5 เหตุผลที่ อังกฤษ จะข้ามผ่าน สเปน ขึ้นบัลลังก์ ผงาดแชมป์ ยูโร 2024 - OPINION
• ร้างแชมป์มา 58 ปี ขอครั้งนี้แหละ ถึงฝั่งฝัน
• นี่คือ 5 เหตุผลที่ อังกฤษ จะเป็นแชมป์ยุโรป สิ้นสุดการรอคอยเสียที!
โรมรันกันมา 1 เดือนเต็ม ตั้งแต่ 14 มิ.ย. จนกระทั่งเหลือ "เกมสุดท้าย" นัดชี้แชมป์ เกมชิงชนะเลิศ ยูโร 2024 วันอาทิตย์ 14 ก.ค. นี้ ที่จะได้รู้กันไปว่าใครกันจะเป็นเจ้ายุโรป ระหว่าง อังกฤษ กับ สเปน ที่สนาม โอลิมเปียสตาดิโอน กรุงเบอร์ลิน ซึ่งโอกาสนี้ เราถือโอกาสจับยามสามตา จนได้มาซึ่ง 5 เหตุผล ที่โทรฟี่แชมป์จะตกไปอยู่ในมือ "สิงโตคำราม" สิ้นสุดการรอคอยเกือบ 60 ปี ลงแต่เพียงเท่านี้
เพราะ อังกฤษ เพิ่งชนะ สเปน มาเอง
ในประวัติศาสตร์การป๊ะกันแห๋มของ อังกฤษ กับ สเปน นับตั้งแต่ 1929 เป็นต้นมา ภาพรวมออกทรงค่อนข้างคู่คี่สูสี
- อังกฤษ ชนะ 14 ครั้ง
สเปน ชนะ 10 ครั้ง
เสมอกันแค่ 3 หนเท่านั้น
แต่ข้อเท็จจริงที่แฝงอยู่ในนั้น คือการที่ อังกฤษ เคย "ข่มมิด" ผูกปีสยบกระทิงดุแบบไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันมาก่อน ในระหว่างปี 1960 จนถึง 1980 ซึ่งหมายถึงระยะ "ยี่สิบปีเต็ม" ที่ อังกฤษ ยัดเยียดความปราชัยให้ สเปน ทุกครั้งที่พบกัน ไม่ว่าจะเหย้าเยือนหรือรายการไหน
20 ปี 7 นัด อังกฤษ ชนะรวดเหนือ สเปน
หรือถ้าจะบอกว่านั่นคือเรื่อง "เก่าไป" เก็บมายึดถือเป็นน้ำหนักอะไรไม่ได้ ก็จิ้มไปที่ผลการพบกัน "ล่าสุด" ก็ยังไหว
15 ต.ค. 2018 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่ เอสตาดิโอ เบนิโต้ บียามาริน เมืองเซบีย่า
อังกฤษ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต บุกไปกราดยิงนำหน้า สเปน ของ หลุยส์ เอ็นริเก้ แบบทิ้งสกอร์ขาดถึง 3-0 ด้วยการซัดของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.16, มาร์คัส แรชฟอร์ด น.29 และ สเตอร์ลิ่ง กดอีกลูกของตัวเอง น.38
กว่าที่ สเปน จะแก้คืนได้ 2 เม็ด ก็สายไปแล้ว กับการยิงของ ปาโก้ อัลกาเซร์ น.58 และ เซร์คิโอ รามอส น.90
เป็นเรื่องจริงที่การเจอกันล่าสุดนัดที่ว่านี้ ทิ้งระยะผ่านมาได้นานพอตัวแล้ว และทั้งสองฝั่งต่างก็เปลี่ยนโฉมไปไม่ใช่ทีมเดิมแม้แต่น้อย
แต่แล้วไงใครแคร์ ก็สถิติมันบอกว่า อังกฤษ ชนะ สเปน มาได้ใน "เกมล่าสุด" ก็แล้วกัน
เพราะ สเปน ไม่ได้แกร่งขนาดนั้น
เป็นเรื่องจริงอีกเหมือนกันที่ สเปน มา "โคตรดี" ใน ยูโร 2024
- ชนะ โครเอเชีย 3-0
ชนะ อิตาลี 1-0
ชนะ อัลเบเนีย 1-0
ชนะ จอร์เจีย 4-1
ชนะ เยอรมนี 2-1 (ต่อเวลา)
ชนะ ฝรั่งเศส 2-1
แต่ข้อเท็จจริงที่แฝงอยู่ในนั้นก็คือ สเปน "หืดขึ้น" ใช่ย่อยกว่าจะผ่านของแข็งอย่าง เยอรมนี หรือ ฝรั่งเศส มาได้
โดยเฉพาะในเกม 8 ทีมสุดท้ายกับเจ้าภาพ ทุกอย่างอาจพลิกฝ่ามือผิดเพี้ยนไปจากนี้ทันที ถ้า...
