6 ผู้เล่นที่จะช่วยแก้ปัญหาหาก ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเซ็นสัญญากองกลางตัวรับคนใหม่ - OPINION
- ลิเวอร์พูล กำลังมองหากองกลางตัวรับ
- เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังไม่ได้นักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม
- 6 ผู้เล่น ลิเวอร์พูล ที่สามารถเล่นในตำแหน่งห้องเครื่องได้
โดย Navapun Munarsa
ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของกุนซือ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงเดินหน้าตามหากองกลางตัวรับอย่างต่อเนื่อง หลังจากปล่อยตัว ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์ ไปเล่นในลีกซาอุดิอาระเบีย เรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่า โรมิโอ ลาเวีย ห้องเครื่องดาวรุ่งชาวเบลเยียม ของ เซาธ์แฮมป์ตัน ยังคงเป็นเป้าหมายลำดับแรกของ ลิเวอร์พูล เช่นเดิม แต่ “หงส์แดง” ต้องเจอกับปัญหาใหญ่หลังจากข้อเสนอ 3 ครั้งล่าสุดโดนตอบปฏิเสธทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม หาก ลิเวอร์พูล ไม่ได้ตัว ลาเวีย มาเสริมทัพก่อนตลาดนักเตะจะปิดตัวลงในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม นั้น 6 ผู้เล่นเหล่านี้เหมาะจะเป็นทางเลือกให้ คล็อปป์ ใช้แก้ปัญหาอย่างน้อยไปจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า
1. เคอร์ติส โจนส์
นักเตะวัย 22 ปี รายนี้เล่นเป็นกองกลางตัวรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีคว้าแชมป์ ยูโร เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ ในเกมอุ่นที่สิงคโปร์ เขายังลงเล่นเป็นห้องเครื่องหน้าแผงแบ็คโฟร์อีกด้วย
แน่นอนว่า โจนส์ มีความเหนียวแน่นอนในการครองบอล ซึ่งสามาถช่วยให้ ลิเวอร์พูล ควบคุมจังหวะเกมได้ แต่ปัญหาก็คือ ความแข็งแกร่งของสภาพร่างกายที่ต้องเข้าปะทะเมื่อจะแย่งบอลกลับคืนมา และการเรื่องของการอ่านเกม
อย่างไรก็ตาม ในเกมที่เจอกับทีมเล็กๆ โจนส์ สามารถยืนเป็นกองกลางตัวรับได้ แต่ คล็อปป์ ก็รู้ดีว่า ธรรมชาติของเขาคือ มิดฟิลด์ที่สร้างสรรค์เกมรุก
2. อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์
แม็คอัลลิสเตอร์ เคยยืนประจำการเป็นมิดฟิลด์เบอร์ 6 ให้กับ ไบรท์ตัน ในหลายๆเกมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และถึงแม้สไตล์การเล่นของเขาจะเน้นไปที่การครองบอลมากกว่าการทำลายเกมคู่แข่ง แต่มันก็มีความยืดหยุ่นที่ทำให้เกมไหลลื่นไปได้
ในเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ดาร์มสตัดท์ 3-1 นั้น ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ ก็ยืนเป็นกองกลางตัวรับ และทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ทุกคนรู้ดีว่า แม็คอัลลิสเตอร์ จะโดดเด่นมากเมื่อเล่นเป็หมายเลข 8 หรือ 10
3. โดมินิก โซบอสซ์ไล
มันอาจเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ กัปตันทีมชาติฮังการี จะต้องทำหน้าที่เป็นกองกลางตัวรับให้กับ ลิเวอร์พูล แต่สำหรับ โซบอสซ์ไล เคยเล่นในตำแหน่งดังกล่าวมาแล้วทั้งกับทีมชาติ และอดีตทีมเก่าอย่าง แอร์เบ ไลป์ซิก
ดาวเตะวัย 22 ปี เต็มไปด้วยเทคนิค ผ่านบอลได้ดี ครองบอลเหนียวแน่นอน และมีวิสัยทัศน์ แต่มันคงดีกว่านี้ถ้าเจ้าตัวได้เล่นในบทบาทเพลย์เมคเกอร์แบบเต็มตัวให้กับ “หงส์แดง”
4. ติอาโก้ อัลคันทาร่า
จุดเด่นของ ติอาโก้ คือ การคุมจังหวะ ครองบอล ผ่านบอล และสร้างสรรค์เกมจากแนวลึก และเจ้าตัวก็ไม่ใช่นักเตะที่ตัดเกมได้อย่างดุดัน แต่หลายเกมในฤดูกาลที่ผ่านมา คล็อปป์ ก็เลือกใช้งานเขาในบทบาทโฮลดิงมิดฟิลด์มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ ดาวเตะชาวสเปน มักมีสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้การเล่นขาดๆเกินๆ และอาจทำให้รูปเกมของ ลิเวอร์พูล เสียจังหวะไปบ้าง แต่ ติอาโก้ ก็ยังมีประสบการณ์มากพอที่จะเอาตัวรอดจากความกดดันได้
5. สเตฟาน บาย์จเซติช
บาย์จเซติช ถือเป็นมิดฟิลด์ตัวรับธรรมชาติเพียงคนเดียวที่สุดที่ยังอยู่ในทีม ลิเวอร์พูล ชุดนี้ และผลงานของเจ้าตัวในซีซันที่ผ่านมา ก็เคยทำให้ตัวหลักอย่าง ฟาบินโญ่ ต้องกระเด็นไปเป็นตัวสำรองมาแล้วในหลายๆนัด
ปัจจุบัน ดาวเตะวัย 21 ปี เพิ่งหายเจ็บกลับมา และอยู่ระหว่างเรียกความฟิต ซึ่งหากเขามีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์นั้น ตำแหน่งตัวจริงอาจไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยไป
6. เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เริ่มต้นปรีซีซั่นกับ ลิเวอร์พูล ในบทบาทกองกลางตัวรับ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ คล็อปป์ ต้องรับมือในระหว่างที่ ฟาบินโญ่ และ เฮนเดอร์สัน กำลังเจรจาย้ายไปเล่นในตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ เปรยเป็นนัยๆแล้วว่า ดาวเตะวัย 24 ปี จะยืนประจำการแบ็คขวาเป็นหลัก และขยับมาทำเกมในบางจังหวะ แต่บางทีหากยังหากองกลางตัวรับคนใหม่ไม่ได้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็อาจได้ขยับมยืนหน้าแผงหลังยาวๆ และให้ โจ โกเมซ ทำหน้าที่แบ็คขวาแทน