งานใหญ่หลังขึ้นสู่จุดสูงสุด : แมนฯ ซิตี้ ต้องปรับทีมอย่างไร ควรเสริมตรงไหนอีก เพื่อรับศึกซีซั่นหน้า - OPINION

TOPSHOT-FBL-EUR-ENG-C1-PR-FA CUP-MANCITY-PARADE
TOPSHOT-FBL-EUR-ENG-C1-PR-FA CUP-MANCITY-PARADE / PAUL ELLIS/GettyImages
facebooktwitterreddit

เข้าเส้นชัยด้วย 3 แชมป์ประวัติศาสตร์ แต่เมื่อชีวิตไม่ได้สิ้นสุดลงตรงนี้ หน้าที่ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บนเก้าอี้นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงยังมีกองรออยู่ว่า เขาจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ทีมสำหรับสู้ศึกซีซั่นใหม่ 2023/24 ยังคงแข็งแกร่งหนั่นแน่นดังเดิม ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าคิด ว่าพวกเขาควรปรับทีมอย่างไร ต้องเสริมตรงไหนอีกบ้าง หลังขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งโลกลูกหนังไปเรียบร้อย

ผู้รักษาประตู : ข้ามไป

หนึ่งในตำแหน่งที่คงไม่ต้องแตะต้องอะไร มองข้ามไปได้เลยคือผู้รักษาประตู ซึ่งลงตัวดีอยู่แล้วกับการมีจอมหนึบระดับโลก เอแดร์ซอน โมราเอส ตัวทีมชาติบราซิล เป็นมือหนึ่ง และ สเตฟาน ออร์เตก้า (30, แก่กว่า เอแดร์ซอน ปีนึง) เป็นตัวสลับที่ไว้วางใจได้

สถานการณ์ของ เอแดร์ซอน ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นกังวลทั้งสิ้น เมื่อแม้จะยืนระยะเฝ้าเสาให้ทีมของ เป๊ป มานาน 6 ปีแล้ว แต่สัญญาก็ยังเหลืออีกยาวถึง 2026 โน่นเลย รวมถึงว่าท่าทีของเจ้าตัว ก็ไม่มีสัญญาณว่าอยากออกไปหาความท้าทายใหม่ที่ไหน

เช่นกัน มือสองอย่าง ออร์เตก้า ก็เพิ่งย้ายมาปีที่แล้ว (เซ็นถึง 2025) และย้ายมาด้วย "รู้ตัว" อยู่แล้วว่ามาในฐานะมือสอง ซึ่ง เป๊ป ก็ยัง "บาลานซ์เป็น" ด้วยการเปิดที่ทางให้นายด่านเยอรมันลงตัวจริงใน เอฟเอ คัพ แบบถึงไหนถึงกัน ไม่คิดเปลี่ยนแม้จะถึงนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งเมื่อออกรูปนี้ ก็ได้ใจลูกทีมไปเต็มๆ จนซีซั่นที่จบไปนี้ มือสองอย่างเขาได้เล่นรวมถึง 14 เกมทุกรายการ

เป็นอันว่ามองข้ามได้เลย ประตูเรือใบ ซัมเมอร์นี้ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรทั้งนั้น

Ederson
FC Internazionale v Manchester City FC - UEFA Champions League Final 2022/23 / Chris Brunskill/Fantasista/GettyImages

กองหลัง : อืมมมม...เอาไงดี?

หากมองในภาพกว้าง จะเห็นว่า แมนฯ ซิตี้ ดูยังขาด "แบ็กซ้าย" ไปอยู่สักหน่อย หลังจาก โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ลาทีมไปตอนซัมเมอร์ที่แล้ว ตามด้วย เจา กันเซโล่ ถูกเขี่ยทิ้งเสียเฉยๆ จนทำให้ช่วงที่ผ่านมาพวกเขาถูกโยงกับทั้ง เบน ชิลเวลล์ ตัวเก่งของ เชลซี หรือ อัลฟอนโซ่ เดวิส นักวิ่งที่เตะบอลได้นิดหน่อยของ บาเยิร์น มิวนิค

เพียงแต่เอาเข้าจริง เป๊ป ก็จัดการกับปัญหาตรงนี้ได้อย่างไร้ปัญหา ทั้งการขยับเอา นาธาน อาเก้ มายืนบ้าง, อายเมอริก ลาป๊อร์กต์ มายืนบ้าง, ลองใช้เด็กใหม่อายุ 22 เซร์คิโอ โกเมซ ลงบ้าง (23 นัด สำรองครึ่งนึง), เปลี่ยนข้างเจ้าหนู ริโก้ ลูอิส จากทางขวามาลงซ้ายบ้าง...หรือหนักเข้าก็ "ไม่ใช้แบ็กซ้าย" มันเสียเลย

หลังสุด ก็อย่างที่เราเห็นกันในหลายเกมกับระบบ 3-2-4-1 อันรวมถึงนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งมี นาธาน อาเก้ ยืนเซนเตอร์แบ็กตัวซ้าย และ โรดรี้ ปักหลักกลางรับฝั่งซ้าย (คู่ จอห์น สโตนส์) พร้อมมี แจ๊ค กรีลิช ยืนปีกซ้าย--ที่พร้อมถอยช่วยเกมรับเป็นระยะด้วย

หรือนัดชิง เอฟเอ คัพ ก็เป็นระบบนี้เหมือนกัน เปลี่ยนแค่ มานูเอล อคานจี ยืนเซนเตอร์ตัวซ้าย (อาเก้ นั่งสำรอง) ซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะเจอปัญหาอะไรมากในการรับมือ เจดอน ซานโช่, มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ บรูโน่ แฟร์นันเดส และ อเลฮานโดร การ์นาโช่

เพราะฉะนั้นถ้าเรามองภาพที่เกิดขึ้นตลอดซีซั่นนี้--และ แมนฯ ซิตี้ ได้บทสรุปที่ 3 แชมป์ การจะต้องทุ่มเงิน 70-80 ล้านปอนด์ไปกับแบ็กซ้ายใหม่อย่าง ชิลเวลล์ หรือ เดวิส ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องจำเป็นหรือน่าลงทุนสักเท่าไหร่

หรือจะใช้เงินไปกับการเพิ่มตัวเลือกเซนเตอร์แบ็ก ก็ต้องถามว่า คนที่จะมาใหม่ พร้อมสำหรับการ "นั่งสำรอง" มากน้อยแค่ไหน เพราะนี่คือคนที่ เป๊ป มีอยู่แล้ว และใช้ได้ยาวๆ แถมสารพัดประโยชน์อีกต่างหาก

  • - รูเบน ดิอาส

    - จอห์น สโตนส์

    - ไคล์ วอล์คเกอร์

    - นาธาน อาเก้

    - อายเมอริก ลาป๊อร์กต์

    - มานูเอล อคานจี

สรุปคือเอาเป็นว่า ถ้าเป็นตามกระแสข่าวที่ว่า อายเมอริก ลาป๊อร์กต์ มีโอกาสย้ายออก ถ้าย้ายจริงก็ค่อยซื้อคนใหม่มาเติม ง่ายๆ แค่นั้น

Aymeric Laporte
FC Internazionale v Manchester City FC - UEFA Champions League Final 2022/23 / Jonathan Moscrop/GettyImages

กองกลาง : แรกสุดคือ กุนโดกัน

แรกสุดคือกัปตันทีม อิลคาย กุนโดกัน ว่าตกลงคุณพี่จะเอาอย่างไรกับอนาคต ด้วยสัญญาที่จะหมดลงสิ้นเดือนนี้ 30 มิ.ย. และตลอดช่วงที่ผ่านมา ทั้งตัวนักเตะและสโมสรเองก็ "ไม่ว่าง" ที่จะเจรจาตกลงกัน แถมตอนนี้ที่คิวสโมสรหมด กุนโดกัน ก็ต้องไปรับใช้ทีมชาติเยอรมนี เล่นเกมอุ่นเครื่อง (เตรียมทีมเพื่อยูโร 2024) อีก 2 นัด กว่าจะเสร็จเรียบร้อยดีก็อังคารหน้า เท่ากับเหลือเวลาให้หาข้อสรุประหว่างกันประมาณ 10 วันถ้วนๆ

อำนาจการตัดสินใจ ณ ตอนนี้ คงขึ้นอยู่กับดาวเตะวัย 32 เป็นส่วนมาก ว่าจะเซ็นต่อหรือย้ายออกดี เพราะเขาผู้ซึ่งเป็น "ดีลแรกสุดที่ เป๊ป คว้ามายังซิตี้" คว้าแชมป์มาทุกแชมป์กับที่นี่แล้ว จะยังเหลือความท้าทายใน เอติฮัด สเตเดี้ยม อีกเท่าไหร่...แต่ครั้นจะย้ายออก ก็เท่ากับเขาต้องสละทุกสิ่งกับ แมนฯ ซิตี้ ไป ทั้งปลอกแขนกัปตันทีม, โอกาสคว้าแชมป์สารพัดรายการที่รออยู่ในซีซั่นหน้า จนถึงเรื่องของ "ความสนุก" ในการเล่นฟุตบอล ที่เห็นได้ว่า ฟุตบอลของ เป๊ป ก็ตอบโจทย์นี้ให้กับเขาได้เป็นอย่างดี

แรกสุดคือ กุนโดกัน ถัดมาก็คือ แบร์นาร์โด้ ซิลวา

เพราะแม้จะไม่เกิดการย้ายค่ายขึ้นในซัมเมอร์ที่แล้ว แถมยังคงเล่นได้ดีมีมาตรฐานในซีซั่นที่จบไป (55 นัด 7 ประตู 8 แอสซิสต์) แถมสัญญาก็ยังเหลือยาวถึง 2025 แต่ชื่อของสตาร์โปรตุเกสก็ยังถูกโยงเข้ากับทั้ง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค

90min UK : แบร์นาร์โด้ แจ้งกับ แมนฯ ซิตี้ แล้วว่าต้องการย้ายทีม ซัมเมอร์นี้

นอกจากนั้น ก็มีในราย แคลวิน ฟิลลิปส์ ที่เริ่มชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ามิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ "แจ้งดับ" ที่นี่ หลังย้ายมาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด 42 ล้านปอนด์ แต่ได้เล่นแค่ 21 เกมเท่านั้น เท่ากับประตูย้ายออกค่อนข้างเปิดกว้าง และอยู่ที่ แมนฯ ซิตี้ จะยอมรับสภาพขายขาดทุนมากขาดทุนน้อย เท่านั้น

หากทั้ง ซิลวา และ ฟิลลิปส์ ย้ายออกจริงตามที่เป็นข่าว (หมายถึงทีมที่ต้องการตัว ก็ต้องกล้าสู้ราคาด้วยนะ) ก็คงเป็นโอกาสที่ แมนฯ ซิตี้ จะเปิดทางให้สมาชิกใหม่ได้ก้าวเข้ามา ไม่ว่าจะ มาเตโอ โควาซิช (เชลซี), กาบรี เบก้า (เซลต้า) หรือ ไรอัน กราเฟนเบิร์ช (บาเยิร์น)

Manchester City wins 2023 UEFA Champions League title
Manchester City wins 2023 UEFA Champions League title / Anadolu Agency/GettyImages

กองหน้า : จัด เอ็มบัปเป้ เลยดีไหม?

เพราะชัดเจนแล้วว่า คีลิยัน เอ็มบัปเป้ น่าจะถึงคราวย้ายออกจาก เปแอสเช เสียทีในซัมเมอร์นี้ เมื่อฝั่งนักเตะยืนยันจากปากแล้วว่าจะไม่ขยายสัญญาเพิ่มไปจากปี 2024 ส่วนทาง ปารีสฯ ก็ชัดเจนว่าจะไม่ยอมเสียฟรีตามกฎบอสแมน

แล้วมันจะออกรูปไหนได้อีกนอกจาก เอ็มบัปเป้ ย้ายทีมไปเสียตอนนี้

เพียงแต่การลุยคว้า เอ็มบัปเป้ มาเสริมแนวรุกใน เอติฮัด สเตเดี้ยม ถ้าเป็นในเกมแฟนตาซีฟุตบอลอย่าง CM หรือ FM ก็คงทำได้อย่างไม่ต้องคิดมาก ทว่านี่คือโลกแห่งความจริง เรื่องจริงที่ เป๊ป มีตัวเลือกสุดติ่งอยู่แล้วทั้ง เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ (52 ประตู) และ ฮูเลียน อัลวาเรซ (17 ประตู)

ยี่ห้อ เอ็มบัปเป้ ไม่มีทางย้ายมาเพื่อเป็นตัวสำรองตัวสลับกับใครแน่

ตามแง่นี้ ก็คงแทบเป็นไปไม่ได้ที่ เป๊ป จะซื้อหน้าเป้าคนใหม่เข้ามาเพิ่ม

เทียบกันแล้ว "ตัวริมเส้น" ดูเป็นไปได้มากกว่า อย่างน้อยคือ 1 ตำแหน่ง -- เพราะแม้จะได้เล่นเยอะ 47 นัด และมี 15 ประตู แต่ "ความสำคัญ" ของ ริยาด มาห์เรซ ในทีมของเป๊ปช่วงหลายเดือนหลัง ลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาก

  • - ตัดเชือก ชปล. นัดตัดสินกับ เรอัล มาดริด (4-0) : ได้เล่นแค่ 10 นาทีท้าย

    - นัดชิง เอฟเอ คัพ : สำรองไม่ได้ใช้

    - นัดชิง ชปล. : สำรองไม่ได้ใช้

สำคัญกว่านั้นก็คือผลงานของปีกแอลจีเรียเองก็ดร็อปลงไปด้วย โดยมีเพียงเกมเดียวที่เขาพังประตูได้ (แฮตทริกใส่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ) จากจำนวนถึง 17 เกมสุดท้ายที่ได้ลงเล่น ไม่ว่าจะตัวจริงหรือสำรองก็ตาม

