ย้อนรอย 8 ดาวยิง เชลซี ยุค “เสี่ยหมี” ที่โชว์ฟอร์มไม่สมราคาค่าตัว - OPINION

  • โรมัน อบราโมวิช เข้ามาบริหาร เชลซี เมื่อปี 2003
  • เจ้าของทีมรายนนี้ลงทุนกับผู้เล่นในแนวรุกไปมากมาย
  • กองหน้าทั้ง 8 รายนี้ถูกมองว่าเป็นการทำธุรกิจที่ล้มเหลวของ สิงโตน้ำเงินคราม
Chelsea v Queens Park Rangers - Premier League
Chelsea v Queens Park Rangers - Premier League / Ian Walton/GettyImages
facebooktwitterreddit

นับตั้งแต่ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีขาวรัสเซีย เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อปี 2003 พลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” กลายเป็นทีมมหาอำนาจที่ทุ่มเงินกว้านซื้อสตาร์ดังเข้ามาร่วมทีมมากมาย

 ขณะเดียวกันในตำแหน่งกองหน้า อบราโมวิช ลงทุนไปหลายร้อยล้านปอนด์เพื่อเสริมศักยภาพในแนวรุกให้ เชลซี แต่มันเป็นเหมือนอาถรรพ์ที่ดาวยิงชื่อดังหลายรายต้องล้มเหลว และวันนี้เราจะพาไปพบกับ 8 ศูนย์หน้าชื่อดังที่ไม่ประสบความสำเร็จใน สแตมฟอร์ด บริดจ์


8. เฮอร์นัน เครสโป

Hernan Crespo
Chelsea v Birmingham City / Ben Radford/GettyImages

เครสโป เป็นหนึ่งในนักเตะใหม่ที่ย้ายเข้ามาหลังจาก อบราโมวิช ครอบครองกิจการ เชลซี โดยถูกเซ็นสัญญามาจาก อินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 2003 ในราคา 16 ล้านปอนด์ และถูกคาดหมายว่า จะเป็นตัวหลักในแดนหน้าของทีม

 ตลอด 5 ปี ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ อดีตดาวยิงเลือด “ฟ้าขาว” แทบไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันหลังยิงได้ 25 ประตู จาก 73 เกม และถูกปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวกับ เอซี มิลาน และ อินเตอร์

7. อัลบาโร่ โมราต้า

Alvaro Morata
UEFA Champions League 2017-18 - Atletico de Madrid vs Chelsea FC / Power Sport Images/GettyImages

โมราต้า ตะบันไปถึง 20 ประตู จาก 43 นัดรวมทุกรายการให้กับ เรอัล มาดริด ในซีซั่น 2016-2017 ก่อนจะตัดสินใจอำลาทัพ “ราชันชุดขาว” มาค้าแข้งในเมืองผู้ดีกับ เชลซี ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 70 ล้านปอนด์ และเคยได้นรับการบันทึกว่าเป็นผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ “สิงห์บลูส์” อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ศูนย์หน้าทีมชาติสเปน ทำผลงานให้กับ เชลซี ได้อย่างน่าผิดหวังหลังยิงไปเพียง 24 ประตู จากการลงสนามรวมทุกรายการ 72 นัด ตลอด 2 ซีซัน จากนั้น โมราต้า ก็หวนกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ แอตเลติโก มาดริด

6. กอนซาโล่ อิกวาอิน

Gonzalo Higuain, Makoto Hasebe
Chelsea v Eintracht Frankfurt - UEFA Europa League Semi Final : Second Leg / Catherine Ivill/GettyImages

อิกวาอิน เคยร่วมงานกับ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาลี ที่ นาโปลี ในฤดูกาล 2015-2016 และทำสถิติที่น่าทึ่งหลังซัดไป 36 ประตู จาก 35 นัด ใน เซเรีย อา และในซีซั่น 2018-2019 ทั้งคู่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งที่ เชลซี แบบยืมตัว

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมันตรงกันข้ามแบบสุดๆ โดยอดีตศูนย์หน้าทีมชาติอาร์เจนติน่า ฟอร์มตกอย่างน่าใจหายหลังจากลงสนามให้ เชลซี ไปทั้งสิ้น 18 นัด ยิงได้เพียง 5 ประตู ซึ่งก็สมเหตุสมผลที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” ไม่ซื้อขาดถาวร

5. เฟร์นานโด ตอร์เรส

Fernando Torres
Chelsea v Manchester City - Premier League / Shaun Botterill/GettyImages

หัวหอกเจ้าของฉายา “เอล นินโญ่” ย้ายมาเล่นกับ เชลซี ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 50 ล้านปอนด์ แต่เส้นทางอาชีพของเจ้าตัวในเสื้อ “สิงโตน้ำเงินคราม” โชคร้ายตั้งแต่เริ่มต้น หลังจากเกมเปิดตัวต้องพบกับความปราชัยให้กับทีมเก่าอย่าง ลิเวอร์พูล คาถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ 0-1

ขณะเดียวกัน 13 เกมแรกกับ เชลซี นั้น ตอร์เรส ไม่สามารถยิงประตูได้เลย และฝากผลงานที่น่าผิดหวังด้วยการยิงไป 45 ประตู จาก 172 เกม ก่อนจะถูกปล่อยให้ มิลาน ยืมตัว และหวนกลับที่ แอตฯ มาดริด ซึ่งเป็นสโมสรที่แจ้งเกิดอีกครั้ง

4. มาเตย่า เคสมัน

Mateja Kezman
Chelsea V Manchester United, Premier League / Richard Sellers/Allstar/GettyImages

เคสมัน ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ โจเซ่ มูรินโญ่ อดีตเทรนเนอร์ เชลซี ร้องขอให้ อบราโมวิช เซ็นสัญญาให้ได้ โดยอดีตหัวหอกชาวเซอร์เบีย ย้ายมาพร้อมกับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ดาวยิงทีมชาติไอโวรี่  โคสต์ แต่สำหรับแฟนบอล “สิงห์บลู” คงไม่ต้องบอกว่า ใครกลายเป็นตำนานของสโมสรจนถึงตอนนี้

สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ เคสมัน เคยตะบันไปถึง 78 ลูก ใน 2 ฤดูกาลสุดท้ายของตัวเองที่ทีมเก่าอย่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น แต่กับ เชลซี เขายิงได้เพียง 4 ลูก จาก 25 นัด และถูกขายให้ แอตฯ มาดริด ในปีต่อมา

3. อาเดรียน มูตู

Adrian Mutu of Chelsea starts to celebrate scoring a goal but it was later disallowed
Adrian Mutu of Chelsea starts to celebrate scoring a goal but it was later disallowed / Ben Radford/GettyImages

อดีตกองหน้าชาวโรมาเนีย เคยเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นของ ปาร์ม่า จากผลงานซัดไป 22 ประตู จาก 36 เกม และก็ไม่น่าแปลกใจที่ทำให้ เชลซี ทุ่มเงินกว่า 15 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาล่าตาข่ายในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

ดาวยิง “ผีดิบ” กลับฟอร์มหลุดแบบดื้อๆ  นอกจากนี้ เจ้าตัวยังโดนตำรวจจับในข้อหาเสพโคเคน อีกด้วย ซึ่งคดีดังกล่าว ส่งผลให้ มูตู โดนแบนยาว 7 เดือน และหมดอนาคตกับ เชลซี ทันที

2. ราดาเมล ฟัลเกา

Radamel Falcao Garcia
Chelsea v Southampton - Premier League / Jordan Mansfield/GettyImages

ในช่วงพีค ฟัลเกา เคยได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในกองหน้าที่อันตรายที่สุดในโลก และนับตั้งแต่ย้ายจาก โมนาโก ไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบยืมตัวในซีซัน 2014-2015 เขากลายเป็นคนละคนหลังยิงได้เพียง 4 ประตู จาก 29 เกมให้ “ปีศาจแดง”

 เชลซี ยังคงมั่นใจในความสามารถของ ฟัลเกา จึงขอยืมตัวไปใช้งานในซีซันถัดมา และก็กลาย กลายเป็นความล้มเหลวอย่างสมบูรณ์แบบ หลัง หัวหอกโคลอมเบีย ยิงได้ 1 ประตู จาก 12 นัด และทีมแพ้ไปถึง 6 จาก 12 นัดที่เจ้าตัวได้ลงสนามเป็นตัวจริง

1. อังเดร เชฟเชนโก้

Gabriel Heinze, Andriy Shevchenko
Manchester United v Chelsea / Sportsphoto/Allstar/GettyImages

“ของที่ยังไม่เสียอย่าไปเพิ่งซ่อม” นั่นเป็นคำเปรียบเทียบได้ดีที่สุดในกรณีของ เชลซี ที่เพิ่งคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่น 2005-2006 โดยมี ดร็อกบา ยืนเป็นศูนย์หน้า ในระบบ 4-3-3 ภายใต้การคุมทีมของ มูรินโญ่ ได้ตัว เชฟเชนโก้ มาร่วมทีม

อบราโมวิช ต้องการ เชฟเชนโก้ อย่างมากถึงขั้นทุ่มเงิน 30 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาจาก มิลาน และพยายามให้ มูรินโญ่ ปรับแท็คติคเพื่อเรียกฟอร์มขจองอดีตกองหน้าชาวยูเครนให้ได้ และผลที่ตามมาคือ “เชว่า” ยิงไปเพียง 23 ประตู จาก 77 นัดรวมทุกรายการ ก่อนจะย้ายไปเล่นกับทีมเก่าอย่าง ดินาโม เคียฟ


อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม เชลซี ได้ที่นี่

feed