[NOSTALGIA] ผีกาก้า ! ย้อนตำนานแข้งผู้มาหลอกหลอน แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง โอลด์แทร็ฟฟอร์ด
โดย ภครัช เสนไกรกุล
แม้แฟนบอลในปัจจุบันจะไม่คุ้นชินนักแต่โลกลูกหนังในอดีตก็เคยมีช่วงที่ไม่ได้ถูกปกคลุมโดยร่มเงาของสองนักเตะอย่าง ลีโอเนล เมสซี และ คริสเตียโน โรนัลโด้ อยู่
ย้อนกลับไปเมื่อซักช่วงปี 2006-2007 ผู้ขายวิญญาณให้ลูกหนังเองก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับหนึ่งตำนานแข้งอย่าง ริคาร์โด กาก้า ซึ่งนอกจะมีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมแล้วหน้าตายังหล่อเหลาเข้าขั้นนายแบบ
กาก้า ทะลุสู่ชุดใหญ่ของ ปีศาจแดงดำ ตั้งแต่ช่วงปี 2003 ด้วยการเบียดแย่งตำแหน่งกับรุ่นพี่ระดับพระกาฬอย่าง รุย คอสต้า พร้อมได้บ่มเพาะฝีมือตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ
จนมาถึงช่วงที่พีคที่สุดในทัวร์นาเมนท์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2006-2007 ที่เขาได้สำแดงฤทธิ์เดชเป็นออเดิร์ฟย่อมๆ ด้วยการโซโล่เดี่ยวยิงประตู กลาสโกว เซลติก ในช่วงต่อเวลาพิเศษหลังเสมอกัน 0-0 ใน 180 นาที
ตัดสลับมารอบรองชนะเลิศ เอซี มิลาน ก็โคจรมาเจอคู่แข่งสุดหินอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่มี คริสเตียโน โรนัลโด เป็นตัวชูโรง
วินาทีนั้นต้องบอกว่า ปีศาจแดง อยู่ในช่วงที่มั่นใจสุดๆ หลังเกมก่อนหน้านี้เพิ่งถล่มอีกหนึ่งทีมจากอิตาลีอย่าง โรม่า ไปถึง 7-1
นอกจากนี้ในปีนั้นยังไม่มีใครบุกมายิงที่ โอลด์แทร็ฟฟอร์ด ได้ถึง 2 ประตูเลยแต่สำหรับ 'ผีกาก้า' เขาก็บันดาลให้เกิดขึ้นมาได้
เริ่มจากประตูแรก กาก้า ก็ได้โชว์ทักษะการหาตำแหน่งและด้วยการเปิดบอลที่ตรงจุดของ คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ เขาก็ใช้ความเร็วกระชากหายเข้าไปยิงได้อย่างเฉียบขาด
ส่วนประตูที่สองอันเป็นที่โจษจัน กาก้า ก็ได้โชว์เหนือด้วยการกระดกบอลเข้ากลางผ่านทั้งกองหลังอย่าง พาทริซ เอฟรา, กาเบรียล ไฮน์เซ่ ที่โดนหลอกจนหัวคะมำก่อนซัดเข้าไปอย่างเลือดเย็น
แม้สุดท้ายแล้วเกมนั้น ปีศาจแดง จะเอาชนะได้ 3-2 แต่ความได้เปรียบของพวกเขาในการกลับไปเล่นที่ ซานซิโร่ ก็เหลือไม่มากแล้ว
เกมเลกสองเมื่อทุกอย่างเข้าทาง มิลาน หมด กาก้า ก็รับบทพระเอกอีกครังด้วยการยิงเปิดตั้งแต่ต้นเกมก่อน ซีดอร์ฟ และ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ จะมาบวกอีกคนละตุงเอาชนะ ปีศาจแดง จนกลับบ้านไม่ถูก 3-0
ขณะที่ในประเทศไทยในช่วงที่มีเพลงติดหูอย่าง 'หมีแพนด้า' ก็ได้มีแฟนบอลที่เข้าใจว่าน่าจะเป็นสาวก ลิเวอร์พูล แต่งเพลงล้อเลียนด้วยชื่อเพลงว่า 'ผีกาก้า' เนื่องในโทษฐานได้หลอกหลอน ผีแดง อย่างหนักหน่วง
ในปีนั้น กาก้า จบด้วยการพา เอซี มิลาน เถลิงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการชำระแค้นตัวแสบอย่าง ลิเวอร์พูล และเขาก็ยังคว้ารางวัลดาวซัลโวด้วยการยิงถึง 10 ตุง
ขณะที่ความสำเร็จสูงสุดส่วนตัวในฐานะนักฟุตบอลอย่าง บัลลงดอร์ นั้นก็ได้มาเยือน กาก้า ในปีนั้นเช่นกัน ซึ่งก็ทำให้เขาเป็นมนุษย์โลกที่ครอบครองรางวัลนี้คนสุดท้ายก่อนที่ ลีโอเนล เมสซี และ คริสเตียโน โรนัลโด จะสลับกันเอามานอนกอดในช่วงต่อมาเป็นระยะเวลาถึง 10 ปีเต็มๆ
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด