แมนยู บุกคว้าชัย, เชลซี ถล่มแหลก, บาร์เซโลนา เจ๊าจืด - สรุปผล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คืนวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน
โดย โตมร นวลประเสริฐ
ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดที่ 5 รอบแบ่งกลุ่มคืนวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน เปิดหัวด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ ไมเคิล คาร์ริค บุกดับ บียาร์เรอัล 2-0 โดยที่ เชลซี เพื่อนร่วมศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ จะเปิดรังถล่มแหลก ยูเวนตุส ขาดลอย 4-0 ขณะที่ บาร์เซโลนา ภายใต้การคุมทีมของ ชาบี เอร์นันเดซ เสมอกับ เบนฟิก้า ไร้สกอร์
กลุ่มอี
ดินาโม เคียฟ 1-2 บาเยิร์น มิวนิค
เลวานดอฟสกี้ 14'
โกม็อง 42'
การ์แมช 70'
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พังประตูที่ 9 ติดต่อกันเข้าไปแล้วในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รักษาสถิติคว้าชัยชนะ 100 เปอร์เซ็นต์หลังผ่าน 5 เกมของรอบแบ่งกลุ่ม ส่งพลพรรค เสือใต้ ลอยลำเข้าป้ายด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่มอย่างแน่นอนแม้จะเหลือการแข่งขันอีก 1 นัด
บาร์เซโลนา 0-0 เบนฟิก้า
ชาบี เอร์นันเดซ ประเดิมคุมทัพ บาร์ซา ลงสนามใน แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นเกมแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง แต่แม้พลพรรค อาซูลกรานา จะเป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเกมทว่าไม่อาจเจาะประตูผู้มาเยือนจาก โปรตุเกส ได้
ผลจากการแข่งขันในเกมนี้ทำให้ บาร์ซา รั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนนโดยมี 7 แต้ม และ เบนฟิก้า อยู่ในอันดับที่ 3 จาก 5 คะแนน ซึ่งเกมสุดท้ายของกลุ่มนี้ บาร์เซโลนา จะบุกไปเยือน บาเยิร์น มิวนิค และ เบนฟิก้า จะเปิดบ้านต้อนรับ ดินาโม เคียฟ
กลุ่มเอฟ
บียาร์เรอัล 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โรนัลโด้ 78'
ซานโช 90'
ปีศาจแดง ภายใต้การคุมทัพของ ไมเคิล คาร์ริค กุนซืนขัดตาทัพจัดทัพโดยการส่ง ดอนนี ฟาน เดอ เบค ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในบทบาทจอมทัพหมายเลข 10 โดยประตูจาก คริสเตียโน โรนัลโด้ และ เจดอน ซานโช ส่งผลให้พวกเขาลอยลำผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่แน่นอนแล้วแม้จะเหลือการแข่งขันอีก 1 นัดในรอบแบ่งกลุ่มก็ตาม
ยังบอยส์ 3-3 อตาลันต้า
ซาปาต้า 10'
ซีบัทชู 39'
ปาโลมิโน 51'
เซียร์โร 80'
เฮฟตี 84'
มูเรียล 88'
อตาลันต้า เป็นฝ่ายบุกนำ ยังบอยส์ ก่อนถึง 2 ครั้งก่อนที่พวกเขาจะถูกแซงตามด้วยการโกงตายตามตีเสมอเจ้าบ้านในช่วงท้ายเกม
ผลจากการแข่งขันในเกมนี้ทำให้ อตาลันต้า (6 คะแนน) ยังคงมีลุ้นเบียด บียาร์เรอัล (7 คะแนน) ในการแข่งขันนัดสุดท้ายซึ่งทั้ง 2 จะดวลกันใน อิตาลี
กลุ่มจี
ลีลล์ 1-0 เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
เดวิด 31'
ลีลล์ จบเกมที่ 5 โดยการรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่มในกรุ๊ปที่ทั้ง 4 ทีมยังมีลุ้นเข้ารอบด้วยกันทั้งหมด ซึ่งทีมจาก ลีกเอิง รายนี้มีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ของรายการนี้เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ
เซบียา 2-0 โวล์ฟส์บวร์ก
จอร์แดน 13'
มีร์ 90+7'
เซบียา พลิกสถานการณ์จากการรั้งบ๊วยของตารางคะแนนกลุ่ม จี กลับมามีลุ้นก่อนเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เข่นทีมจาก บุนเดสลีกา ลงไปรั้งอันดับที่ 4 แทนที่
กลุ่มเอช
เชลซี 4-0 ยูเวนตุส
ชาโลบาห์ 25'
เจมส์ 56'
ฮัดสัน-โอดอย 58'
แวร์เนอร์ 90+5'
เชลซี ฟอร์มฮ็อตเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถล่มเอาชนะ ยูเวนตุส ขาดลอย 4-0 จากประตูของ เทรฟโวห์ ชาโลบาห์, รีซ เจมส์, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย และ ติโม แวร์เนอร์ โดยทั้ง 2 ทีมทำแต้มขาดฉลุยผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์เป็นที่แน่นอน ทว่า สิงห์บลู ต้องสังเวย เอ็นโกโล ก็องเต้ กับ เบน ชิลเวลล์ จากอาการบาดเจ็บ
มัลโม 1-1 เซนิต
รีคส์ 28'
ราคิตส์กี้ 90+2'
ผลจากการโกงตายของ เซนิต ไล่ตีเสมอช่วงทดเจ็บสำเร็จทำให้พวกเขาการันตีอันดับที่ 3 คว้าโควต้า ยูฟ่า ยูโรปาลีก สำเร็จ
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด