วิเคราะห์ทุกความเป็นไปได้กับ 5 ตัวเต็งกุนซือคนใหม่ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลหน้า - OPINION
- เยอร์เก้น คล็อปป์ จะอำลา ลิเวอร์พูล หลังจบซีซันนี้
- “หงส์แดง” ต้องมองหากุนซือคนใหม่
- โค้ชทั้ง 5 ราย มีความเหมาะสมมากที่สุด
โดย Navapun Munarsa
การประกาศก้าวลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจบฤดูกาลนี้ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ สร้างความช็อกให้กับแฟนฟุตบอลทั่วโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวก “เดอะ ค็อป” ที่ต่างก็เริ่มตั้งคำถามถึงคนที่จะเข้ามารับช่วงต่อในปีหน้า
ตลอดห้วงที่ผ่านมา มีเทรนเนอร์หลายรายที่ตกเป็นข่าวพัวพันกับ ลิเวอร์พูล แต่เมื่อพิจารณาจากภาพรวมทั้งหมดแล้ว 5 รายชื่อต่อไปนี้มีโอกาสมากที่สุดในการเข้ามากุมบังเหียนในถิ่น แอนฟิลด์
1. ชาบี อลอนโซ่ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)
ทันทีที่ คล็อปป์ ประกาศอำลาตำแหน่งกุนซือ ลิเวอร์พูล บรรดาเว็บพนันถูกกฎหายต่างพากันออกราคาให้ อลอนโซ่ กลายเป็นเต็ง 1 ที่จะเข้ามาสานงานต่อแบบไร้คู่แข่ง และเมื่อมองจากผลงานของเจ้าตัวกับ เลเวอร์คูเซ่น ในเวลานี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เขาเป็นคนที่เหมาะสมอย่างมาก
อดีตมิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล วัย 42 ปี กำลังพา เลเวอร์คูเซ่น โชว์ฟอร์มติดลมบน โดยพาทีมไร้พ่าย 31 นัดติดต่อกันในทุกรายการ และขอแค่อีก 1 เกมพวกเขาก็จะทาบสถิติการเป็นสโมสรระดับ บุนเดสลีกา ที่ไม่แพ้ใครติดต่อกันมากที่สุดตลอดกาล ส่วนผลงานในลีกก็ยังพาพลพรรค “ห้างขายยา” นำเป็นจ่าฝูงเหนือแชมป์เก่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ถึง 5 คะแนน
อลอนโซ่ จะหมดสัญญากับ เลเวอร์คูเซ่น ในปี 2026 แต่สื่อหลายแห่งระบุว่า เจ้าตัวมีสัญญาใจกับ “ห้างขายยา” ที่จะไม่ปิดโอกาสหากอดีตทีมเก่าอย่าง ลิเวอร์พูล ติดต่อเข้าไปอย่างเป็นทางการ
2. โรแบร์โต เด เเซร์บี (ไบรท์ตัน)
หากมองไปที่บรรดาโค้ชในศึก พรีเมียร์ลีก ยุคปัจจุบัน เด แซร์บี ดูเหมือนจะเป็นคนที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดในการเข้าไปสานงานต่อจาก คล็อปป์ โดยกุนซือชาวอิตาลี วัย 44 ปี เคยสร้างความประทับใจด้วยการพา ไบรท์ตัน เอาชนะ ลิเวอร์พูล ทั้งในลีก และ เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
นอกจากนี้ เด เเซร์บี ยังประเดิมการคุมทีม ไบรท์ตัน ด้วยการบุกไปยันเสมอ ลิเวอร์พูล ถึง แอนฟิลด์ 3-3 และพาพลพรรค “นกนางนวล” คว้าตั๋วไปเล่นในฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรได้อีกด้วย
3. เป๊ป ลินเดอร์ส
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาวดัตช์รายนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในฐานะทีมงานเบื้องหลังของ คล็อปป์ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ปผ่านมาใน แอนฟิลด์ เลยก็ว่าได้ โดย ลินเดอร์ส ทำหน้าที่ช่วยในการออกแบบการฝึกซ้อม และให้คำแนะนำในการเปลี่ยนแท็คติคระหว่างเกม
โค้ชวัย 41 ปี เป็นคนที่นักเตะ ลิเวอร์พูล ให้ความเคารพอย่างมาก แต่ปัญหาคือ เจ้าตัวมีประสบการณ์การคุมทีมน้อยมาก ซึ่งเคยรับตำแหน่งกุนซือกับ เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น ในดิวิชั่น 2 ของฮอลแลนด์ เป็นช่วงสั้นๆ และไม่ประสบความสำเร็จ
4. จูเลียน นาเกลส์มันน์ (ทีมชาติเยอรมัน)
อดีตนายใหญ่ บาเยิร์น มิวนิค วัย 36 ปี เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมเยอรมันไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่สัญญาของเจ้าตัวจะหมดลงจนถในเดือนกรกฎาคม ปี 2024 และจะว่างงานทันทีหลังจากศึกฟุตบอลแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 จบลง
นาเกลส์มันน์ มีเอเยนต์คนเดียวกันกับ คล็อปป์ คือ มาร์ค โคซิคเก้ และ คล็อปป์ ก็เคยกล่าวถึง นาเกลส์มันน์ว่า เป็นเทรนเนอร์ยุคใหม่ที่มีพรสวรรค์ ซึ่งดูเหมือนว่า จะเป็นการจับคู่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ “ลิเวอร์พูล เวอร์ชั่น 2.0” กับ อดีตโค้ช บาเยิร์น รายนี้
5. สตีเว่น เจอร์ราร์ด (อัล-เอตติฟาค)
ในฐานะตำนานของสโมสรชื่อของ เจอร์ราร์ด ก็ต้องตกเป็นข่าวพัวพันกับ ลิเวอร์พูบ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดย “สตีวี่จี” เคยถูกมองว่า จะเป็นตัวแทนในอนาคตของ คล็อปป์ หลังจากที่เคยพา กลาสโกว์ เรนเจอร์ส คว้าแชมป์สก็อตแลนด์ พรีเมียร์ชิพ ในปี 2022
อย่างไรก็ตาม หลังอำลา เรนเจอร์ส โยกมาคุม แอสตัน วิลล่า เจอร์ราร์ด ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก และโดนไล่ออกก่อนจะโยกไปทำงานกับ อัล-เอตติฟาค แต่ผลงานก็ยังไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องยากพอสมควรที่อดีตกองกลาง วัย 43 ปี จะกลับมารับงานใหญ่ที่ แอนฟิลด์