เฮนโด้ – อาแจ็กซ์ กับการ “เติมเต็มให้กันและกัน” - OPINION

• เฮนเดอร์สัน กลับมาคืนวงการฟุตบอลยุโรปอีกครั้งในวัย 33 ปี โดยยกเลิกสัญญากับ อัล เอตติฟาค ที่เซ็นสัญญากันไว้สามปี เป็นการแยกทางกันด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย

• นักเตะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งกับลิเวอร์พูล ตลอด 12 ปีกับสโมสร
England v Malta: Group C - UEFA EURO 2024 European Qualifiers
England v Malta: Group C - UEFA EURO 2024 European Qualifiers / Neal Simpson/Allstar/GettyImages
facebooktwitterreddit

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางทีมชาติอังกฤษ กลับมายังวงการฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง หลังจากไปผจญภัยในตะวันออกกลางมาร่วม 6 เดือน และผลที่ออกมามันไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับเขา และเขาเลือกนครอัมสเตอร์ดัม คือปลายทางของเขา

นักเตะเซ็นสัญญาสองปีครึ่ง กับทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในลีกดัตซ์ อาแจ็กซ์ (ชาวดัตซ์จะอ่านว่า อาหยักซ์, ไอแอ็กซ์ ส่วนผู้เขียนเขียนว่าอาแจ็กซ์ เพื่อความคุ้นเคยในการอ่านของผู้อ่าน) กำลังอยู่ในช่วงที่แย่ที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้จะเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางได้แล้วแต่ก็ชัดเจนว่าปีนี้พวกเขาหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์แล้ว 100 % เมื่อ พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น กำลังอยู่ในเส้นทางลุ้นทำสถิติชนะ 100 % ในหนึ่งฤดูกาลกับชัยชนะ 17 เกมรวดนับตั้งแต่ลงเล่นในฤดูกาลนี้

FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-ASTON VILLA
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-ASTON VILLA / PETER POWELL/GettyImages

สตอรี่การอำลา อัล เอตติฟาค ของ “เฮนโด้” ขอไม่กล่าวถึงมากนัก เพราะในบ้านเราเล่นข่าวนี้กันจนอิ่มกันไปหมดแล้ว สรุปสั้น ๆ นักเตะอยากกลับมาเล่นในยุโรป แม้จะค่าเหนื่อยน้อยกว่า แต่ก็ได้ความสบายใจที่มากกว่า เช่นเดียวกับตัวสโมสรก็ไมได้ว่าปลื้มกับผลงานของนักเตะมากนัก ดังนั้นเมื่อ “คับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก” แยกย้ายก็เป็นการสมควร ยกเลิกสัญญากันให้อิสระต่อกันดีกว่าทนอยู่

อาแจ็กซ์ มองหานักเตะประสบการณ์สูงมาประคองทีม และแน่นอนพื้นที่กลางสนามของทีม พวกเขาเสียทั้ง เอ็ดสัน อัลวาเรซ และ ดาวี่ คลาสเซ่น สองผู้เล่นหลักประสบการณ์สูงออกไปในตลาดรอบเดียวกัน ไม่รวมถึงดาวรุ่งอย่าง ยูเรี่ยน ทิมเบอร์ และกัปตันขวัญใจแฟนบอลอย่าง ดูซาน ทาดิซ ที่ลาทีมไปพร้อมกันหมด

Daley Blind, Davy Klaassen, Dusan Tadic, Edson Alvarez
Ajax v Borussia Dortmund - UEFA Champions League / Soccrates Images/GettyImages

“แผนงาน” ที่ผิดเพี้ยนของทีม นับจากการแต่งตั้ง สเวน มิสลินสตัด เข้ามาเป็นผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร แต่ก็อยู่กับทีมได้ไม่กี่เดือนก็ต้องออกจากทีมเพราะมีปัญหาเกี่ยวกับ “ผลประโยชน์ทับซ้อน” ในการซื้อขายนักเตะไปร่วม ๆ 100 ล้านยูโร ในตลาดรอบที่ผ่านมา จริงอยู่ที่พวกเขาอาจขายนักเตะได้เงินมากกว่านั้น แต่ผลการซื้อที่ออกมา พวกเขากลายเป็นทีมดาวรุ่งโปรไฟล์ดีเต็มทีม แต่ผลงานยังไม่เข้าเป้า ปัญหาฝ่ายบริหาร “หลังบ้าน” และปัญหาผลการแข่งขัน “หน้าบ้าน” มาทั้งสองทางแบบนี้ มันก็คือความล้มเหลวของทั้งทีมที่ต้องจัดการแก้ไข และพวกเขาก็หวังถึงครึ่งหลังที่แม้จะหมดลุ้นแชมป์ไปแล้ว แต่การกลับไปเล่นฟุตบอลยุโรปต้องได้คืน นั่นหมายถึงพวกเขาต้องติด 3 อันดับแรกของลีกให้ได้ และตอนนี้ทีมตามหลังอันดับสามในลีกอย่าง เอฟซี ทเวนเต้ 9 คะแนน โดยเหลืออีก 17 เกมสุดท้าย

เฮนเดอร์สัน ย้ายมาก็ค่อนข้างตอบโจทย์ นักเตะประสบการณ์สูง ผลงานไม่ต้องพูดถึงที่สำคัญคือความเป็นผู้นำของเขาเป็นสิ่งที่ทีมดาวรุ่งเพียบของ จอน ฟาน’ชิป อดีตปีกแชมป์ยูโร 1988 กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ต้องการ “เราต้องการกองกลางประสบการณ์และมีศักยภาพในความเป็นผู้นำ และปัญหาบาดเจ็บของนักเตะในทีมที่เกิดขึ้น เรามองหานักเตะแบบนั้น ซึ่ง เฮนเดอร์สัน คือนักเตะที่เรากำลังมองหา การมาของเขาจะสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดขึ้นภายในทีมของเราทั้งในและนอกสนาม เขาผ่านมาแล้วทั้งการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก, พรีเมียร์ ลีก กับลิเวอร์พูล เช่นเดียวกับประสบการณ์ในระดับทีมชาติ มันดีแน่นอนสำหรับพวกเราที่ได้เขามาร่วมงานด้วย” ฟาน’ชิป กล่าว

Jordan Henderson
Al-Ettifaq v Al-Raed - Saudi Pro League / MB Media/GettyImages

มันคงไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเฮนเดอร์สันอีกแล้วในอังกฤษ หลังการอำลาลิเวอร์พูลที่เขาเดินออกมาในวันที่ประสบความสำเร็จมาแล้วทุกอย่างในประเทศ รวมถึงแชมเปี้ยนส์ ลีก หากแต่การมา อาแจ็กซ์ คือประสบการณ์ใหม่ในยุโรปของเขาเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้เล่นในลีกยุโรป และแน่นอนมันไม่ใช่เรื่องของเงินเป็นปัจจัยหลักแรก แต่สำหรับเขาทั้งในเรื่องของโอกาสในการลงเล่น, สถานะของเขาที่ทีมมอบให้, ประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ และโอกาสในการลุ้นความสำเร็จอีกสักนิดในช่วงบั้นปลาย แม้อาจจะไม่ใช่ในฤดูกาลนี้ แต่สัญญาถึงกลางปี 2026 ที่มีต่อกัน อาแจ็กซ์ – เฮนเดอร์สัน ยังมีเวลาอีกไม่น้อยในการไล่ล่าความสำเร็จร่วมกัน

ไม่มีอะไรจะ “ลงตัว” กว่านี้อีกแล้ว