แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับปัญหาใหญ่ในการคว้าตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ - OPINION
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังตกเป็นข่าวไล่ล่ากองหน้าคนใหม่ในช่วงซัมเมอร์ โดยรายที่เรียกเสียงครางได้จากสาวก ปีศาจแดง มากที่สุดเห็นจะไม่พ้น เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวยิงตัวเก่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ด้วยความที่ อองโตนี มาร์กซิยาล ดาวยิงชาวฝรั่งเศสยังไม่สามารถยกระดับตัวเองให้ขึ้นมาเป็นยอดดาวยิงอย่างที่ โอเล กุนนาร์ โซลชา คาดหวัง ทั้ง ๆ ที่ได้รับโอกาสลงสนามเฉพาะใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 21 นัดแต่กลับยิงประตูได้อย่างจุ๋มจิ๋มเพียง 4 ลูกเท่านั้น หรือหากคิดรวมทุกรายการซึ่งลงสนามไป 33 นัด ก็ยิงเพิ่มมาได้เป็น 7 ประตูเท่านั้น
ซึ่งดูแล้วนี่คงไม่ใช่ดาวยิงที่ทีมจะสามารถพึ่งพาอะไรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก ยูไนเต็ด ต้องการลุ้นแชมป์ลีกอย่างเต็มตัวหลังห่างหายมานานถึง 8 ปีเต็ม
หรือแม้แต่กองหน้ารุ่นเก๋าอย่าง เอดิสัน คาวานี ซึ่งในช่วงหลังได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงก่อน มาร์กซิยาล แม้ว่าฟอร์มการเล่นจะดีกว่า และมีประโยชน์มากกว่า แต่เนื่องด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไป 34 ปีแล้ว โซลชา คงไม่หวังจะฝากอนาคตกับนักเตะแบบนี้แน่นอน
ชื่อของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ จึงกลายเป็นตัวเต็งที่จะถูกดึงเข้ามาล่าตาข่ายในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงซัมเมอร์นี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยสถิติที่น่าทึ่งโดยการลงสนามเฉพาะใน บุนเดสลีกา ไป 18 นัดยิงไป 17 ประตูและทำอีก 4 แอสซิสต์
ส่วนเรื่องค่าตัวนั้นดาวยิง เสือเหลือง มีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ประมาณ 75 ล้านยูโร ซึ่งจะสามารถยื่นข้อเสนอได้ในปี 2022 แต่หากอยากจะได้มาร่วมทีมหลังจบฤดูกาลก็อาจจะต้องคุยกันใหม่อีกที
ถึงอย่างนั้นก็มีการคาดการณ์ว่าบางที่ค่าตัวของ ฮาแลนด์ อาจถูกกว่าที่คิด หากว่าฤดูกาลนี้ ดอร์ทมุนด์ ไม่สามารถคว้าโควต้าไปเล่นในศึก ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ บวกกับสถานการณ์ทางการเลินที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก นั่นจึงมีความ “เป็นไปได้” ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเซ็นสัญญากับกองหน้าวัย 20 ปีผู้ร้อนแรงที่สุดในยุโรปในตลาดซัมเมอร์
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ ยูไนเต็ด เท่านั้นที่กำลังให้ความสนใจ คู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมทั้ง เชลซี 3 บิ๊กร่วมลีกก็ทำท่าจริงจังกับดีลนี้เช่นกัน
เมื่อพิจารณาจากคู่แข่งแล้วดูเหมือนว่า ทีม ปีศาจแดง จะเสียเปรียบอยู่นิด ๆ ตรงที่พวกเขาร้างไกลความสำเร็จระดับเมเจอร์มาหลายปี นับตั้งแต่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2013 สมัย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ไล่ไปดูคู่แข่งแต่ละทีม เริ่มที่ ลิเวอร์พูล แม้ว่าแชมป์เก่าจะฟอร์มร่วงอย่างน่าใจหาย แต่พวกเขากลายเป็นทีมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก และ พรีเมียร์ลีก มาครองอย่างยิ่งใหญ่ และ เยอรืเก้น คล็อปป์ ก็พร้อมจะกลับมาอีกครั้งในซีซันหน้า
