1 แต้มจากแอนฟิลด์ ที่นำมาซึ่ง "5 เรื่องเสียว" กับโอกาสพลาดแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ อาร์เซนอล - OPINION
8 เกมสุดท้ายของ อาร์เซน่อล กับ 9 นัดที่ยังเหลือของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงตรงนี้ ชัดเจนว่ามันคือเรื่องของ "ม้าสองตัว" ว่าใครจะเร่งสปีดตีนปลายได้ดีกว่ากัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากผลเสมอแบบน่าแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ ก็ทำให้ อาร์เซน่อล เกิดอาการเสียวไส้ขึ้นมาไม่น้อยว่าจะไปถึงฝั่งฝันที่รอคอยมาเกือบ 2 ทศวรรษ ได้รึเปล่า โอกาสนี้ ไปดูกันว่าความน่าหวาดหวั่นเหล่านั้นประกอบด้วยเรื่องอะไรและแบบไหนกันบ้าง...
เสียวจะสะดุดยาว
แม้อาจดูเป็นการ "ตีตนไปก่อนไข้" อยู่สักหน่อย เมื่อใช่ว่าผลเสมอ 2-2 ที่แอนฟิลด์ จะเป็นตัวฉุดรั้งทุกอย่างเอาไว้ เพราะอย่างเกมที่หลุดเสมอ เซาแธมป์ตัน 1-1 ที่เซนต์ แมรี่ส์ ช่วงเดือน ต.ค. ปีก่อน ให้หลังมาแค่สัปดาห์เดียว อาร์เซน่อล ก็ระเบิดฟอร์มจัดจ้านได้อีกครั้งด้วยการเปิดบ้านกราดยิง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถึง 5-0 รวมเป็นระยะยิงยาวเข้าวิน 5 เกมซ้อน
อย่างไรก็ตาม ภาพของเมื่อเดือน ก.พ. ก็ไม่ได้หนีไปไหน กับตอนที่สะดุดล้มแล้วก็ลุกขึ้นได้ลำบากอยู่สักหน่อย
แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1
เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1
แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3
ผลฟุบๆ 3 เกมติดครั้งนั้นทำให้ตอนกลางเดือน ก.พ. เด็กๆ ของ มิเกล อาร์เตต้า ถูกทาง แมนฯ ซิตี้ บีบแต้มเข้าใกล้ชนิดหายใจรดต้นคอ เหลือช่องห่างแค่ 2 คะแนนเท่านั้น
ยังดีที่ว่าต่อมา แมนฯ ซิตี้ ก็ดันทำได้แค่ออกไปเสมอ ฟอเรสต์ 1-1 (18 ก.พ.) และ อาร์เซน่อล ไม่พลาดเพิ่มอีก ทำให้ช่องห่างขยับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง จนมาเป็น 6 แต้มในปัจจุบัน
ดังนั้นหมายความว่า เกมถัดไปที่ อาร์เซน่อล จะบุกเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อาทิตย์ 16 เม.ย. สำคัญมากถึงมากที่สุด
เพราะเกิดถ้าพลาดพลั้งเสียท่าขึ้นมา (แค่ไม่ชนะก็นับว่าพลาดแล้ว) อาร์เซน่อล อาจออกอาการ "ขาสั่น" เสียวสันหลังเอาได้ง่ายๆ
เสียวกับปัญหาหลังบ้าน
ในภาพรวม อาร์เซน่อล ยังคงเป็นหนึ่งในทีมที่ "หลังเหนียว" ที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ จากการเสียไป 29 ประตู ที่น้อยกว่านี้มีแค่ นิวคาสเซิ่ล (21) กับ แมนฯ ซิตี้ (27)
แต่หากจะเจาะภาพแคบลงแล้ว จะเห็นว่า หลังบ้านปืนโตกำลังแกว่งไกวอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อ 5 นัดหลังสุด อาร์เซน่อล ทำคลีนชีตได้แค่ 1 เกมถ้วน
ชนะ บอร์นมัธ 3-2
ชนะ ฟูแล่ม 3-0
ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-1
ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-1
เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2
5 นัดหลังเหล่านี้ ปืนใหญ่เสียไปรวม 6 ประตู ที่แม้จะไม่ได้มากมาย แต่ก็พูดได้ว่าพวกเขา "โดนยิงแทบทุกนัด" โดยเฉพาะล่าสุดที่แอนฟิลด์ ที่ถ้าไม่ได้ อารอน แรมส์เดล ช่วยไว้ ใครจะกล้ารับประกันว่า อาร์เซน่อล จะไม่แพ้กลับออกมา
