นาโปลี ออกโรงจวก เอเยนต์และพ่อของ ควารัตสเคเลีย กรณีเปิดเผยต่อสื่อว่าอยากให้นักเตะย้ายทีม

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตระหว่างสโมสร นาโปลี และคนรอบตัวของ ควิชา ควารัตสเคเลีย เมื่อล่าสุดทัพ อัซซูร่า ออกแถลงการณ์ต่อว่าเอเยนต์และผู้เป็นพ่อของนักเตะ กรณีที่ทั้งสองคนออกมาเปิดเผยว่าอยากให้นักเตะย้ายทีมทั้ง ๆ ที่ยังเหลือสัญญาอยู่กับสโมสรอีก 3 ปี พร้อมบอกว่าจะไม่ปล่อยตัวนักเตะรายนี้ออกไปโดยเด็ดขาดในตลาดซัมเมอร์นี้ แม้จะมี ปารีส แซ็ง-แฌร์แม็ง และ บาร์เซโลน่า กำลังให้ความสนใจอยู่ก็ตาม

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มามูคา จูเจลี่ เอเยนต์ส่วนตัวของ ควารัตสเคเลีย เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าตัวนักเตะพร้อมย้ายออกจาก นาโปลี ในซัมเมอร์นี้

"เราอยากย้ายออกจาก นาโปลี แต่แน่นอนว่าในตอนนี้เราทุกคนต่างตั้งตารอคอย ยูโร 2024 ซึ่งผมมั่นใจว่าการเข้ามาทำทีมของ คอนเต้ ที่ นาโปลี เขาจะพาทีมคว้าสิทธิ์ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อย่างแน่นอน รวมถึงการก้าวขึ้นไปท้าชิง สคูเด็ตโต้ ด้วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ควารัตสเคเลีย จะอยากอยู่ที่นี่ต่อ"

"ผมยังไม่ได้คุยกับ ควิชา ในเรื่องนี้ เพราะเขากำลังโฟกัสกับเรื่องทีมชาติอยู่ แต่เป้าหมายของเราคือการให้เขาย้ายไปทีมที่ได้ลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก สิ่งที่แย่คือถ้าเขายังคงอยู่ต่อที่ นาโปลี เขาจะเสียเวลาไปเต็ม ๆ หนึ่งปี ซึ่งเราก็กังวลนะ"

หลังจากนั้น บาดรี ควารัตสเคเลีย ผู้เป็นพ่อก็ออกมาขยายความเพิ่มเติม

"ผมไม่อยากให้ ควิชา อยู่ที่ นาโปลี ต่อไปแล้ว เขาลงเล่นภายใต้โค้ชสี่คนในเวลาหนึ่งปี มันทำให้ผมกังวลมาก แต่อย่างไรก็ตามลูกของผมจะเป็นคนตัดสินใจเรื่องอนาคตด้วยตัวเอง ซึ่งผมยังไม่ได้คุยกับ ควิชา เกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน และ ผมก็จะไม่คุยจนกว่า ยูโร 2024 จะจบลง"

หลังจากนั้นเพียงข้ามคืน สโมสร นาโปลี ก็ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้บุคคลทั้งสองอย่างทันควัน

"อ้างอิงถึงคำพูดของ มามูคา จูเจลี่ ผู้ที่เป็นเอเย่นต์ให้ ควิชา ควารัตสเคเลีย และ ผู้เป็นพ่อของตัวนักเตะอย่าง บาดรี ควารัตสเคเลีย เราขอย้ำเตือนสักหน่อยว่าตัวนักเตะยังมีสัญญาอยู่กับสโมสรอีก 3 ปีนะ"

"ควารัตสเคเลีย ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่สโมสรต้องการจะขายออกไป และมันไม่ใช่หน้าที่ของเอเย่นต์หรือพ่อของนักเตะที่จะมาตัดสินใจเรื่องการย้ายทีมหากเขายังมีสัญญาเหลือกับทางสโมสรอยู่ แต่มันเป็นการตัดสินใจของ นาโปลี !!! จบนะ"

ไม่รู้ว่าประเด็นร้อนแรงนอกสนามจะส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของ ควิชา มากน้อยขนาดไหน ที่แน่ ๆ คือในขณะนี้ตัวนักเตะยังไม่ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวดังกล่าว รวมถึงต้องมารอดูกันว่าทางฝั่ง เอเย่นต์และพ่อของนักเตะ จะออกมาตอบโต้ทางสโมสรอีกหรือไม่