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มี เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือมือทองสมองเพชรที่การันตีแชมป์ลีกปีนี้เอาไว้แล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะตั้งหน้าตั้งตาคว้าแชมป์ทุกถ้วยที่มีอยู่ในประเทศมาครองให้ได้อีกครั้งหลังจากทำสำเร็จมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน ยังไม่นับเส้นทางสู่แชมป์ยุโรปที่ยังมีลุ้นทุกปี
เชลซี เองก็เพิ่งได้ โธมัส ทูเคิล อดีตเฮดโค้ช ดอร์ทมุนด์ ไปคุมทีม ไม่ต้องพุดถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่เสี่ยหมีพร้อมทุ่มไม่อั้น ไหนจะมีเพื่อน ๆ ที่เคยเล่น บุนเดสลีกา ด้วยกันมาแล้วอย่าง ติโม แวร์เนอร์ และ ไคฮา เวิร์ทซ์ คอยท่าอยู่ที่นั่น รวมทั้งเป้าหมายของการสร้างทีมในช่วงซัมเมอร์ก็เพื่อกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในทุกเวที
ตัดกลับมาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ปีนี้พวกเขาฟอร์มดีก็จริง แต่อดีตที่ผ่านมาก็ยังไม่น่าจดจำเท่าไหร่แถมไม่ใช่ทีมที่จะมีลุ้นแชมป์ทุกปีเหมือน 3 ทีมข้างต้น แน่นอนว่าซีซันนี้พวกเขามาดีมาก แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้การันตีว่าจะมีแชมป์อะไรติดไม้ติดมือกลับ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ต่างจากสมัยเท่าเซอร์ที่เมื่อ ยูไนเต็ด ต้องการใคร นักเตะก็แทบจะเก็บกระเป๋าอยากย้ายทีมเสียวันนั้นให้รู้แล้วรู้รอด พวกเขาจึงมีสตาร์ระดับยุโรปเดินเข้าออกตลอดเวลา
ต้องยอมรับว่าชื่อของ เร้ดเดวิลส์ นั้นไม่ได้เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วและ ฮาแลนด์ เองก็คงไม่ได้อยากย้ายทีมเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ อีกต่อไปเช่นกัน
หลายคนอาจจะทราบดีว่าหนึ่งในสาเหตุที่เขาเลือกย้ายจาก เร้ดบูล ซัลซ์บวร์ก มายัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็เพราะเรื่องของพัฒนาการเป็นสำคัญ การได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องในลีกที่ไม่เคี่ยวจนเกินไปเมื่อเทียบกับ พรีเมียร์ลีก หรือ ลาลีก้า ถือเป็นการต่อยอดที่ดี ดีกว่าจะย้ายจากลีกเล็ก ๆ แล้วไปนั่งสำรองกับทีมใหญ่ ๆ ของยุโรป แบบนั้นเท่ากับว่าเจ้าตัวก็จะไม่ได้พัฒนาอะไรเลย
การฟูมฟักตัวเองกับ ดอร์ทมุนด์ แถมยังทำได้ดีตลอดทั้ง 2 ปีที่ผ่านมาถือว่าเขาพร้อมแล้วที่จะออกไปเผชิญโลกภายนอกที่กว้างใหญ่และเคี่ยวกรำกว่า และที่สำคัญ ฮาแลนด์ ไม่พร้อมรอความสำเร็จอีกแล้ว
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สาวก ยูไนเต็ด ต้องมีเลิ่กลั่กกันบ้าง เพราะทีมของตัวเองห่างหายจากแชมป์ใหญ่ ๆ มาเกือบจะ 10 ปี ในขณะที่ดูเหมือนว่าอนาคตก็ยังไม่แน่นอน ต่างจาก 3 ทีมที่ยกตัวอย่างมาซึ่งพร้อมจะการันตีแชมป์ให้กับนักเตะได้เลย
บางที โซลชา และทีมงานอาจจะต้องลดสเป็คกองหน้าตัวใหม่ลงนิดหน่อยเพื่อจะไม่ได้ผิดหวังกับการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด