แชมป์ คาราบาว คัพ กับ 2 เป้าหมายที่แตกต่างกันของ ลิเวอร์พูล และ เชลซี - OPINION

  • ลิเวอร์พูล จะพับกับ เชลซี ในนัดชิงฯ คาราบาว คัพ
  • “หงส์แดง” ตั้งเป้าหมายลุ้น 4 แชมป์ในซีซันนี้
  • “สิงห์บลู” ต้องการคว้าแชมป์แรกในยุค เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Chris Brunskill/Fantasista/GettyImages
facebooktwitterreddit

ลิเวอร์พูล จะมุ่งหน้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย คาราบาว คัพ ที่สนาม เวมบลีย์ ในวันอาทิตย์นี้ โดยตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์แรกจากการลุ้น 4 รายการที่มีโอกาสในฤดูกาลนี้ ขณะที่ เชลซี ตั้งเปี้คว้าแชมป์ในประเทศครั้งแรกในรอบ 6 ปี ให้ได้

ในเกมนัดนี้จะเป็นการรีแมตช์ทั้งรอบชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2022 โดย ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเอาชนะการดวลจุดโทษเหนือ เชลซี ทั้ง 2 รายการ และปัจจุบัน “หงส์แดง” นำเป็นจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก และเข้าสู่ศึก ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย รวมถึงผ่านเข้ารอบที่ 5 เอฟเอ คัพ

Trent Alexander-Arnold, Mohamed Salah, Darwin Nunez
Liverpool FC v Manchester United - Premier League / Clive Brunskill/GettyImages

เป๊ป ลินเดอร์ส ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล กล่าวว่า “เราจะลุยไปด้วยกัน มันเป็นเกมที่พิเศษ เกมพิเศษจำเป็นต้องมีฟอร์มการเล่นที่พิเศษ ดังนั้น เราต้องมุ่งเน้นไปที่ฟอร์มของพวกเรา ปรัชญาของเราคือ การมอบความสุข และอารมณ์ij;,ให้กับแฟนๆ ผมมีความสุขจริงๆ ที่อย่างน้อยเราสามารถเข้ามาถึงรอบรอบชิงชนะเลิศเพื่อเริ่มต้นสิ่งต่างๆได้”

ขณะที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังชาวดัตช์กัปตันทีม ลิเวอร์พูล ซึ่งจะสวมปลอกแขนนำเพื่อนร่วมทีม “หงส์แดง” ลงเล่นใน เวมบลีย์ เป็นครั้งแรกอของเจ้าตัวระบุว่า  “เราต้องการทำให้มันเป็นวันพิเศษ และคว้าถ้วยรางวัลแรกของฤดูกาลให้ได้”

“การสิ้นสุดฤดูกาลอาจทำให้หลายคนสะเทือนอารมณ์รวมถึงผู้จัดการทีมด้วย แต่เรายังไปไม่ถึงตรงนั้น เราไม่ควรมองไปข้างหน้าไกลเกินไป เราควรมองไปที่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา”

นอกจากนี้ ลินเดอร์ส ยืนยันว่า นักเตะ ลิเวอร์พูล ที่ได้รับบาดเจ็บอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ โดมินิค โซบอสไล มีเวลาพักฟื้นมากพอที่อาจจะกลับมาทันเกมวันอาทิตย์ แต่คนอื่นๆอย่าง เคอร์ติส โจนส์, อลิสสัน เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ ดิโอโก้ โชต้า ไม่พร้อมลงสนาม

โค้ชชาวดัตช์กล่าวว่า “เป็นเรื่องดีเสมอในชีวิตที่จะยอมรับสิ่งที่คุณมี และอย่ามองสิ่งที่คุณไม่มี นั่นทำให้เราประสบความสำเร็จในอดีต โยฮัน ครัฟฟ์ กล่าวว่า ข้อเสียทุกอย่างย่อมมีข้อได้เปรียบ และเราได้เห็นนักเตะอายุน้อยที่ไม่ได้ลงเล่นเป็นประจำก้าวขึ้นมามีส่วนร่วมกับทีม มันเป็นคำชมสำหรับทีมงาน และอะคาเดมี่ของเรา

“สำหรับผม ความสำเร็จกำลังเติบโต เรามุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทีมชุดนี้ นำผู้เล่นอายุน้อยมาทำให้พวกเขาดีขึ้น และผู้เล่นที่มีอายุมากกว่าคอยประคอง มันความสำเร็จที่สมเหตุสมผล ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรที่สร้างขึ้นมาเพื่อถ้วยรางวัลสำคัญๆ ในแต่ละปี เราควรต่อสู้เพื่อแฟนบอล และนั่นคือสิ่งที่เราจะพยายามทำ”

Mauricio Pochettino, Ben Chilwell
Manchester City v Chelsea FC - Premier League / James Gill - Danehouse/GettyImages

ทางด้าน เชลซี ถ้วยรางวัลในประเทศถ้วยสุดท้ายคือ เอฟเอ คัพ ปี 2018 แม้ว่าจะคว้าแชมป์ระดับนานาชาติ 4 รายการหลังจากนั้น แต่ล่าสุดคือ แชมป์สโมสรโลก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 และต่อมาอีก 2 สัปดาห์ พวกเขาก็แพ้ ลิเวอร์พูล ในรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ ปี 2022

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนไตน์ เข้ามารับงานในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว ก็ตั้งเป้าจะคว้าแชมป์แรกในแผ่นดินเมืองผู้ดีให้ได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยทำงานกับ เซาแธมป์ตัน และ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ

เทรนเนอร์วัย 51 ปี กล่าวว่า “มันมีความหมายมากสำหรับเรา ซึ่งเป็นทีมงานสตาฟฟ์โค้ชในการผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ และเผชิญหน้ากับทีมอย่าง ลิเวอร์พูล มันเป็นความฝันสำหรับเรา เรามีโอกาส และเราจะสู้ ผมคิดว่า ทีมชุดนี้พร้อมแล้ว และเราจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากๆ”

ในซีซันที่ผลลงานในลีกน่าผิดหวัง และแทบจะหมดโอกาสตคว้าตั๋วไปเล่นในฟุตบอลยุโรปซีซันหน้า บางทีการคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ ของ เชลซี ในเกมนี้ อาจทำให้ โปเช็ตติโน่ คลายความกดดันลง และมีโอกาสจะอยู่สร้างทีมสายเลือดใหม่ต่อไปในอนาคต