จับตา อาร์เซนอล 2024-2025 กับช่วงเวลาอีก 5 สัปดาห์แห่งการซื้อขาย - OPINION
- อาร์เซนอล ยังคงรอลุ้นการเซ็นสัญญานักเตะใหม่คนแรกในตลาดการซื้อขายสิงหาคม 2024
- พวกเขาลงทุนไปแล้วมากกว่า 500 ล้านปอนด์ นับตั้งแต่มิเคล อาร์เตต้า เข้ามาคุมทีมในเดือนธันวาคม 2019
ตลาดการซื้อขายรอบสิงหาคม 2024 จะปิดลงในวันที่ 31 สิงหาคม 2024 เวลา 06.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เท่ากับเหลือเวลาอีกประมาณ 5 สัปดาห์ ตลาดการซื้อขายจะปิดลง ในขณะที่ อาร์เซนอล ยังคงอยู่ในการเจรจาซื้อขายเพื่อเสริมทีมให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมกับผ่องถ่ายนักเตะหลายคนเพื่อความสมดุลในทีม
- ในบทความนี้เราจะพูดถึงว่าตอนนี้ทีมมีนักเตะอย่างไรบ้าง โดยจะมีการตัดนักเตะในกลุ่มที่มีโอกาสย้ายทีมในตลาดการซื้อขายรอบนี้ออกไปก่อน โดยประกอบไปด้วย เอมิล สมิธ โรว์, รีส เนลสัน, อารอน แรมสเดล, คีแรน เทียร์นีย์ และเอ็ดดี้ เอนเคเธีย
- ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ (22 ปี) “ยังไม่ปิดดีล” แต่คาดว่าจะสามารถจบดีลได้ในอีกไม่ช้านี้ จึงขอใส่ชื่อนักเตะลงมาในแผนภาพนี้
- อีธาน เอนวาเนรี่ (17 ปี) และ ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่ (17 ปี) เป็นสองนักเตะดาวรุ่งที่คาดว่ามีลุ้นขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในปีนี้ โดยทั้งสองคนเล่นกองกลาง แต่สเคลลี่ สามารถเล่นแบ็คซ้ายได้ด้วย และแน่นอนสองคนนี้ทีมจะได้ทั้งโควต้า U21 ก็ได้หรือจะใส่เป็นโควตา Home Grown ก็ได้เช่นกัน
- อาร์เซนอล ในเวลานี้มีนักเตะประมาณ 20 คน ในพื้นที่หลัก จำนวนผู้เล่นและชื่อผู้เล่นยังมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก โดยเฉพาะในพื้นที่แบ็คซ้าย ขณะที่ตัวที่มีข่าวย้ายออก ทุกดีลอาร์เซนอลอยากขายขาด หรืออย่างน้อยยืมตัวและมีเงื่อนไขบังคับซื้อขาด นี่คือทางเลือกที่พวกเขาต้องการในดีลขาออก
นายทวาร : ตำแหน่งนี้มีปัญหาที่เรื่องของนายทวารสำรองใครจะเป็นมือสองในฤดูกาลใหม่นี้ อารอน แรมสเดล จะเป็นตัวแปรหลักของประเด็นนี้ คาร์ล ไฮน์ ต่อสัญญาใหม่เพียงหนึ่งปีเท่านั้น เขาอาจโดนปล่อยยืมตัวไปเก็บประสบการณ์ระดับลีกอาชีพ ทอมมี่ เซตฟอร์ด เด็กใหม่สแตนบายรอลุ้นโอกาสของตนเองในทีมชุดใหญ่
กองหลัง : ตำแหน่งที่เต็มทุกพื้นที่มากจนเกินพอดี โดยเฉพาะในพื้นที่ทางซ้าย ซึ่ง อาร์เซนอล ทำให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถใช้ผู้เล่นได้หลายคนเล่นในพื้นที่นี้ หากการเข้ามาของ คาลาฟิออรี่ เกิดขึ้นจริง แบ็คซ้ายจะมีอย่างน้อย 5 จาก 8 คนที่เล่นตำแหน่งนี้ได้ ชื่อของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ ยาคุบ คิวิออร์ จึงมีข่าวย้ายออกจากทีม ทั้งสองคนคือสองผู้เล่นสุดท้ายในตำแหน่งกองหลังที่ยังไม่ได้รับสัญญาใหม่เลยนับจากย้ายมาร่วมงานด้วย ตำแหน่งนี้รอดูกันใน 5 สัปดาห์ที่เหลือจะผ่องถ่ายออกอย่างไร
กองกลาง : ตำแหน่งที่จำเป็นต้องมีการเสริมทีม หลังจาก โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ออกจากทีมไปแล้วพร้อมที่ว่างหนึ่งที่สำหรับกองกลางคนใหม่ การเซ็นสัญญาใหม่มีโอกาสมากอยู่แล้ว โดยหากมองตำแหน่งใหญ่ ๆ ในการเล่นเป็นกองกลางตัวรับ และกองกลาง Box to Box แล้ว อาร์เซนอล อาจจะมองหาแบบหลังมากกว่า ตรงนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป
ขณะที่ในส่วนการเข้ามาของ อีธาน เอนวาเนรี่ หรือว่า ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่ หากได้รับโอกาสจริงก็น่าจะเริ่มเป็นเหมือนกำลังสำรอง รอดูฟอร์มดูพัฒนาการกัน ถึงตรงนี้ขอยกตัวอย่างเทียบกับทีมในช่วงปี 2004-2005 เข้ามาประกอบให้เห็นภาพในช่วงเวลาที่อาร์เซนอลมีโครงสร้างแข็งแกร่ง และดันเด็กสักคนอย่าง เชส ฟาเบรกาส ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่
- 2004-2005: กิลแบรโต้ ซิลวา (DMC) / ปาทริค วิเอร่า (B2B / DMC) สองคนนี้เป็นตัวหลัก มี เอดู กาสปาร์ เล่นเป็นกองกลางอีกคน บวกกับเซ็นสัญญา มาติเยอ ฟลามินี่ ที่เป็นกลางรับมาอีกคน ดัน เชส ฟาเบรกาส ขึ้นมา กองกลางทั้งทีมก็มี 5 คน ปีนั้นมีการสลับตำแหน่งกันวุ่นวายพอสมควรจากอาการบาดเจ็บของ กิลแบร์โต้ ทำให้สุดท้าย ฟาเบรกาส โดดเด่นขึ้นมาในฐานะของ B2B ที่มี วิเอร่าเป็นพี่ใหญ่ในกลางรับคู่กัน ก่อนที่ปีต่อมาจะเกิดการย้ายทีมครั้งใหญ่ ปรับโครงสร้างใหม่
- 2005-2006: วิเอร่า และ เอดู ย้ายออกจากทีม ฟาเบรกาส และ กิลแบร์โต้ เป็นตัวหลัก ฟลามินี่ ยังคงอยู่ เพิ่มเติมด้วยการดัน อเล็กซ์ ซง ขึ้นมาอีกคน และมีการเซ็นสัญญา อเล็กซานเดอร์ เคล็บ เข้ามาเพิ่ม ลดจำนวนคู่กลางลง แต่เพิ่มออฟชั่นในเกมรุกมากขึ้นด้วยเคล็บ
- 2023-2024: ระบบการเล่น 4-3-3 หรือในลักษณะของ 4-2-3-1 การเข้ามาของ ดีแคลน ไรซ์ ทำให้ จอร์จินโญ่ หรือว่า โธมัส ปาเตย์ เข้าสู่ลูปการเป็นกลางรับได้มากขึ้น ไรซ์เข้ามาแทนที่ กรานิท ชาก้า ในตำแหน่ง B2B ที่เล่น DMC ก็ได้ โดยมี โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ เป็นตัวสแตนบาย + กับรูปแบบการเล่น Invert Fullback อาร์เซนอลจึงมีรูปแบบการเล่นในแบบกองกลางคู่ที่ใช้กองหลังขึ้นมาช่วย แต่ก็ยังขาดในส่วนของ Box to Box อีกสักคนที่มีประสิทธิภาพดี ๆ เพื่อคอยซัพพอร์ตและเพิ่ม Squad Depth
- 2024-2025: การเข้ามาของนักเตะหน้าใหม่ ที่อาจจะเป็น มิเกล เมริโน่ (ตามข่าว) ก็ตรงตามตำแหน่งที่อยากได้ หรือจะใช้บริการสองดาวรุ่งอีธาน เอนวาเนรี่ หรือว่า ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่ พวกเขาอาจจะมีใครสักคนโดดเด่นขึ้นมาก็เป็นได้เช่นกัน
แนวรุก: พื้นที่นี้ถูกพูดถึงอย่างมากว่า อาร์เซนอล จะเดินเกมลักษณะใด เพราะในตำแหน่งนี้ตัวละครในทีมหลายคนคือกลุ่มคนที่จะถูกปล่อยออกจากทีม และทีมมีความเป็นไปได้ในหลายทางเลือกกับการเสริมผู้เล่นหน้าใหม่ ด้วยความที่มีผู้เล่นสลับตำแหน่งหลากหลาย และสามารถทำประตูได้ถล่มทลาย (91 ประตู จาก 38 เกมลีก / 112 ประตู จาก 51 เกมในทุกรายการ) โดยกลุ่มนี้แบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกัน
กองกลางตัวรุก : มาร์ติน เออเดการ์ด คือคนสำคัญที่สุดของอาร์เซนอล เขาเป็นหอคอยบัญชาการในพื้นที่แดนบน หลายครั้งกำหนดจังหวะชี้เป็นตาย หรือเป็นคนจบสกอร์ได้ด้วยตนเอง พื้นที่ตรงนี้ยังมี ไค ฮาแวตซ์ หรือกระทั่ง ฟาบิโอ วิเอร่า มาเป็นทางเลือกได้อยู่ อย่างไรก็ตาม เออเดการ์ด ก็ยังคงเป็นคนสำคัญที่สุด
ปีก : ทางซ้าย กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ เลอันโดร ทรอตซาร์ ชัดเจนว่าต่อสู้กันใหม่ในฤดูกาลใหม่ “กาบิ” เสียตำแหน่งตัวจริงไปในช่วงท้ายฤดูกาลและประกาศแล้วว่าปีใหม่นี้จะกลับมาเอาตำแหน่งคืนให้ได้ ส่วน ทรอตซาร์ จบปีที่แล้วด้วยผลงานที่โดดเด่นมาก พื้นที่ตรงนี้ดูแล้วไม่ใช่จุดใหญ่ที่ต้องปรับเปลี่ยน ตรงข้ามกับทางขวา บูคาโย่ ซาก้า คือ “ตัวเปิด”โอกาสในเกมรุกของอาร์เซนอล ซึ่งไม่มีใครจะมาทดแทนได้ในสองปีที่ผ่านมา การเสริมทีมเพื่อมาโรเตชั่นในพื้นที่นี้เป็นเรื่องยากสำหรับทีมงาน ฟาบิโอ วิเอร่า ถูกประเมินเป็นทางเลือกสำรอง หลังจากที่ได้รับโอกาสในช่วงปรีซีซั่นจากการที่ ซาก้า ยังไม่กลับจากการพักเบรคหลังทีมชาติ หากดาวเตะโปรตุเกสทำผลงานได้น่าพอใจในพื้นที่นี้ก็อาจไม่จำเป็นต้องเสริมทีม เพราะนี่คือการเสริมทีมที่คาดหวังไว้ตั้งแต่สองปีก่อนแล้วแต่ยังไม่ได้ผลงานตามต้องการ และนี่คือโอกาสอีกครั้งสำหรับเขา รวมถึง กาเบรียล เชซุส ที่เคยถูกขยับมาเล่นทางขวามาตั้งแต่สมัยกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
กองหน้า : กาเบรียล เชซุส อยู่ในสถานะชัดเจนว่าจะอยู่กับทีมต่อไปแน่นอน ไม่ว่าจะในสถานะใด เขาคือส่วนหนึ่งของทีม การแย่งชิงตำแหน่งกับ ไค ฮาแวตซ์ คือความท้าทายของเขาในปีนี้ และจะยากขึ้นอีกถ้าทีมเลือกเสริมในพื้นที่นี้โดยตรง
และทั้งหมดนี้คือภาพรวม ๆ ของอาร์เซนอล กับอีก 5 สัปดาห์ที่เหลือนับจากนี้ หวังว่าจะช่วยให้คุณผู้ชมมีความสุขกับการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับอาร์เซนอลได้มากยิ่งขึ้นครับ