หนึ่งคือผลงานไม่ดี สองคืออายุอานามไม่น้อย 32 แล้ว และสามคือ แว่วๆ ว่าทีมซาอุฯ พร้อมอัดเงินดึง มาห์เรซ ไปประดับลีกด้วยอีกคน

แม้อาจไม่ถึงกับเป็นข่าว แต่ถ้า แมนฯ ซิตี้ เลือกปล่อย มาห์เรซ แล้วทดแทนด้วยตัวจี๊ดอย่าง คาโอรุ มิโตมะ ก็คงเรียกเสียงกรี๊ด (และกำลังซื้อจากแฟนบอลญี่ปุ่น) ได้แบบอื้ออึงอิคึอิไตไปเลยเชียว

FBL-EUR-ENG-C1-PR-FA CUP-MANCITY-PARADE
FBL-EUR-ENG-C1-PR-FA CUP-MANCITY-PARADE / OLI SCARFF/GettyImages

สรุป : ขายก่อนค่อยซื้อ

คงไม่ต้องย้อนไปไกลถึง แมนฯ ยูไนเต็ด 1999 เอาว่าดูที่ บาร์เซโลน่า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เองแล้วกัน ในตอนที่ทำทริปเปิ้ลแชมป์ได้เมื่อปี 2009 จากนั้น เป๊ป มีการเสริมทัพให้ บาร์ซ่า แบบพอท้วมๆ จ่ายไปราวๆ 80 ล้านยูโรซื้อ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, แม็กซ์เวลล์, ดมิโตร ชิกรินสกี้ เข้ามาเสริมทัพ บวกกับ เปโดร โรดริเกซ ขึ้นจากชุดเยาวชน

สบายหายห่วง... บาร์ซ่า 2009/10 เช็คบิลได้ทั้ง ลา ลีกา, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, สโมสรโลก และไปถึงตัดเชือก ชปล.

เพียงแต่นั่นก็เป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่างยุคต่างสมัยกันด้วย

"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะพร้อมสำหรับความท้าทายใหม่หรือไม่? พวกเขาจะกระตุ้นตัวเองสำหรับซีซั่นใหม่ได้ดีแค่ไหน?" อาร์แซน เวนเกอร์ ให้ทรรศนะ "บางทีพวกเขาอาจเสียนักเตะสำคัญไปบางคน ทีมชุดนี้อายุยังไม่เยอะ แต่ก็ไม่ได้มีการเสริมนักเตะเด็กๆ เยอะนัก ยกเว้นแค่ ฮาแลนด์ ที่ตอนนี้แค่ 22 นอกนั้นนักเตะของพวกเขาอยู่ที่ 24 ไปจนถึง 32 ปี"

"ดังนั้น ก็คงมีนักเตะใหม่มาเพิ่มแค่ 2-3 รายเท่านั้น ถ้าพวกเขาอยากเปลี่ยนแปลง"

ข้อสรุปของ เวนเกอร์ ยังสอดคล้องกับที่สื่อวงในอย่าง แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ ประเมินเอาไว้เหมือนกัน ว่าอันดับแรกก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีใครย้ายออกบ้าง แล้วถัดไปค่อยหามาเสริมเพิ่มเติมทดแทนกัน

เพราะอันที่จริง ทีมของ เป๊ป คุณภาพสูงมากอยู่แล้ว อีกทั้งการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นไปแล้วเมื่อซัมเมอร์ก่อน ที่ แฟร์นันดินโญ่, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เชซุส, ซินเชนโก้ อำลาไป และได้ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์, ฮูเลียน อัลวาเรซ และ มานูเอล อคานจี เข้ามาถ่ายเลือด แถมด้วยการค้นพบสำคัญในช่วงท้ายซีซั่นอย่าง จอห์น "นิวบุสเก็ตส์" สโตนส์

สุดท้ายท้ายสุดและทั้งหมดทั้งมวล บางทีอาจไม่ใช่เรื่องที่ เป๊ป ต้องปวดหัวหน้ดำคร่ำเครียดเลยว่าเขาต้องปรับทีมอย่างไร ควรอัดเงินเสริมตรงไหน เพราะโดยสรุปแล้วก็อาจง่ายดายกว่าที่คิด คือ "เติมตรงที่ขาด" แค่นั้น

และคำถามสำคัญมากกว่าคือ คู่แข่งรายรอบจะต้องทำอย่างไรเพื่อฉุด แมนฯ ซิตี้ ลงจากบัลลังก์ นั่นต่างหาก!

FBL-EUR-ENG-C1-PR-FA CUP-MANCITY-PARADE
FBL-EUR-ENG-C1-PR-FA CUP-MANCITY-PARADE / PAUL ELLIS/GettyImages