ย้อนรอย 8 ดาวยิง เชลซี ยุค “เสี่ยหมี” ที่โชว์ฟอร์มไม่สมราคาค่าตัว - OPINION
- โรมัน อบราโมวิช เข้ามาบริหาร เชลซี เมื่อปี 2003
- เจ้าของทีมรายนนี้ลงทุนกับผู้เล่นในแนวรุกไปมากมาย
- กองหน้าทั้ง 8 รายนี้ถูกมองว่าเป็นการทำธุรกิจที่ล้มเหลวของ สิงโตน้ำเงินคราม
โดย Navapun Munarsa
นับตั้งแต่ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีขาวรัสเซีย เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อปี 2003 พลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” กลายเป็นทีมมหาอำนาจที่ทุ่มเงินกว้านซื้อสตาร์ดังเข้ามาร่วมทีมมากมาย
ขณะเดียวกันในตำแหน่งกองหน้า อบราโมวิช ลงทุนไปหลายร้อยล้านปอนด์เพื่อเสริมศักยภาพในแนวรุกให้ เชลซี แต่มันเป็นเหมือนอาถรรพ์ที่ดาวยิงชื่อดังหลายรายต้องล้มเหลว และวันนี้เราจะพาไปพบกับ 8 ศูนย์หน้าชื่อดังที่ไม่ประสบความสำเร็จใน สแตมฟอร์ด บริดจ์
8. เฮอร์นัน เครสโป
เครสโป เป็นหนึ่งในนักเตะใหม่ที่ย้ายเข้ามาหลังจาก อบราโมวิช ครอบครองกิจการ เชลซี โดยถูกเซ็นสัญญามาจาก อินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 2003 ในราคา 16 ล้านปอนด์ และถูกคาดหมายว่า จะเป็นตัวหลักในแดนหน้าของทีม
ตลอด 5 ปี ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ อดีตดาวยิงเลือด “ฟ้าขาว” แทบไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันหลังยิงได้ 25 ประตู จาก 73 เกม และถูกปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวกับ เอซี มิลาน และ อินเตอร์
7. อัลบาโร่ โมราต้า
โมราต้า ตะบันไปถึง 20 ประตู จาก 43 นัดรวมทุกรายการให้กับ เรอัล มาดริด ในซีซั่น 2016-2017 ก่อนจะตัดสินใจอำลาทัพ “ราชันชุดขาว” มาค้าแข้งในเมืองผู้ดีกับ เชลซี ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 70 ล้านปอนด์ และเคยได้นรับการบันทึกว่าเป็นผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ “สิงห์บลูส์” อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ศูนย์หน้าทีมชาติสเปน ทำผลงานให้กับ เชลซี ได้อย่างน่าผิดหวังหลังยิงไปเพียง 24 ประตู จากการลงสนามรวมทุกรายการ 72 นัด ตลอด 2 ซีซัน จากนั้น โมราต้า ก็หวนกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ แอตเลติโก มาดริด
6. กอนซาโล่ อิกวาอิน
อิกวาอิน เคยร่วมงานกับ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาลี ที่ นาโปลี ในฤดูกาล 2015-2016 และทำสถิติที่น่าทึ่งหลังซัดไป 36 ประตู จาก 35 นัด ใน เซเรีย อา และในซีซั่น 2018-2019 ทั้งคู่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งที่ เชลซี แบบยืมตัว
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมันตรงกันข้ามแบบสุดๆ โดยอดีตศูนย์หน้าทีมชาติอาร์เจนติน่า ฟอร์มตกอย่างน่าใจหายหลังจากลงสนามให้ เชลซี ไปทั้งสิ้น 18 นัด ยิงได้เพียง 5 ประตู ซึ่งก็สมเหตุสมผลที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” ไม่ซื้อขาดถาวร
5. เฟร์นานโด ตอร์เรส
หัวหอกเจ้าของฉายา “เอล นินโญ่” ย้ายมาเล่นกับ เชลซี ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 50 ล้านปอนด์ แต่เส้นทางอาชีพของเจ้าตัวในเสื้อ “สิงโตน้ำเงินคราม” โชคร้ายตั้งแต่เริ่มต้น หลังจากเกมเปิดตัวต้องพบกับความปราชัยให้กับทีมเก่าอย่าง ลิเวอร์พูล คาถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ 0-1
ขณะเดียวกัน 13 เกมแรกกับ เชลซี นั้น ตอร์เรส ไม่สามารถยิงประตูได้เลย และฝากผลงานที่น่าผิดหวังด้วยการยิงไป 45 ประตู จาก 172 เกม ก่อนจะถูกปล่อยให้ มิลาน ยืมตัว และหวนกลับที่ แอตฯ มาดริด ซึ่งเป็นสโมสรที่แจ้งเกิดอีกครั้ง
4. มาเตย่า เคสมัน
เคสมัน ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ โจเซ่ มูรินโญ่ อดีตเทรนเนอร์ เชลซี ร้องขอให้ อบราโมวิช เซ็นสัญญาให้ได้ โดยอดีตหัวหอกชาวเซอร์เบีย ย้ายมาพร้อมกับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ดาวยิงทีมชาติไอโวรี่ โคสต์ แต่สำหรับแฟนบอล “สิงห์บลู” คงไม่ต้องบอกว่า ใครกลายเป็นตำนานของสโมสรจนถึงตอนนี้
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ เคสมัน เคยตะบันไปถึง 78 ลูก ใน 2 ฤดูกาลสุดท้ายของตัวเองที่ทีมเก่าอย่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น แต่กับ เชลซี เขายิงได้เพียง 4 ลูก จาก 25 นัด และถูกขายให้ แอตฯ มาดริด ในปีต่อมา
3. อาเดรียน มูตู
อดีตกองหน้าชาวโรมาเนีย เคยเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นของ ปาร์ม่า จากผลงานซัดไป 22 ประตู จาก 36 เกม และก็ไม่น่าแปลกใจที่ทำให้ เชลซี ทุ่มเงินกว่า 15 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาล่าตาข่ายในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์
ดาวยิง “ผีดิบ” กลับฟอร์มหลุดแบบดื้อๆ นอกจากนี้ เจ้าตัวยังโดนตำรวจจับในข้อหาเสพโคเคน อีกด้วย ซึ่งคดีดังกล่าว ส่งผลให้ มูตู โดนแบนยาว 7 เดือน และหมดอนาคตกับ เชลซี ทันที
2. ราดาเมล ฟัลเกา
ในช่วงพีค ฟัลเกา เคยได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในกองหน้าที่อันตรายที่สุดในโลก และนับตั้งแต่ย้ายจาก โมนาโก ไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบยืมตัวในซีซัน 2014-2015 เขากลายเป็นคนละคนหลังยิงได้เพียง 4 ประตู จาก 29 เกมให้ “ปีศาจแดง”
เชลซี ยังคงมั่นใจในความสามารถของ ฟัลเกา จึงขอยืมตัวไปใช้งานในซีซันถัดมา และก็กลาย กลายเป็นความล้มเหลวอย่างสมบูรณ์แบบ หลัง หัวหอกโคลอมเบีย ยิงได้ 1 ประตู จาก 12 นัด และทีมแพ้ไปถึง 6 จาก 12 นัดที่เจ้าตัวได้ลงสนามเป็นตัวจริง
1. อังเดร เชฟเชนโก้
“ของที่ยังไม่เสียอย่าไปเพิ่งซ่อม” นั่นเป็นคำเปรียบเทียบได้ดีที่สุดในกรณีของ เชลซี ที่เพิ่งคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่น 2005-2006 โดยมี ดร็อกบา ยืนเป็นศูนย์หน้า ในระบบ 4-3-3 ภายใต้การคุมทีมของ มูรินโญ่ ได้ตัว เชฟเชนโก้ มาร่วมทีม
อบราโมวิช ต้องการ เชฟเชนโก้ อย่างมากถึงขั้นทุ่มเงิน 30 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาจาก มิลาน และพยายามให้ มูรินโญ่ ปรับแท็คติคเพื่อเรียกฟอร์มขจองอดีตกองหน้าชาวยูเครนให้ได้ และผลที่ตามมาคือ “เชว่า” ยิงไปเพียง 23 ประตู จาก 77 นัดรวมทุกรายการ ก่อนจะย้ายไปเล่นกับทีมเก่าอย่าง ดินาโม เคียฟ