ชีวิตใน พรีเมียร์ลีก ที่เพิ่งเริมต้นของนายใหญ่ ลิเวอร์พูล "อาร์เนอ ชล็อต" - OPINION
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
ในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็ได้สัมผัสความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกใน พรีเมียร์ลีก ภายใต้ยุคของ อาร์เนอ ชล็อต ด้วยน้ำมือของหนึ่งในทีมเต็งหนีตกชั้นอย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
3 เกมแรกของนายใหญ่ชาวดัตช์เปิดตัวได้อย่างอลังการงานสร้าง โดยเฉพาะในเกม "แดงเดือด" ที่บุกไปเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่นด้วยสกอร์ท่วมทั้น 3-0 พร้อมกับรูปเกมที่เหนือกว่าทุกตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม ชล็อต ก็มาตกม้าตายกับการเปิดบ้านเจอกับทีมอย่าง ฟอเรสต์ ซึ่งก่อนเกมจะเริ่มขึ้น กูรูทุกสำนักต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ทีมของ นูโน น่าจะโดนอย่างน้อย 2 ประตู
หากแต่การได้เห็นฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ ลิเวอร์พูล ใน 3 เกมแรก นั่นทำให้นายใหญ่ของเจ้าป่าทำการบ้านมาอย่างดี และเขาสามารถใช้โอกาสอันน้อยนิดเปลี่ยนเป็นประตู พร้อมกับเก็บชัยชนะกลับบ้านได้อย่างสง่าผ่าเผย
นี่คือบทเรียนสำคัญของ ชล็อต ในการคุมทีมในอังกฤษ เพราะไม่ว่าคุณจะเจอกับทีมระดับไหนของลีกแห่งนี้ คุณก็สามารถแพ้หรือชนะได้พอ ๆ กัน
การเอาชนะ แมนยู ถึงถิ่น ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าหลังจากเกมนั้นคุณจะเก็บ 3 คะแนนได้ทุกนัด ซึ่ง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ได้ทำให้เห็นแล้วว่านี่คือเรื่องจริง
เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็เจอกับปัญหานี้ แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในกุนซือที่ทุกคนให้การยอมรับและถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ ลิเวอร์พูล แต่ชีวิตของเขาที่ แอนฟิลด์ นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายตลอดระยะเวลา 8 ปีครึ่ง
ไม่เว้นแม้แต่ เอริค เทน ฮาก คู่ปรับของ ชล็อต ตั้งแต่ที่คุมทีมแข่งกันที่ เอรีดิวีซี ฮอลแลนด์ 3 ปีของเขากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นยังเต็มไปด้วยเสียงวิจารณ์และทำท่าว่าจะไปไม่รอดอยู่หลายครั้งด้วย
ความพ่ายแพ้ต่อ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในครั้งนี้ หากมองกันในแง่ดี มันอาจจะทำให้กุนซือชาวดัตช์ได้มองเห็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในแท็คติกของตัวเอง รวมทั้งการประเมินคู่ต่อสู้ในเกมหน้าคงจะทำให้เขาและทีมงานต้องทำงานกันอย่างหนักมากขึ้น
ส่วนถ้ามองในอีกมุม หาก ชล้อต ไม่สามารถใช้บทเรียนจากเกมนี้ไปพัฒนาทีมได้ นั่นอาจจะทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องประสบปัญหาในระยะยาวก็เป็นได้
นี่จึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ อาร์เนอ ชล็อต กับการทำงานในอังกฤษ เขายังต้องเจอกับคู่แข่งเสือสิงห์กระทิงแรดอีกมากมายที่รออยู่ แฟนบอล ลิเวอร์พูล ก็คงได้แต่ลุ้นให้ทีมของพวกเขากลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในเกมล่าสุดโดยเร็ว
เหมือนอย่างที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ เคยย้ำเอาไว้ว่า เขามองเกมแบบนัดต่อนัด ไม่คิดถึงอนาคตที่ไกลเกินไป และพยายามทำให้ทีมกลับมาเล่นให้ดีในเกมหน้า แล้วทุกอย่างจะตามมาเอง