วูล์ฟส์ 3-4 แมนยู: ประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก ''ปีศาจแดง'' หืดจับบุกเฉือน หมาป่า สุดดราม่า เมื่อคืนที่ผ่านมา

ทุกอย่างดูเหมือนจะง่าย แต่ไม่...เพราะอะไร???

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ วูล์ฟส์ เจ้าถิ่นไปก่อนถึง 2 ลูก ตั้งแต่ครึ่งทางของครึ่งแรก - มันเป็นฟอร์มครึ่งแรกที่ดีที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2023/24 ก็ว่าได้

ประตู 1-0 และ 2-0 ในครึ่งแรก มันเป็นการเข้าทำ ''แบบทีมเวิร์ค'' มาจากการเล่นร่วมกันของผู้เล่น ซึ่งการได้ประตู ''แบบทีมเวิร์ค'' ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ สำหรับ ยูไนเต็ด ยุค เอริค เทน ฮาก

ตอนนั้นทุกอย่างดูเหมือนง่ายไปหมดสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในครึ่งแรก

สาเหตุก็เพราะว่า ทีมหมาป่า ของ แกรี่ โอนีล ไม่ได้สร้างความลำบากใจให้กับผู้เล่น ปีศาจแดง เลย ในแง่การยืนป้องกัน พวกเขาจัดระเบียบกันไม่ดี ยืนกันไม่แน่น เปิดพื้นที่ให้ทีมเยือนเจาะเข้ามาได้ง่าย และการเพรสซิ่งของพวกเขาก็ไม่ดุดันด้วย

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างที่ดูเหมือนจะง่ายในครึ่งแรก แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นในครึ่งหลัง

ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า ลูกทีมของ เทน ฮาก ไม่สามารถปิดเกมได้ อีกทั้งยังมาเสียประตูแบบง่าย ๆ เหมือนเดิมอีกต่างหาก

ชนะแบบสบาย ๆ เป็นเรื่องยากจริง ๆ สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้ยุค ''อีทีเอช'' เพราะไม่ว่าพวกเขาจะนำคู่แข่งห่างเท่าไหร่ 2-0, 3-0 หรือ 4-0 ....คุณไม่สามารถไว้วางใจได้เลยจริง ๆ

แรชฟอร์ด ตอบสนองได้เยี่ยม

หลังจากที่ไม่มีชื่อในเกม เอฟเอ คัพ กับ นิว พอร์ท เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เหตุเพราะ ออกไปท่องราตรีที่ ไอร์แลนด์เหนือ จนเมาเละ และขาดซ้อม

ส่งผลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด โดนสโมสรลงดาบด้วยการปรับเงินเป็นค่าแรงสองสัปดาห์ 650,000 ปอนด์

ทุกสายตาจับจ้องไปที่เขาเพื่อดูว่าเขาจะตอบสนองอย่างไรในนัดนี้

อย่างไรก็ดี เขาตอบสนองได้เยี่ยม เขาไม่ค่อยหวงบอล เล่นสบายตา แถมแสดงความขยันด้วยการลงมาช่วยเกมรับอีกต่างหาก

เขาซัดให้ทีมออกนำเร็วตั้งแต่ 5 นาทีแรก จากโอกาสสับไกหนแรก เท่ากับว่าตอนนี้เขากดไปแล้ว 3 ตุง กับอีก 2 แอสซิสต์ จาก 5 นัดหลังสุดทุกรายการ

ความคงเส้นคงวา คือสิ่งที่ต้องมีหลังจากนี้

แมนฯ ยูไนเต็ด สะสมเพิ่มเป็น 35 คะแนน จาก 22 นัดแรก ขึ้นไปรั้งอันดับ 7 ของตาราง ตามหลัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมอันดับ 4 อยู่ 8 คะแนน

พวกเขายังมีโอกาสติดท็อปโฟร์ แม้ว่าฟอร์มภาพรวมนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2023/24 มองดูแล้วจะเป็นเรื่องยากก็ตาม หลังจากนี้พวกเขา ''จำเป็น'' ต้องสร้างความคงเส้นคงวา

เรื่องนี้พูดกันแทบทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ทุกฤดูกาล นับตั้งแต่หมดยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

4 อันดับแรกของตารางในตอนนี้ 1. ลิเวอร์พูล (51 แต้ม), 2. แมนฯ ซิตี้ (46), 3. อาร์เซนอล (46) และ 4. สเปอร์ส (43)

คำถามคือ พวกเขาจะเขี่ยทีมไหนให้หลุดจากท็อปโฟร์ - ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, อาร์เซนอล หรือ สเปอร์ส????

มันอยู่ที่ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีความคงเส้นคงวามากแค่ไหน เพราะ 4 ทีมดังกล่าวที่เอ่ยมาล้วนมีความสม่ำเสมอมากกว่า ยูไนเต็ด

ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซนอล กำลังลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกกันอย่างสนุก ขณะที่ ท็อตแน่ม กำลังยกระดับของตัวเอง ภายใต้ยุค อังเก้ ปอสเตโคกลู

หากทีมของ เอริค เทน ฮาก ต้องการขึ้นไปแข่งกับหัวบนของตาราง พวกเขาจำเป็นต้องสร้างสิ่งเหล่านี้ให้เป็นนิสัย ไม่ใช่สามวันดีสี่วันไข้

ตอนนี้ นักเตะตัวหลักอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ, กาเซมีโร่ รวมถึง ลุค ชอว์ หายเจ็บกลับมาหมดแล้ว พวกเขาไม่สามารถอ้างได้อีกแล้ว

ค่ำคืนที่ ไมนู จะไม่มีวันลืม

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกม เอฟเอ คัพ ที่บุกชนะ นิว พอร์ท 4-2 เขาทำประตูแรกของตัวเองให้กับ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่ บนวัย 18 ปี กับอีก 9 เดือนกว่า ๆ

เกมลีกล่าสุดกับ วูล์ฟส์ เมื่อคืนที่ผ่านมา เขาเล่นคู่กับแข้งรุ่นพี่อย่าง กาเซมีโร่ ในตำแหน่งกองกลางได้อย่างลงตัว เนียนตา เขาช่วยเกมรับได้หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการดักตัดบอล (2 ครั้ง), เคลียร์บอล (2), บล็อคลูกยิงคู่แข่ง (1) และ แท็คเกิ้ล (3)

เขากลายเป็นฮีโร่ของทีม จากจังหวะโซโล่เดี่ยวก่อนจะซัดชัยให้ทีมในนาทีที่ 90+7 และมันก็เป็นตุงแรกของเขาในพรีเมียร์ลีก ด้วย

ประตูดังกล่าว มันแสดงให้เห็นถึงความนิ่ง, ความกล้า, ความสามารถเฉพาะตัว และความเฉียบขาดในการจบสกอร์ ของ ไมนู

ประตูของ เปโดร เนโต้ แนวรุกหมาป่า นาทีที่ 90+5 ว่าบาปแล้ว แต่ของ ไมนู นั้นบาปยิ่งกว่า!!

เป็นอีกค่ำคืนที่เขาจะไม่มีวันลืม - ขอยก ''แมน ออฟ เดอะ แมตช์'' ให้กับเขา