นัดชิงชนะเลิศครั้งแรกและครั้งเดียวของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ในเส้นทางกุนซือ -โมลด์ กับแชมป์ นอร์วีเจี้ยน คัพ 2013
โดย โตมร นวลประเสริฐ
โหมโรงศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก นัดชิงชนะเลิศระหว่าง บียาร์เรอัล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการย้อนรอยหวนกลับไปเจาะรายละเอียดของเกม นอร์วีเจี้ยน คัพ นัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 2013 ที่ โมลด์ เป็นฝ่ายเอาชนะ โรเซนบอร์ก 4-2 ซึ่งเป็นนัดชิงชนะเลิศครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงเวลานี้ของ โอเล กุนนาร์ โซลชา อดีตกุนซือของ โมลด์ แห่ง นอร์เวย์
เราเรียนรู้อะไรจากวิธีการของ โซลชา บ้างในเกมดังกล่าว และ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของเขาจะมีวิธีการอย่างไรในการดวลกับทัพ เรือดำน้ำสีเหลือง
ภาพรวมก่อนนัดชิงชนะเลิศ นอร์วีเจี้ยน คัพ 2013
นัดชิงชนะเลิศศึก นอร์วีเจี้ยน คัพ 2013 ฟาดแข้งหลังจากลีกสูงสุด นอร์เวย์ สิ้นสุดลงโดย โมลด์ ภายใต้การคุมทัพของ โอเล กุนนาร์ โซลชา จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 6 บนตารางคะแนน พลาดตั๋วยุโรปจากอันดับดังกล่าวและมีคะแนนคามหลัง โรเซนบอร์ก ซึ่งเป็นรองแชมป์ในซีซันนั้นถึง 18 คะแนน
โมลด์ ในฤดูกาลนั้นมี แดเนียล ชิมา ชุควู กองหน้าชาว ไนจีเรีย วัย 21 ปี (14 ประตู 6 แอสซิสต์จากทั้งหมด 45 นัด) เป็นแข้งชูโรงร่วมกับ โจ อิงเก้ เบอร์เก็ท มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 21 ปีชาว นอร์เวย์ (11 ประตู 9 แอสซิสต์จากทั้งหมด 39 เกม)
ทั้งนี้ ทีมชุดดังกล่าวของ โซลชา ยังมีค่าเฉลี่ยอายุผู้เล่น 11 ตัวจริงที่ 21.8 ปีเท่านั้น
ลูกฮึดและการเล่นเซ็ตพีซนำชัย
โมลด์ ในชุดดังกล่าวดูจะเป็นรอง โรเซนบอร์ก อยู่เล็กน้อยโดย โอเล กุนนาร์ โซลชา เลือกใช้รูปแบบการเล่น 4-2-3-1 แผนถนัดที่ทีมใช้มาตลอดทั้งซีซันดวลกับรองแชมป์ลีก นอร์เวย์ ที่มาในระบบ 4-3-3
พวกเขาออกสตาร์ทด้วยการขึ้นนำ โรเซนบอร์ก 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 16 ของเกมจากการเก็บตกลูกเตะมุมที่แถวสองของแบ็คซ้าย นุท โอลาฟ รินดารอย ตะบันด้วยซ้ายบอลไปซุกที่ก้นตาข่าย แต่ให้หลังจากนั้นเพียง 1 นาทีทีมของ โซลชา ก็ถูกตามตีเสมอ 1-1 ด้วยลูกยิงไกลที่หน้ากรอบเขตโทษ และถูกแซงเป็น 2-1 เมื่อเริ่มต้นครึ่งหลังได้เพียง 4 นาทีจากการป้องกันลูกเตะมุมที่ไม่ดีพอ
การขยับเปลี่ยนตัวคนแรกของ โซลชา เกิดขึ้นหลังจากเสียประตู 2-1 ไม่กี่อึดใจโดยเป็นการเปลี่ยนผู้เล่นในแนวรุกริมเส้นก่อนที่ความพยายามทวงประตูตีเสมอ 2-2 ของ โมลด์ จะสำเร็จในนาทีที่ 71 โดย โจ อิงเก้ เบอร์เก็ท ซัลโวลูกโหม่งตั้งจากเตะมุมในระยะเผาขน
โมลด์ แซงเป็น 3-2 ในนาทีที่ 82 จากลูกฟรีคิกของ มักเน โฮเซ็ธ ห้องเครื่องของทีมก่อนที่ โซลชา จะขยับเปลี่ยนตัวอีก 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นการส่งกองหน้าตัวสำรองสลับลงมาเล่นและถอดดาวซัลโซของทีมอย่าง ชุควู ออกโดยเติมผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับแทนที่ก่อนที่จังหวะสวนกลับเร็วจะนำมาสู่ประตูตอกฝาโลง 4-2 ในช่วงท้าย
คาดการณ์แผนของ โซลชา ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรปาลีก 2020/21
จากทัศนคติของ โซลชา ในเกมนัดชิงชนะเลิศรายการ นอร์วีเจี้ยน คัพ 2013 กับ โมลด์ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่นายใหญ่ชาว นอร์เวย์ จะเพลย์เซฟเล่นแบบรัดกุม ใช้รูปแบบการเล่นอย่างที่ทีมถนัด ไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของทีมมากนัก มีความเป็นไปได้สูงที่แผน 4-2-3-1 ซึ่งมีคู่มิดฟิลด์ตัวกลางป้องกันแนวรับแบ็คโฟร์จะถูกงัดออกมาใช้อีกครั้งโดยมี ปอล ป็อกบา, บรูโน แฟร์นันด์ส ขับเคลื่อนแนวรุกร่วมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เอดินสัน คาวานี
เมสัน กรีนวูด รับบทบาทโจ๊กเกอร์ที่ม้านั่งสำรองและจะเป็นตัวเลือกแรกของ โซลชา ยามทีมต้องการประตู ขณะที่ เนมานยา มาติช สแตนด์บายพร้อมที่จะช่วยขันแดนกลางหากทีมมีสถานะได้เปรียบในช่วงท้ายเกม
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด