฟิลด์ทีมชาต สเปน ใช้เวลาในสนามราว 1 ชั่วโมงก่อนถูกเปลี่ยนตัวออก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมีสถิติเป็นแข้ง หงส์แดง ที่สัมผัสบอลมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 (78 ครั้ง) เป็นรองเพียง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (103 ครั้ง) และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (80 ครั้ง) เท่านั้น
3. ดาร์วิน นูนเญซ แก้ตัวจากเกมก่อน
นูนเญซ ได้รับความไว้วางใจยืนปักหลักเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าที่แดนบน โดยมี ฟิร์มิโน สอดส่ายเป็นหน้าต่ำคอยประสานงานในพืนที่สุดท้าย เจ้าตัวดูจะมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่าน บอลจากเท้าซ้ายของกองหน้าทีมชาติ อุรุกวัย เข้าข้อแทบทุกครั้งที่สับไก
เจ้าตัวกลายเป็นคนโหม่งพังประตูโทนในเกมนี้ชนิดที่น่าจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ดมากกว่า 1 ครั้งด้วยซ้ำกับสถิติโอกาสยิงมากที่สุดในสนามที่จำนวน 6 ครั้ง
ประตูจากการโขกของ นูนเญซ ในเกมนี้ยังนับเป็นประตูแรกของเจ้าตัวใน แอนฟิลด์ อีกด้วย
4. ลูกจุดโทษจุดเปลี่ยนท้ายครึ่งแรก
หนึ่งในจุดเปลี่ยนในเกมนี้คือลูกจุดโทษที่ เวสต์แฮม ได้ในช่วงท้ายครึ่งแรก
โจ โกเมซ เป็นฝ่ายที่ทะเล่อทะล่าโถมเข้าใส่ จาร์ร็อด โบเวน ในกรอบเขตโทษจนผู้จัดสินเป่าให้เป็นลูกจุดโทษหลังพิจารณาจาก VAR โดย โบเวน ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารแต่กลายเป็นยิงไปติดเซฟ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เต็มมือทำให้เกมในครึ่งแรกจบลงด้วยการที่ เร้ดแมชีน ยังรักษาสกอร์นำอยู่ได้
ทีมของ เดวิด มอยส์ เริ่มต้นครึ่งหลังด้วยความพยายามเร่งเกมรุกอย่างเห็นได้ชัด พวกเขากลับกลายเป็นฝ่ายครอบครองบอลได้มากกว่าเจ้าถิ่น แต่จนแล้วจนรอดทีมกลับไม่เด็ดขาดพอที่แดนหน้า โดยเฉพาะคีย์แมนตัวเป้าของพวกเขาอย่าง จานลูก้า สคามัคก้า