ชัยชนะครั้งสำคัญของ ลิเวอร์พูล ก่อนเข้าสู่ช่วงพักเบรกทีมชาติ - OPINION
- ลิเวอร์พูล กลับมาคว้าชัยชนะอีกครั้ง
- ทีมกลับมาเล่นด้วยฟอร์มที่ดีในภาพรวม
- ขยับไปรั้งรองจ่าฝูงก่อนพักเบรกทีมชาติ
โดย Navapun Munarsa
ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำทัพของกุนซือ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งด้วยการเปิดสนาม แอนฟิลด์ ไล่ถล่ม เบรนท์ฟอร์ด แบบขาดลอย 3-0 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ “หงส์แดง” ไม่เจอกับชัยชนะติดต่อกัน 2 เกมรวมทุกรายการ
ก่อนหน้าจะมีชัยเหนือ เบรนท์ฟอร์ด นั้น ลิเวอร์พูล ทำได้แค่บุกไปเสมอกับ ลูตัน ทาวน์ 1-1 ในเกมลีก ต่อด้วยบุกไปพ่าย ตูลูส ในศึก ยูโรปา ลีก โดยทีมของ คล็อปป์ กำลังต้องการจุดเปลี่ยนเพื่อกลับมาให้เร็วที่สุด และพวกเขาก็ทำผลงานได้ตามเป้าหมายด้วยการเก็บ 3 แต้ม และเก็บคลีนชีตได้สำเร็จในเกมกับ “เดอะ บีส์”
ในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด นั้น ลิเวอร์พูล ปรับเปลี่ยนในหลายจุดโดยเฉพาะแดนกลางที่หลังจากตัวหลักอย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ติดโทษแบน ไรอัน กราเฟนแบร์ก มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน และ เคอร์คิส โจนส์ ยังไม่พร้อมลงเล่น ทำให้ วาตารุ เอ็นโด และ โคดี้ กัคโป ลงยืนผนึกกำลังร่วมกับ โดมินิค โซบอสซ์ไล
เอ็นโด ที่โชว์ฟอร์มไม่ดีนักในเกมกับ ยูโรปา ลีก ตูลูส และโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งแรก กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง โดยดาวเตะวัย 30 ปี ยืนปักหลักหน้าแผงแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง และช่วยตัดบอลสวยๆหลายครั้ง รวมถึงคุมจังหวะได้อย่างสมดุล
ส่วน กัคโป ในบทบาทมิดฟิลด์ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดีทั้งในการช่วยไล่เพรสซิ่ง เคลื่อนที่หาช่องว่าง ครองบอล ผ่านบอล และพยายามสร้างสรรค์เกมรุกด้วยตัวเอง ซึ่งถือว่า ทำให้เกมแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ไหลลื่น
ขณะที่ แนวรุก ลิเวอร์พูล ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง โดย ดาร์วิน นูนเญซ หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ส่งบอลเข้าไปสู่ก้นตาข่ายถึง 2 ครั้ง แต่น่าเสียดายที่เป็นลูกล้ำหน้า แต่เจ้าตัวยังคงแสดงให้เห็นถึงความพยายาม พลังงาน ความแข็งแกร่ง ความมุ่งมั่น และทำไป 1 แอสซิสต์ให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ในส่วนของ ซาลาห์ หลังระเบิดฟอร์มยิงคนเดียว 2 ลูก ในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด ก็ส่งผลให้ ซุเปอร์สตาร์ชาวอิยิปต์ วัย 31 ปี กลายเป็นนักเตะคนที่ 8 ที่ทำสถิติมีส่วนร่วมกับการทำประตูใน พรีเมียร์ลีก มากกว่า 200 ประตู ได้สำเร็จ
นอกจากนี้ บรรดานักเตะเก่าที่เป็นกระดูสันหลังของทีมมาหลายซีซันอย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์, โจเอล มาติป, เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังคงเป็นที่พึ่งให้กับทีมได้เสมอ และรักษามาตรฐานของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม
อลิสซอน โชว์ฟอร์มซุเปอร์เซฟจังหวะสำคัญหลายหช่วยให้ ลิเวอร์พูล ไม่โดนนำไปก่อน ก่อน ขณะที่ ฟาน ไดจค์ ก็กลับมาบัญชาการเกมรับได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วน มาติป ก็เล่นได้อย่างมั่นใจ และ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนด์ ก็มีส่วนร่วมกับเกมเยอะมาก
ในสัปดาห์นี้จะเป็นการเข้าสู่ช่วงเบรกทีมชาติครั้งสุดท้ายของปี 2023 และ ลิเวอร์พูล ขยับขึ้นมารั้งเป็นรองจ่าฝูงในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมีแต้มตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกไปเสมอกับ เชลซี แบบสุดมันส์ 4-4 เหลือเพียงแต้มเดียวเท่านั้น
เกมถัดไปถือเป็น “บิ๊กแมทช์” สำคัญที่สุดเกมหนึ่งในซีซันนี้ของ ลิเวอร์พูล เนื่องจากต้องยกพลไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 19.30 น. ซึ่งหากยังหวังลุ้นแชมป์ พวกเขาต้องไม่พ่ายแพ้กลับออกมา