ที่จริง อาการช้ำรั่วเริ่มแสดงให้เห็นตั้งแต่เกมกับ บอร์นมัธ แล้ว ที่เสียประตูเร็วตั้งแต่ไม่กี่สิบวินาทีแรก (ฟิลิป บิลลิ่ง) ก่อนโดนเม็ดสองกลางครึ่งหลัง และเกมนั้นก็ถือว่า อาร์เซน่อล มีโชคให้มาได้เฮเต็มเสียงจาก รีสส์ เนลสัน ตอนที่ปาเข้าไป 90+7 แล้ว
ส่วนหลังจากทำคลีนชีตได้ที่ คราเวน ค็อตเทจ แล้ว อาร์เซน่อล ลงเตะ ยูโรป้า ลีก เสมอ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (และตกรอบ) โดยต้องสังเวยไปด้วยอาการบาดเจ็บของเซนเตอร์แบ็กคีย์แมน วิลเลี่ยม ซาลิบา
ปราการหลังฝรั่งเศส เจ็บแผ่นหลังในเกมนั้น และจนวันนี้ยังคงไม่ได้กลับมาเล่น ซึ่งในจำนวน 3 นัดที่เจ้าตัวไม่ได้อยู่ในสนาม คู่เซนเตอร์อย่าง กาเบรียล มากัลเญส - ร็อบ โฮลดิ้ง ก็ทำให้ทีมเสียประตูมาทุกนัด โดยเฉพาะเกมวานนี้ที่เจียนอยู่เจียนไปจะโดนเม็ด 3 เสียให้ได้
เวลานี้ ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่า ซาลิบา จะฟิตพร้อมลงเล่นได้เมื่อไหร่
แต่ชัดเจนว่ายิ่งพักนานก็ยิ่งเป็นเรื่องน่าเสียวไส้ของ อาร์เซน่อล กับแผงหลังที่ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนตอนมี ซาลิบา อยู่เป็นแกน
เสียวกับโปรแกรมโหด
คงต้องถือเป็นโชคดีในความโชคร้าย ว่าการไม่ได้ไปต่อใน ยูโรป้า ลีก (แพ้จุดโทษ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 3-5) และร่วง เอฟเอ คัพ ตั้งแต่รอบ 4 (แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1) ทำให้โปรแกรมช่วงโค้งสุดท้าย มีช่องให้ได้พักหายใจหายคออยู่พอสมควร ไม่ต้องลงเล่น อาทิตย์-พฤหัสฯ-อาทิตย์-พฤหัสฯ รัวๆ
แต่นั่นก็คือการพยายามมองใน "แง่ดี" เอาไว้ก่อน
เพราะจากข้อเท็จจริงที่เป็นสำหรับ 8 นัดสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล เหลือใน พรีเมียร์ลีก ปีนี้ คงบอกได้ว่า "ไม่ง่ายเลย" นะครับนะ
16/04 เยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
21/04 เหย้า เซาแธมป์ตัน
26/04 เยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้
29/04 เหย้า เชลซี
07/05 เยือน นิวคาสเซิ่ล
13/05 เหย้า ไบรท์ตัน & โฮฟ อัลเบี้ยน
20/05 เยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
28/05 เหย้า วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
มองจากตรงนี้ เกมที่พอมีการันตี 3 แต้มเต็มสำหรับ เดอะ กันเนอร์ส อาจแค่ 2-3 นัดเท่านั้น เช่นกับ เซาแธมป์ตัน, ฟอเรสต์ หรือ วูล์ฟส์
นอกนั้นจัดว่ามี "ความเสี่ยง" ทั้งหมด
โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนนี้ต่อต้นเดือนหน้า ที่ดาหน้ากันมาทั้ง แมนฯ ซิตี้, เชลซี และ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งล้วนแต่เป็น "คิวเสียว" เสี่ยงจะเสียแต้มให้เพียบ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "นัดชิงแชมป์" ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม รังเหย้าทัพเรือซึ่ง แมนฯ ซิตี้ ผูกปีชนะปืนมา 6-7 ซีซั่นติดต่อกันเข้าไปแล้ว (ซีซั่นนี้ เรือก็ชนะ 1-0 ในเอฟเอ คัพ, หนสุดท้ายที่ปืนบุกชนะ โน่น ม.ค. 2015) หากว่ายังนำ 3 แต้มไปมอบให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และชาวคณะเรือใบ ซ้ำเก่าอยู่อีกล่ะก็......
เสียวกับความแรงของเรือ
นี่คือปัจจัยที่ อาร์เซน่อล ไม่สามารถควบคุมได้อย่างแท้จริง -- ยกเว้นแค่ทริปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ไปฟาดฟันกันโดยตรง 26 เม.ย. นี้
ใช่ที่ซีซั่นนี้ แมนฯ ซิตี้ หลุดแพ้และเสมอเยอะอยู่สักหน่อย (อย่างละ 4) แต่ก็อย่างที่เราเห็นกันมากี่ปีต่อกี่ปีแล้วว่าเมื่อถึงเวลาที่ "ต้องเอา" เรือใบสีฟ้าก็ดู "พร้อมเสมอ" ที่จะเอาชนะแบบถึงไหนถึงกัน
และซีซั่นนี้ มันก็ดูจะเข้าข่ายนั้นแล้วด้วย
เพราะหลังจากเกมที่พลาดท่าแพ้ สเปอร์ส 0-1 ที่ลอนดอน เมื่อ 5 ก.พ. แล้ว ถึงตรงนี้ แมนฯ ซิตี้ เตะเกมลีก 8 นัดผ่านไป... ชนะ 7 เสมอ 1
อีกทั้งถ้าเทียบโปรแกรม 9 นัดสุดท้าย ก็น่าหวาดเสียวหัวใจแทน อาร์เซน่อล ไม่น้อยว่า แมนฯ ซิตี้ ดูจะมีคิวง่ายกว่ากันพอสมควรเลย
15/04 เหย้า เลสเตอร์ ซิตี้
26/04 เหย้า อาร์เซน่อล
30/04 เยือน ฟูแล่ม
03/05 เหย้า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
07/05 เหย้า ลีดส์ ยูไนเต็ด
13/05 เยือน เอฟเวอร์ตัน
20/05 เหย้า เชลซี
28/05 เยือน เบรนท์ฟอร์ด
(ยังหาคิวลงไม่ได้) เยือน ไบรท์ตัน
ชนะมาแล้ว 5 เกมซ้อน และใครจะรู้ ระยะเข้าเบรคครั้งนี้ของ แมนฯ ซิตี้ จะไปสะดุดลงที่ตรงไหน
เสียวกับตัวเอง...ที่ไม่มีแชมป์มา 19 ปี
สุดท้ายท้ายสุด ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ อาร์เซน่อล เองในตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ว่าหลังจากการขึ้นบัลลังก์ไร้พ่าย 2003/04 แล้ว มันก็มีอีกหลายซีซั่นเลยที่ อาร์เซน่อล ได้ลุ้นแชมป์เต็มตัว
ลุ้นแชมป์เต็มตัว...แต่ก็ "แผ่วปลาย" จนไม่มีแชมป์ในท้ายที่สุด
ใกล้สุดคือ 2015/16 ซีซั่นประวัติศาสตร์ร้อยปีมีหนของ เลสเตอร์ ซิตี้ ครั้งนั้น อาร์เซน่อล ก็เข้าข่ายลุ้นแชมป์ (โดยเฉพาะหลังจากสยบ เลสเตอร์ 2-1 กลางเดือน ก.พ.) แต่กลับหลุดเสมอถึง 5 จาก 10 เกมสุดท้าย จนจิ้งจอกสยามผงาดฟาดแชมป์แบบที่ไม่ต้องรอถึงเกมสุดท้ายด้วยซ้ำไป
หรือแม้แต่ซีซั่นก่อน ที่ทีมของ อาร์เตต้า ไม่ถึงกับลุ้นแชมป์แต่คั่วท็อปโฟร์ ปรากฏว่าหลุดพ่ายถึง 6 จาก 12 นัดสุดท้าย จนเข้าป้ายแค่ที่ 5 เท่านั้น
แน่นอนว่าปีนี้คือเรื่องต่างกรรมต่างวาระ และ อาร์เซน่อล ยกระดับตัวเองขึ้นมาจนกลายเป็นคนละทีมกับปีก่อนไปแล้ว
แต่ใครจะกล้าการันตีได้ว่า อาร์เซน่อล จะไม่ออกทรง "อีหรอบเดิม" อย่างที่เคยเป็น
เพราะไหนจะเสียวสะดุดยาว, เสียวกับปัญหาหลังบ้าน, เสียวกับโปรแกรมโหด, เสียวกับความแรงของเรือ และเสียวกับตัวเองที่ร้างแชมป์มานานแสนนาน
โค้งสุดท้ายเดือนเศษๆ ที่เหลือ ระหว่าง "แชมป์" กับ "ช้ำ" มันช่างน่าหวาดเสียวจนมวนท้องมวนไส้ไปหมดแล้ววววว