ถ้า ไค ฮาแวร์ตซ์ จะคมขึ้นกว่านี้อีกสัก 5% และเช็คบิลได้จากโอกาสจะแจ้งทั้งหมด 4 ครั้งในเกม
ถ้าลูกยิงของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ในนาที 105 จะเบี่ยงองศาเข้าในอีกนิดเดียว ไม่เฉี่ยวออกเสาสอง
ถ้าลูกเปิดของ ดานี่ โอลโม่ ไม่ได้ลอยเข้าหัว มิเกล เมริโน่ เป๊ะขนาดนั้น
หรือถ้าเกมต้องยืดเยื้อถึงดวลจุดโทษ...ใครเล่าจะรู้บทสรุป
ไม่ต่างกันกับรอบตัดเชือก ซึ่ง สเปน แค่ "ดวงดีกว่า" แซงหน้า ฝรั่งเศส ได้ด้วยการรัวสองเม็ดซ้อน น.21 และ 25
ภาพที่เกิดขึ้นในทั้งสองเกม ล้วนแต่บอกว่า สเปน ไม่ได้ไร้เทียมทานถึงกับเป็นทีมที่เจาะไม่เข้า เอาชนะไม่ได้ และนอนมาสำหรับการคว้าแชมป์ ขนาดนั้น
เวลาเดียวกัน อังกฤษ ชุดนี้ ก็มี "อาวุธ" มากพอจะเล่นงานทุกทีมในโลกได้ ไม่ว่าจะ แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น, บูกาโย่ ซาก้า, จู๊ด เบลลิงแฮม ไปจนถึงขุมกำลังสำรองอย่าง โอลลี่ วัตกิ้นส์, ไอแวน โทนี่ย์, โคล พาลเมอร์ และคนอื่นๆ
ชนะ 6 เกมรวดแล้วไง แพ้นัดที่ 7 ขึ้นมา ก็น้ำตานองกลับบ้านนะครับนะ
เพราะเธอมี 'ยามัล' ของเธอ ฉันก็มี 'เมนู' ของฉัน
ไม่ต้องสงสัยว่ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำ ยูโร 2024 ได้ตกเป็นของเด็ก 16 ย่าง 17 อย่าง ลามีน ยามัล ไปแล้วอย่างไม่เป็นทางการ จากผลงาน 1 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ยามัล จะเหมาทั้งโทรฟี่ส่วนตัว และโทรฟี่แชมป์ ยูโร กลับออกไปเสียหน่อย
และในขณะที่ สเปน มี ยามัล
อังกฤษ ก็มี ค็อบบี้ เมนู เป็นที่เชิดหน้าชูตาเหมือนกัน
เป็นเครดิตของ เอริค เทน ฮาก และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเต็มๆ กับการสร้างเพชรเม็ดงามชิ้นนี้ขึ้นประดับวงการ และส่งให้ อังกฤษ ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
- นี่คือสถิติของเจ้าหนูเชื้อสายกาน่า วัย 19 "ค็อบบี้ บัวเต็ง เมนู" ในเกมสยบ เนเธอร์แลนด์ 2-1
100% ดวลชนะคู่แข่ง
100% จ่ายบอลยาวสำเร็จ
51 สัมผัสบอล
36 จ่ายบอลสำเร็จ
6 จ่ายเข้าพื้นที่สุดท้าย
4 สกัดในแนวรับ
2 สร้างโอกาสยิง
การตัดสินใจของ เซาธ์เกต อาจเกิดขึ้นช้า แต่ถึงมาช้าหน่อย แต่ก็มาแล้ว และก็เลิกพูดกันได้เสียทีว่าใครกันที่ควรยืนเคียงข้าง ดีแคลน ไรซ์ ในแดนกลางสิงโตคำราม
อาจใช่ที่ชั่วโมงบิน เซนส์บอล คุณภาพโดยรวม อาจยังสู้ โรดรี้ คีย์แมนตรงกลางของ สเปน ไม่ได้
แต่ขออนุญาตทวนความจำหน่อยแล้วกันว่า...
25 พ.ค. ที่เวมบลีย์ แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เมนู เบียดชนะ แมนฯ ซิตี้ ของ โรดรี้ 2-1
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมนู คือเจ้าของประตู 2-0 ในเกมนั้นเสียด้วย
เพราะ 'แฮร์รี่ เคน'
- รองแชมป์ แคปปิตอล วัน คัพ 2015
รองแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2016/17
รองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019
รองแชมป์ ยูโร 2020
รองแชมป์ คาราบาว คัพ 2021
รองแชมป์ เดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพ 2023
รองแชมป์ บุนเดสลีกา 2023/24
เห็นแบบนี้ "ราชาพระรอง" อย่าง มิชาเอล บัลลัค คงอยากเดินเข้าหา พร้อมสวมกอดแน่นๆ ใส่ แฮร์รี่ เคน สักหนึ่งชุด
แต่ในเมื่อ บัลลัค ก็ยังพลิกชะตาจากพระรอง ขึ้นเป็นพระเอกได้ในท้ายที่สุด (แชมป์บุนเดสลีกากับ บาเยิร์น, แชมป์พรีเมียร์ลีก แชมป์เอฟเอ คัพ กับ เชลซี) ทำไม แฮร์รี่ เคน จะเริ่มนับหนึ่งกับเขาบ้างไม่ได้ในวันอาทิตย์นี้
อาจใช่ที่ ยูโร 2024 ไม่ใช่รายการที่ เคน ทำผลงานส่วนตัวได้ดีนัก และ เซาธ์เกต ก็กล้าๆ ถอดกัปตันทีมอย่างเขาออกไป เพื่อส่งโจ๊กเกอร์ตัวอื่น (ไอแวน โทนี่ย์, โอลลี่ วัตกิ้นส์) ลงแก้เกมในช่วงชี้เป็นชี้ตายมาแล้ว
แต่ถึงจะไม่ท็อปฟอร์ม เคน ก็กดแล้ว 3 ประตู ติดกลุ่มนำดาวซัลโวอยู่ตอนนี้
กับแนวรับ สเปน ที่ก็ใช่ว่าจะแข็งแกร่งอะไรมากมาย
การที่ เคน จะยิงเพิ่มอีกสัก 1-2 เม็ด เพื่อคว้าทั้งดาวซัลโวและแชมป์ยูโรไปครองแบบ "โคตรพระเอก" โคตรวิ่งโคตรซิ่งโคตรแซ้ด
ทำไมจะเกิดขึ้นไม่ได้กันล่ะ
เพราะเก่งมาจากไหน ก็ไม่อาจสู้ 'โชคดวง'
ถูกต้องที่สุด ว่าในขณะที่ สเปน มาด้วยฟุตบอลคุณภาพ แกร่งขั้นที่ชนะมา 6 เกมซ้อน
อังกฤษ ก็คือ "สิงโตขี่ดวง" จนกระทั่งกรุยทางมาได้จนถึงนัดชิงชนะเลิศ
- รอบแรก ชนะแค่เกมเดียว หวิดจะแพ้ เดนมาร์ก เอาด้วย
รอบ 16 ทีม ตามตีเสมอ สโลวีเนีย 90+5 (จู๊ด เบลลิงแฮม) แล้วแซงชนะตอนต่อเวลา
รอบ 8 ทีม ลากถึงดวลจุดโทษ และเบียดชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 5-3
รอบตัดเชือก กำชัยเหนือ เนเธอร์แลนด์ 90+1 (โอลลี่ วัตกิ้นส์)
สเปน เองอาจจะมีโชคดวงส่งเสริมอยู่พอตัว แต่ภาพก็ชัดอยู่แล้วว่า อังกฤษ เหนือกว่าในแง่ของ "บางอย่างที่มองไม่เห็น"
เพราะเก่งมาจากไหน ก็ไม่อาจสู้โชคดวงได้
อังกฤษ พร้อมโอบรับมันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ต่อให้มันจะเป็นการเตะมั่วๆ เข้าประตู, ยิงแฉลบ 2-3 ต่อเข้าก้นตาข่าย หรือจะได้เฮจากการสงเคราะห์ให้เองของกองหลังกระทิง
ก็พกดวงมาเต็มๆ ขนาดนี้ เหลืออีกแค่ 90 นาทีเพื่อเข้าเส้นชัย
อังกฤษ จะเป็นแชมป์ ยูโร หนแรกที่รอคอย ได้จากโชคดวงที่เกื้อหนุนพวกเขาเป็นพิเศษ
ไม่เชื่อคอยดู!