[NOSTALGIA] ย้อนรอย เจาะลึกเหตุ ซน ปะทะเดือด ยอริส : จากความบาดหมางสู่แพสชั่นอันยิ่งใหญ่ของกีฬาฟุตบอล (คลิป)

Tottenham Hotspur v Southampton FC - FA Cup Fourth Round: Replay
Tottenham Hotspur v Southampton FC - FA Cup Fourth Round: Replay / Julian Finney/Getty Images
facebooktwitterreddit

หากใครพอจะจำกันได้ โดยเฉพาะแฟนบอลของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2020 ที่ผ่านมาในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ สเปอร์ส เปิดบ้านเฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน ไปได้อย่างหวุุดหวิด 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ ไมเคิล คีน ในนาทีที่ 24 นั้น ระหว่างเกมมีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษไปพักใหญ่ นั่นคือการโต้เถียงชนิดที่เกือบถึงขั้นลงไม้ลงมือของผู้เล่น ไก่เดือยทอง ด้วยกันเองอย่าง ซน เฮือง มิน และ อูโก้ ยอริส...

West Bromwich Albion v Tottenham Hotspur - Premier League
West Bromwich Albion v Tottenham Hotspur - Premier League / Pool/Getty Images

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องจากช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งเวลาแรกที่ ซน เฮือง มิน พยายามลากบอลขึ้นหน้าแต่กลับเสียบอลกลางสนาม ซึ่ง ริชาร์ลิซอน ที่ตัดบอลไปก็เกือบจะยิงประตูได้ในจังหวะนั้น

และหลังจาก เกรแฮม สกอตต์ เป่าจบ 45 นาทีแรก นายทวารชาวฝรั่งเศสก็ปรี่เข้าหาหัวหอกโอปปารายนี้ทันทีพร้อมทั้งต่อว่ากันอย่างดุเดือดชนิดที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง จิโอวานี โล เซลโซ แฮร์รี วิงค์ส และ มุสซา ซิสโซโก้ ต้องเข้ามาห้ามทัพกันยกใหญ่ตั้งแต่ยังไม่เดินเข้าอุโมงเลยด้วยซ้ำ

แน่นอนเหตุการไม่ได้จบแค่ปากอุโมง เพราะหลังจากเข้าสู่ห้องแต่งตัว สองคู่กรณีก็ทำการเปิดศึกฟาดปากกันยกที่สอง...

"นายต้องทำเหมือนที่ทุกคนเขาทำ ทุกคนเขาช่วยกัน ทั้ง แฮร์รี (เคน) ทั้ง ลูคัส (มูรา) วิ่งไล่บอลสิ เราเหลืออีกแค่นาทีเดียวแท้ ๆ แต่กลับเกือบต้องมาเสียประตูแบบนี้" ทายทวารกัปตันทีม ตะโกนด้วยความเกรียวกราด

แน่นอน ซน ก็ไม่น้อยหน้า เดินเข้าไปโต่เถียงอย่างดุเดือดทำนองว่า "แล้วนายละ ทำอะไรได้บ้าง !"

ด้าน ยอริส ก็ยังคงสวนกลับไปว่า "นายก็วิ่งสิวะ วิ่งสิ ทุ่มเทเพื่อทีม !"

จนในที่สุด แซร์จ ออริเยร์ รวมถึง โชเซ มูรินโญ ต้องเอามาแยกทั้งคู่ออกจากกันเป็นหนที่สอง

หลังจากทั้งสองฝ่ายเริ่มสงบลง ก็ถึงตาของ "เดอะ สเปเชียลวัน" ออกโรงพูดบ้าง
"เอาละ ๆ ทุกคนฟัง ผมจะพูดอย่างรวบรัด สิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณสองคนโกรธอะไรกันมาที่มาตะโกนใส่กันว่า ทำไมไม่ลงมารับ ทำไมไม่ไล่บอล ซึ่งถ้าเราทำตัวเป็นเด็ก ๆ แน่นอนเรื่องมันจะจบลงแย่กว่านี้ แต่ถ้าพวกคุณนำมันไปใช้ในทางที่ถูกต้อง คุณจะแข็งแกร่งขึ้น"

"เหตุการณ์แบบนี้อาจเป็นอะไรที่ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน แต่มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณคาดหวังอะไรที่มากกว่าจากเพื่อนร่วมทีม คุณต้องการความขยัน คุณต้องการความรับผิดชอบ ที่คุณมองว่าทุกคนจำเป็นต้องทุ่มเทให้มากกว่าเดิม"

"ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับพวกคุณ ถ้าคุณสามารถนำความบาดหมางเหล่านี้เปลี่ยนเป็นแรงผลักดันได้ เมื่อนั้นแหละคุณคือผู้ชนะที่แท้จริง"

และอย่างที่ทราบกัน ผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของ สเปอร์ส ซึ่งหลังจากนั้น ทั้ง ยอริส และ ซน ก็เข้ามาโผกอดกันราวกับว่าเหตุการณ์ช่วงพักครึ่งไม่เคยเกิดขึ้น โดย ยอริส ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า "มันเป็นช่วงที่สำคัญของเกมที่คุณห้ามพลาดเสียประตูเป็นอันขาด และเมื่อคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดแบบนั้น บางครั้งมันก็ยากที่จะควบคุมอารมณ์ แน่นอนมันทำให้ผมหลุดไปบ้างเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามเราก็กลับมาจับมือและก้าวต่อไป"

FBL-ENG-PR-TOTTENHAM-EVERTON
FBL-ENG-PR-TOTTENHAM-EVERTON / ADAM DAVY/Getty Images

ซึ่งหลังจบเกม บรรยากาศในห้องแต่งตัวนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่นและทุกคนร่วมยินดีกับชัยชนะในเกมวันนั้น

โชเซ มูรินโญ ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังเกมว่า "อันที่จริงสิ่งเหล่านั้นควรจะเกิดขึ้นเฉพาะในห้องแต่งตัวเท่านั้น อูโก้ มองว่าผู้เล่นในแนวรุกควรจะลงมาช่วยเกมรับมากกว่านี้ แต่พวกคุณรู้ไหม สิ่งแรกที่ผมอยากจะบอกนักเตะทุกคนคือ ผมมีความสุขมาก ๆ กับเหตุการณ์นี้ ผมบอกพวกเขาไปว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดเลยที่จะโต้เถียงกัน เพียงแค่คุณต้องก้าวต่อไป"

"ผมบอกได้เลยว่าทีมของผมที่ได้รับชัยชนะมาทั้งหมด เรามีการโต้เถียงอันดุเดือดเกิดขึ้นทั้งนั้น และถ้าพวกคุณจะโทษใครสักคนละก็ ให้มาลงที่ผมซะ ! เพราะผมปลูกฝังพวกเขามาตลอดเองให้คาดหวังสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ" ยอดกุนซือชาวโปรตุเกส กล่าวทิ้งท้าย


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด