เป้าหมายในอนาคตของ เบน ไวท์ กับ อาร์เซนอล - OPINION

นับตั้งแต่ย้ายจาก ไบรท์ตัน มาเล่นกับ อาร์เซนอล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2021 เบน ไวท์ กองหลังทีมชาติอังกฤษ ก็กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีมของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า มาตลอด

ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ดาวเตะวัย 26 ปี ลงสนามให้กับ อาร์เซนอล ไปรวมทุกรายการมากว่า 90 เกม แล้ว และ ไวท์ ก็ยังตั้งเป้าหมายว่า จะเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จ และค้าแข้งกับพลพรรค “ปืนใหญ่” ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

อดีตกองหลัง ไบรท์ตัน กล่าวว่า “ใช่ แน่นอน ผมอยากอยู่กับ อาร์เซน่อล ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเล่นอยู่ในระดับสูงสุด รวมถึงผลักดันสโมสรนี้กลับไปยังจุดที่ต้องการ เมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกพูดถึงเรื่องสัญญาใหม่ มันเป็นความรู้สึกที่น่าทึ่งที่มีคนต้องการคุณ ผมยังมีสัญญาปัจจุบันเหลืออยู่อีก 2-3 ปี ดังนั้น แม้จะได้พูดถึงมันก่อน มันก็เป็นความรู้สึกที่ดี”

 “อาร์เซนอล เป็นทีมเดียวที่ผมอยู่มานานกว่าหนึ่งปี แน่นอนว่า ผมอายุมากขึ้นแล้ว ตอนนี้ผมมีภรรยาแล้ว ซึ่งแตกต่างกับตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่นเล็กน้อย สิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปในชีวิตของผม ภรรยาของผมเป็นคนลอนดอน ดังนั้น ที่นี่จึงเหมาะสำหรับเธอ และพวกเขาเป็นสโมสรที่น่าทึ่งที่ได้เข้ามาทำงานทุกวัน ผมคิดว่านี่เป็นสโมสรโปรดของผมเลย "

ก่อนที่จะย้ายมายัง อาร์เซนอล ไวท์ เป็นเด็กปั้นจากทีมเยาวชนของ ไบรท์ตัน โดยผ่านการย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ นิวพอร์ต เคาน์ตี้, ปีเตอร์โบโร่ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด ก่อนจะผลักดันตัวเองขึ้นมาเล่นในระดับสูงสุดได้สำเร็จ

ไวท์ ซึ่งเคยโดนตั้งคำถามอย่างหนักถึงค่าตัว 50 ล้านปอนด์ กล่าวต่อว่า “ผมคิดว่าทุกปีคุณต้องพิสูจน์ตัวเอง แน่นอนว่ามีผู้เล่นดีๆ มากมายที่นี่ พวกเขาจะเข้ามาแย่งตำแหน่งของคุณหากคุณไม่พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นงานของผมที่จะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่ออยู่ในทีม และช่วยเหลือทีมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

“ผมไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองถูกมองอย่างไรนอกสโมสร แต่ผมรู้ว่า ผู้คนต่างก็มีความคิดเห็นของพวกเขาเอง และนั่นคือสิ่งที่กวนใจผมเล็กน้อย แต่มันเป็นการตัดสินใจของผู้จัดการทีมที่จะให้นักเตะเล่นในแบบที่เขาอยากให้เล่น และโชคดีที่ตอนนี้ผมอยู่ในทีมตัวจริงแล้ว”

ไวท์ ไม่ใช่คนที่ชอบปล่อยให้ตัวเองอยู่ว่าง เขาชอบทำงานหนักทั้งใน และนอกสนาม รวมถึงมุ่งมั่นกับฟุตบอลแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยอดีตแข้ง ไบรท์ตัน ระบุว่า ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองพัฒนาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

กองหลังซึ่งมีดีกรีทีมชาติอังกฤษ 4 เกม กล่าวต่อว่า ““ผมคิดว่าผมเป็นแบบนั้นมาตลอด ผมไม่คิดว่าจะมีใครรู้สึก 100 เปอร์เซ็นต์ ในการลงเล่นทุกเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมี 3 เกมในหนึ่งสัปดาห์ แต่เมื่อคุณเข้าไปในบรรยากาศนั้น ในสนามกีฬาขนาดใหญ่ และคุณได้ยินเสียงแฟนบอล คุณจะลืมความเจ็บปวด และรู้สึกอยากผ่านมันไปให้ได้”

“การไม่ได้รับบาดเจ็บ และการดูแลตัวเองอาจเป็นกุญแจสำคัญที่สุดในการก้าวหน้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ด้วยเหตุผลใดๆ เพียงเพราะมันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น และพร้อมมากขึ้นสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น”

 “ในทางสภาพจิตใจ ผมจะตรวจสอบตัวเองเมื่อเสร็จสิ้นจากการฝึกซ้อม ดังนั้น ผมจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ทุกครั้งที่อยู่ห่างจากการฝึก ซึ่งนั่นอาจไม่ได้ผลสำหรับทุกคน แต่มันได้ผลสำหรับผม”

ในสมัยก่อน ไวท์ แจ้งเกิดในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง แต่หลังจากย้ายมา อาร์เซนอล เขาโดนขยับไปเล่นเป็นแบ็คขวา แต่เจ้าตัวก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทำหน้าที่ดีกล่าวได้อย่างแข็งแกร่งจนกลายเป็นตัวเลือกแรกไปเรียบร้อยแล้ว

ไวท์ กล่าวว่า “การทำงานผู้จัดการทีมคนนี้ ผมเล่นฟูลแบ็คได้ เล่นตรงไหนก็ได้ทั้งแนวรับริมเส้น หรือตรงกลาง แต่การเล่นฟูลแบ็คในแบบที่เขาต้องการ ผมคิดว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับผู้จัดการทีมคนอื่นๆ การเล่นฟูลแบ็กให้ อาร์เตต้า คุณต้องเป็นทั้งเซ็นเตอร์แบ็ค, แบ็คบวา, ปีก และ นักเตะหมายเลข 10 ดังนั้น มันเกี่ยวกับการพัฒนาเกมทั้งหมดของผม มากกว่าที่จะเล่นฟูลแบ็กหรือกองหลังทั่วไป”

“ผมคิดว่าส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องของจิตใจ มันเป็นเรื่องยากทางจิตใจเมื่อคุณรู้ว่าปีกที่คุณกำลังเผชิญหน้าจะต้องเร็วกว่าคุณ แต่มันเกี่ยวกับการพยายามหาวิธีที่คุณสามารถเป็นตัวของตัวเอง และคว้าชัยชนะได้ดีที่สุด คุณต้องค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่ จะหยุดพวกเขา" กองหลังชาวอังกฤษ กล่าวทิ้งท้าย